Quantcast
Channel: Unlockmen
Viewing all 7776 articles
Browse latest View live

PLANT LIFE BALANCE: 3 APPS ตอบโจทย์วิถีชายสมชายสไตล์ ECOTOPIA ด้วยปลายนิ้ว

$
0
0

ตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ที่เราสังเกตได้ว่าสีเขียวกลายเป็นเฉดที่หายไปจากพื้นที่ใกล้ตัว และการหยอดสีเขียวเข้าไปในไลฟ์สไตล์กลายเป็นเทรนด์น่าสนใจสำหรับคนยุคนี้ ดังนั้น เพื่อให้ชาว UNLOCKMEN ก้าวสู่การเป็นผู้ชายสีเขียวหรือผู้ชายสายอีโค รักษ์ธรรมชาติอย่างเต็มสูบไม่ตกขบวน เราจึงสรรหาแอปพลิเคชันที่จะเข้ามาช่วยให้คุณไม่เพียงมีสีเขียวในหัวใจ แต่สามารถจัดเตรียมพื้นที่ข้าง ๆ ให้พร้อมเป็นสีเขียวฉบับ PLANT LIFE BALANCE ได้เป็นอย่างดีด้วยปลายนิ้วจาก 3 แอปพลิเคชันและ 1 อุปกรณ์ต่อไปนี้

 

ดูฮวงจุ้ยให้ต้นไม้

หน้าแม่น้ำ หลังภูเขา ซินแสคนไหนก็บอกว่าดี แต่เราว่าแค่ความเชื่อตำแหน่งการวางต้นไม้ตามใจซินแสอาจจะยังไม่พอกับบุรุษรักษ์โลกอย่างเรา ถ้าอยากให้ถูกใจกันทั้งเจ้าของห้องและซินแสควรต้องมีแอปฯ “Plant life balance” ชื่อเดียวกับบทความนี้ไปใช้คู่กันเพื่อจำลองห้องจริง ๆ ของเราเวลาใส่ต้นไม้เข้าไปด้วย

นอกจากแง่การเปลี่ยน Man Cave ของเราให้น่าอยู่ยิ่งขึ้นแล้ว ข้อดีอีกอย่างของการสร้างพื้นที่สีเขียวคือเรื่องของการฟอกอากาศในห้องให้มีคุณภาพขึ้น เพราะว่ากันว่า ต้นไม้หนึ่งต้นสามารถปรับสภาพอากาศในห้องให้มีคุณภาพขึ้นถึง 25 % ด้วย

สำหรับคนที่อยากเริ่มต้นและพอจะมีต้นไม้อยู่บ้างในห้องแต่ไม่รู้ว่าพอไหมก็ลองประเมินเรตวัดระดับความเขียวในห้องได้ว่าอยู่ในระดับไหน ดีพอหรือยัง ? จากการถ่ายรูปเพื่อให้แอปฯ คำนวณ ถ้าพอใจแล้วก็แค่ดูแลต่อให้ดี แต่ถ้าอยากจะใส่เพิ่มอีกก็เลือกดูได้ไม่เสียหาย

DOWNLOAD

สืบพันธ์ุ(พืช)

 

หลังจากที่รู้แล้วว่าเราควรต้องมีต้นไม้ประดับห้องไม่ว่าจะเป็นที่ทำงานหรือบ้านไว้สักต้น ขั้นต่อไปเราเรียกว่าการสืบพันธุ์(พืช) เพราะบางทีพวกเราเดินเที่ยวข้างนอกก็บังเอิญไปเจอต้นโน้นต้นนี้ที่หน้าตาเข้าเค้า อยากมีปลูกไว้ในห้องหรือบริเวณบ้านแต่ว่าไม่รู้ชื่อ ยิ่งพอไม่ได้เจอที่ร้านต้นไม้ด้วยแล้วก็ไม่รู้จะถามใคร

เพื่อหาต้นไม้ที่รักได้ถูกฝาถูกตัว รู้ชื่อไว้ให้สืบสาววิธีการดูแลต่อเนื่องจะได้มีใบเขียวสด ผลิดอกออกผลอยู่กับเราได้นาน ๆ แนะนำให้ใช้แอปฯ PlantNet Plant Identification ที่สามารถช่วยแยกสายพันธุ์ได้ละเอียดจากรูปถ่ายที่เราถ่ายเก็บไว้ ซึ่งแอปฯ นี้ไม่เพียงแค่ทำหน้าที่เป็น wikipedia หรือ google เพื่อหาสิ่งถูกใจเท่านั้น แต่เราเองก็ยังสามารถมีส่วนร่วมอัปเดตแบ่งปันชื่อต้นไม้ ภาพ และสายพันธ์ุที่เรารู้จักเพิ่มเข้าไปได้ด้วย เป็นหนึ่งในช่องทางช่วยเหลือกันไปมาระหว่างคนที่รักต้นไม้เหมือน ๆ กัน

DOWNLOAD

 

ประกันการรู้ใจ

คนที่ไม่ได้ปลูกต้นไม้เป็นประจำ แต่ก็อยากเป็นโปรอย่างเขาและไม่อยากให้ใครมาพูดหยามว่าปลูกต้นไม้ต้นเดียวยังไม่รอด เมื่อต้นไม้ไม่มีปากร้องบอกว่าอยากได้อะไรก็ต้องหาตัวช่วยกันหน่อย ติด EDYN อุปกรณ์ช่วยเลี้ยงต่างปากใช้คู่กับแอปฯ เพื่อรู้ใจต้นไม้แล้วเสิร์ฟแต่สิ่งที่พลพรรคสีเขียวต้องการ วิธีใช้ก็ง่ายมากเพราะเขามีตัวอย่างให้ทำตามว่าต้องปักในระยะห่างเท่าไร จากนั้นก็ซิงค์ข้อมูลเข้ากับแอปพลิเคชันในสมาร์ทโฟนเช็กสุขภาพต้นไม้ได้แบบละเอียดลึก ทั้งเรื่องสภาพดิน ความชื้น น้ำ แล้วแจ้งเตือนเรา จะว่าไปก็คล้ายการเลี้ยงทามาก็อต หิวก็ร้องเตือน เกิดอะไรก็ร้องเตือน เพื่อให้เราสามารถแก้ไขปัญหาให้ถูกต้องและทันท่วงที จนต้นไม้เติบโตได้อย่างแข็งแรง

DOWNLOAD

 

ตอบคำถามเพิ่มให้กับคนที่ยังมีความเชื่อเก่า ๆ ว่าการมีต้นไม้ในห้องมันจะทำให้เราหายใจไม่ออก นอนหลับไปเดี๋ยวก็ได้ไหลตายไปกับการสูดคาร์บอนไดออกไซด์ ความคิดนี้มัน OUT ไปแล้ว เพราะมีต้นไม้หลายประเภทที่องค์กรระดับโลกอย่าง NASA เคยวิจัยไว้และติด recommend ขึ้นแท่นว่าควรปลูกเพราะกรองได้ทั้งอากาศ และสังเคราะห์ก๊าซออกซิเจนออกมาได้ในตอนกลางคืนจะได้หลับฝันดี ได้แก่

มะลิ (Jasmine) ลาเวนเดอร์ (Lavender)

ลิ้นมังกร (Snake Plant) ว่านหางจระเข้ (Aloe Vera) 

พุดซ้อน (Gardenia) เศรษฐีเรือนใน (Spider Plant)

วาเลอเรี่ยน (Valerian) ตีนตุ๊กแกฝรั่ง (English Ivy)

เดหลี (Peace Lily) ปาล์มไผ่ (Bamboo Palm)

ส่วนใครที่อยากเช็กเพิ่มเติมว่ามีพันธุ์อื่นอีกไหมเพราะยังไม่ถูกใจ ลองเข้าไปดูได้ในผลวิจัยนี้ได้เลย ไม่ต้องรอช้า

LET’S GO GREEN!

SOURCE


อยู่ดี ๆ ก็โดนเพ่งเล็ง! 5 เทคนิคเจ๋ง ๆ รับมือกับบอสที่ไม่ชอบขี้หน้าเรา

$
0
0

ที่ทำงานของคุณเป็นยังไงบ้าง ? พอเจอคำถามนี้เข้าไป ลองมองไปรอบ ๆ ตัวไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศ การเดินทาง เพื่อนร่วมงาน และหัวหน้า หากคุณรู้สึกไม่โอเคกับสักสิ่ง ก็เป็นสัญญานว่าเริ่มใช้ชีวิตการทำงานลำบากมากขึ้นแล้วล่ะ

หากเป็นสภาพแวดล้อมก็ยังพอทนไหว แต่สำหรับคนรอบตัวในที่ทำงานนี่สิที่ยาก จะบอกว่าไม่ต้องสนใจสิวะ! ทำงานของเราไป แต่ถ้าคนนั้นเป็น “เจ้านาย” ล่ะ ? เราคงช่างมันไม่ได้หรอกนะ

จะมีปัญหากับใครก็ได้ แต่จะมีปัญหากับเจ้านายไม่ได้! UNLOCKMEN จะช่วยหาทางออกให้สำหรับคนที่เตรียมจะงัดกับหัวหน้าอยู่หลายระลอก ลองสันติวิธีที่ไม่ต้องงัดกันให้เสียความสัมพันธ์กันดีกว่า

สังเกตท่าที

คุณอาจยังไม่แน่ใจว่าตกลงบอสคิดยังไงกันแน่ ลองสังเกตสิ่งเหล่านี้ดู ด้วยวุฒิภาวะของความเป็นหัวหน้าคงไม่มีใครบอกกันโต้ง ๆ ว่า “เฮ้ย ! ไม่ชอบขี้หน้าคุณเลยว่ะ” แต่อาจจะแสดงออกด้วยท่าทีอย่างอื่นแทน ไม่ว่าจะเป็นภาษากายอย่างสายตา ท่าทาง หรือจะเป็นคำพูด ที่เป็นอะไรที่ดูออกง่ายกว่าพอสมควร ถ้าใครไม่ถูกชะตากับเรา และยิ่งถ้าเป็นหัวหน้า งานในมือคุณก็จะถูกเพ่งเล็งเป็นพิเศษ ลองสังเกตคำพูดประเภท “อย่าลืมนะ ว่าต้องทำนี่ นี่ แล้วค่อยไปนี่” “คุณลองทำแบบนั้นดีกว่ามั้ย?” ถ้าหากคุณรู้สึกว่าถูกเพ่งเล็งนั่นหมายความว่าคุณอาจไม่ได้รับความไว้วางใจให้ทำงานนั้นมากพอ แล้วมาดูวิธีรับมือในข้อต่อไป

แสดงความกระตือรือร้น

ทุกครั้งที่มีการเริ่มโปรเจกต์ใหม่ แสดงให้บอสเห็นว่าคุณเตรียมตัวมาบ้างแล้ว ทำเท่าที่ทำได้แบบเป็นธรรมชาติของคุณ ไม่จำเป็นต้องมาแน่นปึ้ก 100% เพื่อเอาใจ เพราะมันจะดูเหมือนเอาหน้ามากกว่า และถ้าหากมีข้อติชม ต้องแสดงให้เห็นว่าคุณพร้อมที่จะรับฟังและแก้ไขมัน หรือถ้าหากโดนติด้วยอคติจริง ๆ คุณก็ต้องแสดงท่าทีว่าเหมือนรับฟังอีกนั่นแหละ และอธิบายกลับไปว่าทำไมมันต้องเป็นแบบนี้ ไม่ใช่เพื่อเถียง เพื่อเอาชนะ แต่เป็นเพราะคุณกระตือรือร้นและเตรียมตัวมาดีมากพอนั่นเอง

อ่านเกมให้ออก จับทางให้ได้

ต้องหมั่นสังเกตว่าบอสของคุณให้ลำดับกับความกับอะไรเป็นพิเศษ บางครั้งการทำงานของเราอาจครบถ้วนสมบูรณ์ดีแล้วล่ะ แต่ว่ามันยังไม่ได้ตามที่บอสต้องการ เพราะบางครั้งเรานี่แหละที่อาจเรียงลำดับความสำคัญไม่ตรงกับเขา ลองสังเกตสไตล์การทำงานของเขา ว่าถ้าหากเขาลงมือทำงานเอง เราจะเริ่มจากอะไร แล้วทำอะไรต่อ เราลองจับทางให้ดี แล้วทำตามแต่ไม่ต้องเหมือนเป๊ะไปทุกอย่าง แค่ยกเรื่องที่บอสมักจะให้ความสำคัญเอามาไว้อันดับแรกเหมือนกัน เผื่อว่าบอสทวงถามเราจะได้มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันให้เขาได้ดูบ้าง และบอสอาจจะรู้สึกเป็นมิตรกับเรามากขึ้นหากเรามีสไตล์การทำงานที่ใกล้เคียงกับเขา

ไม่ต้องทำเกินหน้าที่

ในสถานการณ์ที่ทำพลาดมีคนรอซ้ำ ทำดีเสมอตัวแบบนี้ ควรหา Safe Zone ให้ตัวเองแล้วปักหลักให้มั่น อย่าเพิ่งทำอะไรโดดเด่นเกินหน้าเกินตาใคร เพราะมันเหมือนคุณพยายามเอาอกเอาใจบอสเป็นพิเศษ นอกจากจะโดนหมั่นไส้จากเพื่อนร่วมงานแล้ว บอสเองก็อาจยิ่งตั้งหน้าตั้งตาหาข้อผิดพลาดของคุณมากขึ้น

ทำตัวปกติ

อย่ากระโตกกระตากเกินไปแม้ว่าคนที่จะไม่ชอบคุณคือเจ้านายก็ตาม ไม่จำเป็นต้องเดินเข้าไปเคลียร์เป็นการส่วนตัว เพราะอาจทำให้เกิดการเข้าใจผิดว่ามันเป็นการหาเรื่องก็ได้ แค่ทำตัวไปตามปกติของคุณ แม้ว่าจะโดนสายตามองค้อนบ้าง ไม่เต็มใจจะคุยบ้าง แต่ถ้าหากเรายิ่งนิ่งยิ่งมืออาชีพ เพราะไม่มีความจำเป็นเลยที่เราจะต้องไปงัดกัน หรือแรงมาแรงกลับอะไรพวกนั้น ถ้างานของเรายังมีประสิทธิภาพมากพอ เดี๋ยวเขาก็เหนื่อยที่จะอคติกับเราไปเอง

บางครั้งการเข้าไปบู๊ตลอดอาจไม่ได้เป็นทางออกที่ดี จะพาให้วันต่อไปมองหน้ากันไม่ติด แล้วยิ่งลำบากสำหรับวันทำงานต่อ ๆ ไป ลองทำวิธีที่แนะนำไปเพื่อเอาชนะอคติ เพราะยังไงหากการทำงานของเราหากมันไม่ได้ด้อยไปกว่ามาตรฐาน ยังไงอคติของบอสก็ต้องละลายลงบ้าง

 

SOURCE

# STYLE UPDATE : อัพเดทตู้เสื้อผ้าใหม่ด้วยไอเทมสุดเจ๋งเหมาะแก่หน้าร้อนไว้เพิ่มความคูลให้กับสไตล์ของคุณ

$
0
0

เดี๋ยวฝนก็ตก เดี๋ยวแดดก็ออก เดาไม่ถูกแล้วสำหรับสภาพอากาศในบ้านเราที่วันหนึ่งเปลี่ยนไปไม่รู้กี่ฤดู แต่ดูเหมือนช่วงสัปดาห์หลังจากนี้เป็นต้นไป หนุ่ม ๆ  UNLOCKMEN  จะต้องเผชิญกับอากาศร้อนแบบยาว ๆ ชนิดเหงื่อไหลไคลย้อยอย่างที่เราคุ้นเคยกันดี แล้วเมื่อถึงคราวเปลี่ยนฤดูกาลก็เป็นเรื่องธรรมดาต้องมาอัพเดทตู้เสื้อผ้าใหม่ตามไปด้วย เพราะครั้นจะใส่เสื้อผ้าเลเยอร์หลายชั้นคงดูจะเป็นอะไรที่ไม่เหมาะสมเท่าที่ควร ดังนั้น STYLE GUIDE ในวันนี้เราจะมานำเสนอคีย์ไอเทมเจ๋ง ๆ เหมาะกับหน้าร้อนไว้เพิ่มความคูลให้กับลุคของตัวเอง

Summer Vacation

สำหรับชิ้นแรกที่เราอยากจะแนะนำคือ Print Shorts & Swimwear Items เพราะหากพูดถึงฤดูร้อน ย่อมนึกถึงการออกท่องเที่ยวทะเลไปเดินเล่นบนหาดทะเลสวย ๆ รับลมปะทะหน้าเย็น ๆ ซึ่งจะใส่กางเกงยีนส์ขายาวในซีซั่นนี้คงไม่เหมาะเสียเท่าไหร่ ดังนั้นเราขอแนะนำกางเกงขาสั้น (boardshorts) ลายพิมพ์ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากลวดลาย nautical stripe โดยทำให้สนุกยิ่งขึ้นเมื่อเลือกจับคู่สีอย่างสี navy ตัดด้วยลายพิมพ์สีแดง หรือ สีดำคู่กับสีเขียวมินท์ สามารถใส่เป็นกางเกงกึ่งเซิร์ฟได้อย่างสบาย เพียงแค่นำมามิกซ์แอนด์แมทช์เสื้อยืดสีดำทับด้วยแจ็คเก็ตฮู้ดดี้ก็ให้อารมณ์หนุ่มขี้เล่นอย่างมีสไตล์ในช่วงซัมเมอร์ร้อนแรงเช่นนี้ 

ไอเทมชิ้นที่สองซึ่งจะขาดไปเลยไม่ได้เพราะนับว่ามาแรงจริง ๆ สำหรับ SAFARI & SUMMER SHIRTS เนื่องจากเมื่อเราพูดถึงหน้าร้อน หลายคนคงหนีไม่พ้นเสื้อสไตล์ฮาวายหรือเสื้อซาฟารีที่ให้อารมณ์ลำลองในช่วงอากาศแรง ๆ เช่นนี้ได้เป็นอย่างดี ทว่าจะแต่งฮาวายทั้งทีต้องเลือกด้วยโทนสี navy และสีน้ำตาลเป็น key colors หลัก เมื่อดูแล้วสบายตาลงตัวได้กับทุกสภาพสีผิว พอรวมกับลายพิมพ์ tropical และ printed patchwork มาเป็นลูกเล่นของกระเป๋าเสื้อยิ่งทำให้คุณโดดเด่นเหนือใคร ๆ ในซัมเมอร์นี้ นำมาจับคู่กับกางเกงสแล็กขายาวและรองเท้าแตะ STRAPPY SANDALS รับรองว่าไปไหนไม่มีเขินอายอย่างแน่นอน

นอกจากนั้นแล้วหากหนุ่ม ๆ คนไหนอยากหา accessories ที่จะมาช่วย complete look เช่น กระเป๋า oversized totebag และ bagpack ที่เหมาะจะไว้ใส่เก็บสัมภาระอาทิ กล้องถ่ายรูปหรือแล็ปท็อปหากต้องเดินทางไปเที่ยวไหน ก็นับว่าเป็นสไตล์ที่เฉียบไม่แพ้ใคร

จากไอเทมที่เราได้แนะนำไปทั้งหมดนี้ ทุกคนไม่ต้องไปหาที่ไหนไกล เพราะสามารถไปหาซื้อได้ที่ JASPAL MAN ในคอลเลคชั่น SPRING & SUMMER 2018 ใหม่ล่าสุด ซึ่งเป็นการนำไอเทมร้อนแรงทั้งหมดนี้มาไว้ด้วยกัน พอจัดสไตล์รวมกันแล้วต้องบอกเลยว่าหล่อเฉียบโดดเด่นไม่ซ้ำใครอย่างแน่นอน

ดังนั้นหากใครอยากจะอัพเดทตู้เสื้อใหม่ให้ไฉไลท้าหน้าร้อนนี้ ต้องไม่พลาดที่จะไปจับจองสินค้าไม่ว่าจะเป็น Print Shorts & Swimwear Items และ SAFARI & SUMMER SHIRTS  ได้แล้ววันนี้ที่ร้าน JASPAL MAN ทุกสาขาทั่วประเทศ แต่ถ้าไม่สะดวกจะกดสั่งออนไลน์จากที่บ้านก็ได้ง่าย ๆ เพียงเข้าไปที่เว็บไซต์ www.jaspalonlinestore.com แค่คลิกเดียวเสื้อผ้าสุดฮิปเหล่านี้ก็จะมาส่งถึงหน้าบ้านคุณ

ประวัติศาสตร์แห่งการเชียร์: ‘ช้าง’ชวนผู้เล่นคนที่ 12 ส่งเสียงเชียร์นักเตะไทยเพื่อคว้าชัยคิงส์คัพครั้งที่ 46

$
0
0

แม้ว่าช่วงนี้การแข่งขันฟุตบอลลีกในต่างประเทศจะเข้มข้น แต่ก็สู้กระแสบอลไทยที่กลับมาคึกคักอีกครั้งไม่ได้ ทั้งกระแส #ช้างศึกเบอร์12 บน Twitter ที่ติดเทรนด์ไปแล้ว หรือจากการที่วงเกิร์ลกรุ๊ปที่หนุ่ม ๆ หลายคนเป็นโอตะอย่าง BNK48 ก็ยังขอร่วมเชียร์นักเตะทีมชาติไทยไปด้วย ภาพของกัปตัน เฌอปราง และสมาชิกของวงที่สวมเสื้อทีมชาติไทยเบอร์ 48 น่าจะยืนยันได้ถึงกระแสบอลไทยที่ยังคงอยู่ในสายเลือดของพวกเราทุกเพศทุกวัย ซึ่งก่อนหน้านี้เราก็ได้เห็นโปรเจ็กต์ใหม่อย่าง #เชียร์ไทยใช้ใจล้วนๆ มาแล้วบนเพจช้างศึก

และในครั้งนี้ พวกเราคนไทยทุกคนจะกอดคอกันราวกับเป็นเพื่อนรักที่สนิทสนมกันมานานทำหน้าที่ ‘ช้างศึกเบอร์ 12’ อีกครั้ง เราจะตะโกนสุดเสียง ใส่หมดพลังกายและใจ เพื่อไม่ให้แข้งช้างศึกต้องต่อสู้อย่างโดดเดียวในศึกฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน ‘คิงส์ คัพ’ ครั้งที่ 46 ที่เตรียมฟาดแข้งกันในวันที่ 22 และ 25 มีนาคม 2661 นี้ ณ​ สนามราชมังคลากีฬาสถาน ซึ่งมี 4 ทีมร่วมดวลแข้ง ประกอบด้วย ‘ช้างศึก’ ทีมชาติไทย, กาบอง, สโลวะเกีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ซึ่งทีมไทยเป็นแชมป์เก่ารายการนี้ และได้ชูถ้วยคิงส์ คัพ ในบ้านมาแล้วถึง 13 ครั้ง

แต่ที่เจ๋งสุด ๆ ในครั้งนี้ก็คือคนไทยทุกคนจะได้ร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์ของการเชียร์แข้งช้างศึกด้วยการเป็นผู้เล่นหมายเลข 12 ผู้เล่นที่สำคัญที่สุดในทีมด้วยกันทั้งประเทศ ไม่ใช่กองหน้า กองหลัง แต่เป็นกองเชียร์พลังช้างสาร ตำแหน่งที่จองไว้ให้ชาวไทยทุกคน ซึ่งแบรนด์เครื่องดื่ม ‘ช้าง’ ได้ร่วมกับสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ พันธมิตรที่ดีต่อกันมายาวนาน ออกแคมเปญที่น่าสนใจมาก ๆ โดยในศึกคิงส์ คัพ ครั้งที่ 46 นี้ จะไม่มีนักเตะไทยคนไหนได้ใส่เสื้อแข่งขันเบอร์ 12 ที่เว้นไว้ให้กองเชียร์ทีมชาติไทยใส่ตะโกนเชียร์สุดเสียงโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นความพิเศษที่แบรนด์ช้างอยากมอบให้แฟนบอลชาวไทย และปลุกพลังให้คนไทยลุกขึ้นมาเชียร์ฟุตบอลไทยให้ดังกระหึ่มทั่วสนามอีกครั้ง เพราะทุกเสียงเชียร์เป็นแรงผลักดันสำคัญของนักฟุตบอลให้ยืนหยัดต่อสู้ในทุกสนาม รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนในทีมช้างศึกนี้ด้วย

ลองคิดดู ถ้ากว่า 60 ล้านเสียงของชาวไทยสามารถส่งพลังจากที่ไหนก็ได้มาสู่นักเตะไทย รับรองว่าพวกเขาจะสู้แบบถวายหัวจนสิ้นเสียงนกหวีด

ด้วยเหตุนี้ แบรนด์ช้างจึงขอร่วมสร้างประวัติศาสตร์อีกครั้ง ด้วยการเป็นตัวแทนรวบรวมเสียงเชียร์เพื่อส่งต่อให้ช้างศึกไทยสู้ศึกคิงส์ คัพ ครั้งนี้ ผ่านทางเฟซบุ๊กเพจช้างเวิลด์ (www.facebook.com/ChangWorld) และเป็นครั้งแรกที่ทุกเสียงของชาวไทยจะถูกนำไปรวบรวมเป็นหนึ่งเดียวกันบนโลกออนไลน์ เพียงแค่ร่วมส่งเสียงเชียร์เหล่าช้างศึกมาที่ m.me/Changworld ก็จะได้เป็นส่วนหนึ่งของกำลังใจที่จะส่งถึงนักเตะของเราให้ลุยจนถึงฝั่งฝัน แถมยังได้ลุ้นรับบัตรเข้าชมเกมคิงส์ คัพ พร้อมเสื้อช้างศึกเบอร์ 12 ไปใส่เชียร์กันได้เลย 

อย่าคิดว่าเสียงของเราเป็นแค่ส่วนเล็ก ๆ เพราะไม่ว่าจะเสียงใคร เสียงโทนไหน เสียงใหญ่ เสียงเล็ก เสียงเซเลบ เสียงไอดอล วันนี้ทุกเสียงของคนไทยคือเสียงสำคัญ และไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนในโลกนี้ คุณก็สามารถส่งพลังถ้านักเตะไทยได้ ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ เราก็จะตะโกนสุดเสียงต่อไปให้สมกับการเป็นช้างศึกเบอร์ 12 ที่พร้อมจะร่วมกันส่งแรงที่ยิ่งใหญ่กว่าครั้งไหน ๆ เพื่อให้แข้งช้างศึกปลดล็อกศักยภาพในสนามออกมาให้ได้มากที่สุด

มาร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์การเชียร์ที่ยิงใหญ่ที่สุดของชาวไทยด้วยกัน!

 

 

จริงจัง จัดจ้าน ไม่จำเจ “7 หนังสารคดีดูง่าย”ที่ผู้ชายทุกคนต้องไม่พลาดในชีวิตนี้

$
0
0

เวลาเราพูดถึงการดูหนัง ผู้ชายอย่างเรามักนึกถึงแต่ความบันเทิงเท่านั้น ทำให้ผู้ชายจริงจังหลายคนรู้สึกว่าการเสียเวลาไปกับความบันเทิงเป็นเรื่องไร้สาระ แต่ภาพยนตร์มีแต่เรื่องที่แต่งขึ้นเพื่อความบันเทิงจริงเหรอวะ? คำตอบก็คือไม่ โลกยังเต็มไปด้วยภาพยนตร์ที่อิงความจริงอีกนับไม่ถ้วน แต่ถ้ารู้สึกว่าจริงไม่พอ UNLOCKMEN ขอเปิดโลกภาพยนตร์แบบที่ยังไม่เป็นที่นิยมมากนักในไทย (แต่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ) นั่นก็คือ “โลกของหนังสารคดี” ถ้าไม่รู้จะเริ่มตรงไหนเราอาสาพาเข้าสู่โลกแห่งความจริงจัง แต่ก็จัดจ้าน จี๊ดจ๊าดด้วยหนังสารคดี 7 เรื่องที่เคยฉายในไทยโดย Documentary Club มาแล้ว และหา DVD หาดูได้ไม่ยาก

CITIZENFOUR แฉกระฉ่อนโลก

CITIZENFOUR เป็นหนังรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์สารคดียอดเยี่ยมประจำปี 2015 นอกจากรางวัลการันตีแล้วเราก็รับรองได้เลยว่า CITIZENFOUR จะทำให้ผู้ชายอย่างเรารู้สึกสั่นสะเทือนกับนโยบายลับ ๆ ของรัฐที่เป็นเงาครอบคลุมชีวิตเราโดยไม่รู้ตัว โดย CITIZENFOUR จะทำหน้าที่เปิดโปงนโยบายลับที่ว่านั้นซึ่งนับเป็นการเปิดโปงที่ส่งผลสั่นสะเทือนไปทั้งโลกอย่างยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ ความระทึกขวัญในหนังเรื่องนี้จะพาเรานั่งไม่ติด และนั่งไม่ติดยิ่งกว่าเพราะมันไม่ใช่หนังแต่เป็นเรื่องจริง ! ถ้าอยากสัมผัสการเปิดโปง การต่อสู้กับรัฐ การดักฟังของรัฐ ด้วยบรรยากาศสมจริง (ก็จริงสิ เพราะมันคือเรื่องจริง) เราก็บอกเลยว่าห้ามพลาด

The Wolfpack หมาป่าคอนกรีต

นี่คือเรื่องราวของ 6 พี่น้องอังกูโล เรื่องย่อทั้งหมดของหนังมันมีแค่นี้จริง ๆ แต่แค่นี้แล้วมันน่าสนใจยังไงวะ? คำตอบก็คือ 6 พี่น้องอังกูโลเติบโตมาตลอดสิบกว่าปีโดยไม่เคยออกจากอพาร์ตเมนต์ในนิวยอร์คเลย! ลองจินตนาการถึงชีวิต วิธีการมองโลกของพวกเขาที่เติบโตมาโดยการเห็นโลกกว้างเท่าห้องของพวกเขา โดยมีสื่ออย่างเดียวที่พวกเขาได้เสพคือ “ภาพยนตร์” ดูสิ นี่จึงเป็นวิถีชีวิตที่โคตรน่าสนใจว่าพวกเขาโตกันมาอย่างไร และหนังสารคดีเรื่องนี้การันตีด้วยรางวัลสารคดียอดเยี่ยมจากเทศกาลหนังซันแดนซ์ UNLOCKMEN บอกเลยว่าน่าสนใจขนาดนี้ไม่ดูไม่ได้แล้ว

HOMME LESS คนจรลอยฟ้า

ถ้าพูดถึงตากล้องแฟชั่น ผู้ชายอย่างเราจะนึกถึงอะไร? ถ้าพูดอย่างโคตรเหมารวม เราขอตอบว่าเราจินตนาการถึงหนุ่มใหญ่เท่ ๆ สักคนที่แต่งตัวล้ำ ๆ ไม่ได้ตามแฟชั่นแต่แฟชั่นต้องตามเขาและโดดเด่นเปล่งประกายอยู่ท่ามกลางนางแบบทรวดทรงอรชรล้อมรอบกาย ใช่ จินตนาการเราไม่ผิดนัก HOMME LESS คนจรลอยฟ้า เป็นหนังสารคดี่ว่าด้วยชีวิตตากล้องแฟชั่นคนนั้น แล้วอะไรที่มันแปลกไป? ความพีคคือกลางวันเขาเป็นตากล้องแฟชั่น แต่กลางคืนเขาเป็นเพียงคนไร้บ้าน! อาศัยดาดฟ้าตึกเก่าซอมซ่อเป็นที่ซุกหัวนอน และอาศัยห้องน้ำสาธารณะในการแปลงร่างกลับเข้าสู่สังคม อะไรคือที่มาที่ไปของชีวิตที่เหนือความเป็นไปได้เช่นนี้? การเป็นช่างภาพของเขามาได้อย่างไร? หนังสารคดีเรื่องนี้จะให้คำตอบและความบันเทิงกับเราไปในเวลาเดียวกัน

kedi เมืองแมว

ขอเอาใจผู้ชายสายทาสแมวและผู้ชายที่อยากเริ่มต้นเสพหนังสารคดีในฐานะความบันเทิง ตลอดเรื่องหนังจะพาเราไปตะลุยเมืองอิสตันบลู ประเทศตุรกี ใครที่ไม่เคยมีใจให้แมวมาก่อนก็ชวนสาวข้างกายที่กรี๊ดให้กับความน่ารักของแมวจวนสลบมาดูด้วยกันได้ เอาจริง ๆ แค่มุมกล้องกับวิวเมืองอิสตันบลูกับเจ้าเหมียวทั้งหลายก็กินขาดแล้ว แต่วิธีการเล่าเรื่องแมวกับผู้คนจะทำให้เราตกหลุมรักทั้งแมว ทั้งผู้คน และหนังเรื่องนี้ได้อย่างหมดจิตหมดใจ ดูจบแล้วอยากเก็บกระเป๋าไปตุรกีมันเสียเดี๋ยวนี้เลย

We Are X เราคือเอ็กซ์

ไม่ว่าจะชอบ ไม่ว่าจะชัง ไม่ว่าจะเคยฟังเพลงของพวกเขาหรือไม่เคย UNLOCKMEN ก็อยากกระซิบบอกกันในฐานะเพื่อนว่าไม่ควรพลาดหนังสารคดีว่าด้วยวง “เอ็กซ์ เจแปน” เรื่องนี้ ตอนที่เราตีตั๋วเข้าไปดู เราก็คิดว่าต้องไม่อินแน่ ๆ เพราะเพลงก็เคยฟังแต่ท่อนฮุค แถมไม่ได้เป็นแฟนคลับเดนตายอะไรเป็นพิเศษ แต่บอกเลยว่ายิ่งไม่รู้จักกลับยิ่งอิน! เพราะเราได้เห็นภาพแห่งความยิ่งใหญ่ของวงดนตรีจากเอเชียที่ประกาศศักดาได้ในระดับโลก เห็นความคลั่งไคล้ของบรรดาแฟนคลับที่พร้อมมอบกายถวายชีวิต และเห็นความศรัทธาในดนตรีของวงเอ็กซ์ เจแปนที่มากจนสามารถมอบวิญญาณให้ได้ เราไม่มีอะไรจะพูดมากกว่านี่เป็นหนังสารคดีที่ถ่ายทอดความมหัศจรรย์ของมนุษย์ที่ผูกพันกับดนตรีได้อย่างโคตรตรึงใจ แถมคว้ารางวัลหนังสารคดีโลกสาขาลำดับภาพยอดเยี่ยมจากเทศกาลซันแดนซ์มาได้อีก

Oasis: Supersonic

เรายังคงอวลอยู่กับกลิ่นอายทางดนตรี คราวนี้คิวมาตกลงที่หนังสารคดีที่ว่าด้วยวงที่ผู้ชายหลายคนโตมาด้วยกันอย่าง “โอเอซิส” UNLOCKMEN บอกเลยว่านี่เป็นหนังที่จัดจ้าน กวนตีน ยะโสโอหัง แต่แสดงความยิ่งใหญ่ของโอเอซิสได้อย่างน่าตื่นตะลึงที่สุด โดยหนังจะเล่าเรื่องราวและภาพฟุตเตจที่หาดูจากที่ไหนไม่ได้แน่ ๆ ของเด็กหนุ่มสุดระห่ำที่ลุกขึ้นมาสร้างสรรค์ “วงดนตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งอังกฤษนับจากเดอะบีเทิลส์” เรียกว่าเราเห็นตั้งแต่พวกเขาตั้งไข่ เติบโต รุ่งโรจน์และหล่นร่วง ครบรสและโคตรมันแน่นอน เรารับรอง!

The Lovers & The Despot : ท่านผู้นำ & คนทำหนัง

เมื่อเราพูดถึงเกาหลีเหนือ เรามักนึงถึงผู้นำเผด็จการ การบังคับให้ประชาชนทำสิ่งต่าง ๆ และหนังหรือเพลงที่เป็นโฆษณาชวนเชื่อมากกว่าให้ความบันเทิงที่จริงแท้ แต่จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อคิมจ็องอิล ผู้นำเกาหลีเหนืออยากทำหนังแบบอื่นขึ้นมา? เขาก็ลักพาตัวผู้กำกับและนางเอกเบอร์หนึ่งจากเกาหลีใต้มาซะเลย! เฮ้ย ได้หรอวะ? ได้ไม่ได้คิมจ็องอิลก็ทำมาแล้ว เขาลักพาตัวผู้กำกับและนางเอกชาวเกาหลีใต้เป็นเวลา 5 ปี เพื่อทำหนังให้เขา แล้วการทำหนังภายใต้เรื่องราวสุดระทึกนี้จะเป็นอย่างไร นี่คือหนังสารคดีที่จะมาคลี่คลายคำตอบนั้นให้คุณ

หนังทั่วไปอาจให้ความบันเทิง แต่หนังสารคดีที่เรายกมาให้นี้ เรารับรองงว่าให้ทั้งความบันเทิง ความจริง และความล้ำลึกพิสดารน่าทึ่งของความเป็นมนุษย์ได้อย่างที่เราคาดไม่ถึง UNLOCKMEN บอกเลยว่าถ้าได้ดูแล้ว เราจะมองโลกเปลี่ยนไป แถมมีอะไรล้ำ ๆ ไปคุยกับคนอื่นเขาได้ลึกซึ้งกว่าที่เคยแน่นอน

 

ROCKBOX CUBE FABRIQ EDITION BY FRESH’N REBEL ตัวเล็ก พลังเสียงใหญ่ ในราคาเบาหวิว

$
0
0

จำได้ว่าเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว เราใช้เวลาไปทั้งหมด  2-3 วัน ในการพยายามเชื่อมต่อลำโพง Bose SoundTouch 20 เข้ากับ Wireless network ผ่าน Smartphone และ Laptop ซึ่งมันช่างยุ่งยากและน่าปวดหัว แน่นอนว่าเรื่องพลังเสียงนั้นดียอดเยี่ยม แต่ถ้าเชื่อมต่อไม่ได้ มันก็ไร้ประโยชน์ ซึ่งระหว่างนั้นเราเลยหันมาใช้งานลำโพงขนาดเล็กที่เพิ่งได้รับมาใหม่ นอกจากเตะตาด้วยดีไซน์ที่กะทัดรัด พลังเสียงที่ถือว่าใช้ได้แล้ว ข้อดีด้านการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth ที่ง่าย แค่เลื่อนปุ่มเปิดปิด On-Off ก็เรียบร้อย  และการพกพาที่สะดวกสบาย ทำให้มันเป็นลำโพงจิ๋ว ราคาแจ๋ว น่าพกพาคบหาสำหรับคนที่ชอบเดินทาง

FRESH’N REBEL (อ่านว่า เฟรช แอนด์ เรเบล) ลำโพงน้องใหม่จากแดนกังหันลม เนเธอร์แลนด์ เปิดตัว Rockbox Cube Fabriq Edition ลำโพงทางเลือกใหม่ ให้กับวัยรุ่นที่รักเสียงเพลง ไม่ชอบแบกอะไรหนัก ๆ เป็นแนวลุยที่ไม่อยากต้องคอยพะวงรักษาของให้หมดสนุก ชอบอะไรที่ใช้งานง่ายไม่ยุ่งยาก และที่สำคัญคือราคาที่เบามาก ๆ แบบพังไปซื้อใหม่ได้เลยไม่ต้องคิดเยอะ มาพร้อมสีโทนพาสเทลให้เลือกมากมาย เหมาะกับคนที่ไม่ชอบความจำเจ โดดเด่นด้วยดีไซน์สุดเก๋ และพลังเสียงที่แรงเกินตัว ด้วยขนาดกระทัดรัดพกพาสะดวก ทำให้ FRESH’N REBEL(เฟรช แอนด์ เรเบล) เป็นลำโพงที่เหมาะสุดๆทำหรับการพกพาไปเพื่อเดินทางท่องเที่ยวในซัมเมอร์นี้ เพื่อไม่พลาดในทุกปาร์ตี้

สำหรับเมืองไทย มีเข้ามาให้ทดลองกันถึงสองรุ่นด้วยกัน โดยประกอบไปด้วยรุ่นต่างๆดังนี้

Rockbox Cube Fabriq Edition: ดีไซน์ทรงลูกบาศก์ ขนาดเล็กกะทัดรัด เหมาะแก่การพกพา โดดเด่นด้วยการดีไซน์แปลกแหวกแนว ที่มีความเรียบง่ายแต่แฝงด้วยความสนุกสนาน รวมไปถึงวัสดุคุณภาพสูงเป็นองค์ประกอบ ไม่ว่าจะเป็นผ้าทอเกรดพิเศษ และ Signature tag ป้ายโลโก้หนังที่เป็นเอกลักษณ์ ทางด้านคุณสมบัติสามารถเชื่อมต่อแบบบลูทูธ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือ หรือแทบเล็ต ชาร์จแบตครั้งเดียวสามารถใช้งานต่อเนื่องได้ถึง 8 ชั่วโมง ไม่ว่าจะขึ้นรถ ลงเรือ ไปเที่ยวที่ไหนๆก็ไม่ ทำให้คุณพลาดเสียงดนตรี / ราคา 990 บาท

Rockbox Brick Fabriq Edition: ลำโพงทรงสี่เหลี่ยมขนาดเหมาะมือ พี่ใหญ่ของ Rockbox ความน่าสนใจอยู่ที่พลังเสียงแบบเบสพาสซีฟ พร้อมด้วยไดร์เวอร์ ชั้นหนึ่งที่ให้พลังเสียงแบบทรงพลัง เชื่อมต่อด้วยระบบบลูทูธ เล่นเพลงต่อเนื่องได้นานถึง 20 ชั่วโมง พร้อมทั้งมีไฟ LED ที่แสดงสถานะของแบตเตอรี่ และความพิเศษสุดๆคือสามารถเป็น Powerbank ชาร์จแบตโทรศัพท์ได้ในตัว Rockbox Brick Fabriq Edition มาพร้อมปุ่มสัมผัสแบบ Blacklist ที่สามารถช่วยควบคุมความดังของเสียง และเปลี่ยนเพลงได้อย่างต่อเนื่องจากตัวลำโพงเอง ทั้งพกพาสะดวก ดีไซน์เก๋แถมยังเป็น powerbank อีก นับเป็นลำโพงที่เหมาะแก่การพกพาไปเที่ยวด้วยทุกที่จริงๆ / ราคา 1,990 บาท

หากคุณกำลังมองหาลำโพงทางเลือกใหม่ ในราคาสมเหตุสมผล รวมไปถึงดีไซน์ที่มีความน่าสนใจ เรียบง่ายแต่แฝงไว้ด้วยความขี้เล่น FRESH N REBEL ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่มีความน่าสนใจไม่น้อย และสามารถที่จะสร้างความแตกต่างอย่างมีสไตล์ อีกทั้งยังมีความสะดวกต่อการพกพาไปในทุกสถานที่ ทำให้คุณไม่พลาดทุกการฟังเพลง รวมไปถึงสร้างปาร์ตี้ด้วยตัวคุณเองได้ทุกเวลาเมื่อคุณต้องการ พร้อมที่จะสร้างสีสันให้กับซัมเมอร์นี้แล้ว

FRESH N REBEL ลำโพงน้องใหม่จากแดนกังหันลม เนเธอร์แลนด์ เข้ามาสร้างความตื่นเต้นให้กับคอเพลงแล้ววันนี้ สามารถหาซื้อได้ที่ Studio 7, Siam Discovery, และร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ หรือ http://ashop.asia

#freshnrebel #befreshstayrebel

 

เกมทำลายมิตรภาพงัดไม้เด็ด! UNO สำหรับคนตาบอดสี เล่นกันมัน ๆ ไม่เห็นสีก็ไม่กลัว

$
0
0

ถ้าเอ่ยชื่อว่าเกมทำลายมิตรภาพหลายคนคงเข้าใจตรงกันว่ามันหมายถึง “UNO” เกมการ์ดที่มาในกติกาแสนเรียบง่าย แต่กว่าจะจบเกมนั้น ไม่ได้ง่ายเลย เพราะมันคือ Mind Game ที่ทำให้เราเชือดเฉือน ขบคิด ฟาดฟันกับผู้เล่นรอบวง (ซึ่งก็คือเพื่อนเราเองนั่นแหละ) แบบถึงพริกถึงขิง แต่ด้วยการ์ดแต่ละใบมีสีประจำของมัน ในมุมมองของคนทั่วไป มันก็ไม่มีอะไรนี่หว่า ? แต่เราลืมนึกถึงคนตาบอดสีไปหรือเปล่า ?​ พวกเขาจะสามารถเล่นเกมหักเหลี่ยมโหดนี้ได้มั้ย ?

คำตอบคือ ได้! เพราะวันนี้ UNO ได้ออก Edition สำหรับคนตาบอดสีแล้ว มาดูกันว่าจะมีเทคนิคอะไรที่ทำให้คนที่ตาบอดสีสามารถเข้าใจเกมที่ต้องใช้สีในการเล่นได้แบบไม่ติดขัด

เกม UNO สำหรับคนตาบอดสีนี้เป็นการ์ดเกมอันแรกของโลกที่ทำขึ้นเพื่อคนตาบอดสี ซึ่งเกิดขึ้นได้จากความร่วมมือกันระหว่าง  UNO® และ ColorADD องค์กรที่ให้ความช่วยเหลือคนตาบอดสี Ray Adler ตำแหน่ง Senior Director ของ Mattel ผู้ผลิตเกม UNO ได้กล่าวว่า “เราได้ร่วมมือกับ ColorADD เพื่อทำเกมสำหรับคนตาบอดสีทั่วโลกจำนวน 350 ล้านคน และเป็นชาวอเมริกันถึง 13 ล้านคน”  และเขาได้กล่าวเพิ่มเติมถึงเกม UNO อีกว่า “UNO คือเกมสำหรับทุกคน ที่เรายังคงพยายามรักษาระดับให้มันเป็นเกมระดับโลกสำหรับทุกคนต่อไป”

อะไรที่ทำให้คนไม่เห็นสี เข้าใจสี ?

คำตอบง่าย ๆ คือ “สัญลักษณ์” แม้ว่าจะมองไม่เห็นสี แต่พวกเขายังมองเห็นภาพ การใช้สัญลักษณ์แทนสีและการผสมสีจึงสามารถทำได้ และเป็นทางออกที่ทุกคนสามารถเข้าใจได้ เพราะสัญลักษณ์คือสิ่งที่ไม่จำเป็นต้องอยู่ในกรอบของภาษา แม้คุณจะไม่เข้าใจภาษา แต่ก็สามารถเข้าใจสัญลักษณ์ได้ ซึ่งสัญลักษณ์บ่งบอกสีนั้นถูกคิดค้นขึ้นโดย ColorADD องค์กรที่ให้ความช่วยเหลือคนตาบอดสี  Miguel Neiva Creator ของ ColorADD ได้พูดถึงไว้ว่า “สัญลักษณ์แทนสีของเรานั้น ถูกนำไปใช้กับหลายอย่างในชีวิตประวันไม่ว่าจะเป็นการเรียนการสอน, ระบบขนส่งสาธารณะ, โรงพยาบาล, สินค้าต่าง ๆ เช่น ดินสอสี เสื้อผ้า” โดยสัญลักษณ์ที่ใช้แทนสีมีดังนี้

จากสัญลักษณ์ของ ColorADD คงพอจะเห็นภาพแล้วว่าคนตาบอดสีจะเข้าใจสีได้อย่างไร เกม UNO สำหรับคนตาบอดสี ก็คือ UNO เวอร์ชั่นเพิ่มสัญลักษณ์แทนสีสำหรับคนตาบอดสีเข้าไปด้วยนั่นเอง หากใครที่มีเพื่อนตาบอดสีหรือตาบอดสีซะเอง สามารถหาซื้อได้ที่นี่ในราคา $5.99

ความใส่ใจเพื่อนมนุษย์ ความเท่าเทียมที่ทุกคนตระหนักและพยายามให้มันเป็นสิ่งที่ทุกคนควรได้รับ ยังคงเป็นสิ่งที่จรรโลงให้โลกใบนี้สวยงามอยู่เสมอ อาจจะดูเป็นโจ๊กสำหรับบางคนที่คนตาบอดสีไม่สามารถเข้าใจเกม UNO ได้ แต่ใครจะคิดว่าสักวันพวกเขาก็สามารถเข้าใจและเล่นมันได้เหมือนกับคนสายตาทั่วไป เพราะความเป็นมนุษย์ที่ยังคงฝังแน่นอยู่ในตัวของเราทุกคน ที่ต้องการให้มนุษย์ทุกคนได้มีชีวิตที่เท่าเทียมกันนั่นเอง

BAD ASS SPEAKER: จับกล่องใส่กระสุนมาทำลำโพง รัวเสียงเปรี้ยงปร้างมันส์ทะลุโสต!

$
0
0

ไม่ว่าใครก็มีดนตรีในหัวใจ แต่แค่เสียงเพลงจากลำโพงธรรรมดาคงไม่พอฉายความเจ๋งทั้งหมดของพวกเราชาว UNLOCKMEN ได้ ดังนั้น UNLOCKMEN ขอแนะนำ gadget คืนบรรยากาศความเป็นชายสุดห้าว เลือดพุ่งพล่าน ผ่านลำโพงหน้าตาถึกทน ทรงพลัง คลาสสิกเหลือล้นกับสีเขียว military เคลือบกล่องโลหะที่ผู้ชายอย่างเราคุ้นตาอย่าง “กล่องกระสุน” !

อย่างที่พวกเราเหล่าผู้ชายพอจะรู้อยู่แล้วว่าคุณสมบัติของกล่องกระสุน มันต้องถึกทน กันท้ังน้ำและสนิม คล่องตัวพอให้ถือให้ไปวางได้ทุกสภาพผิว Thodio เขาเห็นข้อดีจุดนี้เลยหยิบเอากล่องใส่กระสุน .50 เดิม ๆ มาโมใหม่เป็นลำโพงไร้สาย “THODIO .50 CAL AMMO CAN BOOMBOX” เชื่อมต่อผ่านบลูทูธ เปิดแล้วให้เสียงคมเด็ดกริ๊บเกินไซส์ตัว อยากจะจัดปาร์ตี้ที่ไหน นอนกลางดิน กินกลางทราย ดิบริมสนามหญ้าหรืออยู่ท่ามกลางฝนก็ยังรอด กระทั่งต่อให้ใช้ในตัวบ้านก็ไม่หมองลบลายความเท่ คูลไปได้

 

จะเทสลำโพงทั้งทีลอง Recap เสียงสักหน่อยว่าสมราคาไหม

การันตีหน้าตาไม่พอ ยังเต็มรูปแบบกับการคราฟต์อุปกรณ์ข้างในจาก Amsterdum ด้วยลำโพงขนาดกะทัดรัด 11.8 x 6.1 x 7.7 นิ้ว น้ำหนักประมาณ 5.9 – 6.5 กิโลกรัมขึ้นอยู่กับแบตเตอรี่ที่เลือก มีพอร์ตให้ USB ให้ชาร์ตแบตฯ พร้อมเชื่อมไวไฟ รวมทั้งสามารถใช้ต่างแอมป์เพราะมีแจ็คมาตรฐาน 3.5 มม. ว่างไว้ให้ input กีตาร์ไฟฟ้าเกาเล่นเพลิน ๆ ถ้าอยากซ้อมกับวงหรือมีทีเด็ดอยากจะโชว์ระหว่างไปเที่ยวพร้อมสาว ๆ

เรื่องแบตฯ สำหรับใช้งาน สามารถใช้งานได้กับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนชนิดต่าง ๆ ได้ ส่วนเวลาในการชาร์ตอันนี้เรียกได้ว่าต้องยิงยาวกันหน่อย ชาร์ตทิ้งไว้มีตั้งแต่ 26 ชั่วโมงถึง 78 ชั่วโมง แม้ว่ามันจะต้องอดทนรอแต่สิ่งที่เราจะได้กลับมาแน่นอนคือคุณภาพคุ้มทุนคุ้มราคาชนิดที่มีคนแอบมา Recap โปรดักส์ว่าเจอพี่ THODIO .50 CAL AMMO CAN BOOMBOX ขนาด Bose sound bars ยังจอด เอากับเขาเซ่!

“Since receiving my 50cal I haven’t stopped listening to it, the sound is quality, bass levels and midtones are incredible, played it next to both my Bose sound bars and it blows them away. Awesome product, I will be ordering another:) Love this thing”

ใครที่อยากเปิด beat มันส์ ๆ ให้ลั่น ลองคลิกเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่นี่


PLAYLIST ร้อนกายไม่ร้อนใจ : 10 เพลงปรับมู้ด ไม่ให้หัวร้อนไปตามอากาศ

$
0
0

ยังไม่ทันจะเข้าเดือนเมษายน แดดประเทศไทยก็เบิร์นผิวพวกเราเหมือนหมูสามชั้นบนเตาปิ้งย่างแล้ว เหงื่อผุดปุด ๆ รถบนถนนติดยาวเหยียด เดินบนฟุตบาธก็เหม็นควันรถ อากาศร้อนคนก็เลยใจร้อนไปด้วย แต่อย่าเพิ่งหงุดหงิดไป UNLOCKMEN ชวนมาฟัง PLAYLIST ร้อนกายไม่ร้อนใจ เอาไว้บรรเทาอาการหัวร้อน ไม่ว่าจะจากอากาศหรือจากอะไรก็ตาม

Keane – Sovereign Light Café

อัลบั้มนี้ของ Keane เลือกยากมาก ๆ เพราะออกมากลมกล่อมแทบทุกเพลง แต่เพลงนี้เข้าวินมาด้วยด้วยความชิลที่น่าจะช่วยดับความร้อนของอากาศได้ แม้วงนี้จะพักการทำเพลงไปอย่างไม่มีกำหนด แต่ถ้าหากใครคิดถึงเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ของฟรอนต์แมน “Tom Chaplin” สามารถติดตามเขาได้ในฐานะนักร้องเดี่ยว ซึ่งแนวเพลงก็ไม่ได้หนีจาก Keane ไปซะเท่าไหร่เลย

ใครที่รัก Britpop ต้องรักวงนี้และเพลงนี้ด้วยเหมือนกัน เป็นเพลงที่มีเนื้อหาตัดพ้อชีวิต แต่มันช่างตัดพ้อบนความชิลซะจนเราอดโยกหัวเบา ๆ ไปตามเพลงไม่ได้

ขอแทรกด้วยอินดี้ร็อกจากฝั่ง US เพลงนี้อาจจะคุ้นหูกันมาบ้างแล้ว เพราะเพลงนี้คือเพลงที่ยอดวิวเยอะที่สุดใน PLAYLIST นี้แล้ว เป็นเพลงที่ชวนให้ Keep Calm ด้วยเนื้อเพลงที่ฟังแล้วไม่ต้องคิดอะไรเยอะ แค่ล่องลอยไปกันมันก็พอ

Swimming Tapes – Cameos

ยังคงอยู่ที่ฝั่ง UK กับหนุ่ม ๆ จากเกาะอังกฤษเจ้าของเพลงสุดชิลนี้ แม้ยอดวิวจะน้อยนิดแต่ก็อยากแนะนำให้ฟัง ถือว่าเป็นการ Discover เพลงใหม่ ๆ ให้กับตัวเอง

The Drums – Blood Under My Belt

ออกจากเกาะอังกฤษแล้วมาต่อกันที่ฝั่ง US กันบ้าง กับวงป็อปอินดี้ที่ไม่รู้จะแนะนำอะไรนอกจากแนะนำให้ฟัง เพราะความเจ๋งของเขาอยู่ที่เพลงของพวกเขานี่แหละ อาจจะคุ้นเคยกับผลงานเก่า ๆ มาบ้างแล้ว อย่าง “Money” และ “Me And The Moon” แต่สำหรับผลงานชุดใหม่นี้รู้สึกว่าฟังง่าย เข้าถึงง่ายมากขึ้น

Glass Animals – Season 2 Episode 3

ใครรักความ 8 Bit ต้องรักเพลงนี้ตั้งแต่อินโทรอย่างแน่นอน แต่คอเพลงอินดี้น่าจะคุ้นเคยกับวงนี้ดีอยู่แล้ว เพลงนี้ก็ยังคุมโทนความชิลไม่แพ้สองเพลงจากวงอินดี้ก่อนหน้านี้

Conan Gray – Idle Town

ใครที่ชอบฟังเพลง Cover อาจจะคุ้นเคยกับคนนี้อยู่บ้าง แต่สำหรับเพลงนี้คือเพลงของเขาเอง เป็นเพลงที่แสดงถึงตัวตนและความสามารถของเขาได้อย่างมาก ใครที่ติดใจเพลงนี้ สามารถไปชิลกันต่อกับเพลงอื่นได้ เพราะให้ฟีล Keep Calm แบบนี้แทบทุกเพลง

Raleigh Ritchie – Cowards

มาขยับจังหวะให้ครึกครื้นชวนให้โยกตามกันมากขึ้น ดูชื่อศิลปินแล้วอาจจะไม่คุ้นหูคุ้นตา แต่ถ้าบอกว่า Jacob Anderson หรือ Grey Worm จากซีรีส์ยอดฮิตอย่าง Game of Thrones คงจะร้องอ๋อกันมากขึ้น โดยชื่อ Raleigh Ritchie เป็นนามแฝงของเขา ความสามารหลากหลายขนาดนี้จะพลาดได้ไง ต้องลองฟังกันดูแล้ว

COMMAND – Cowboy Killer

เพลงจากศิลปินที่ลึกลับซะจนไม่รู้จะหาอะไรมาเล่าดี เอาเป็นว่าฟังสำเนียงก็พอจะเอาออกว่าเป็นคนผิวสี ถึงจะสืบยากยังไง เราแกะรอยมาให้พบว่าเป็นหนุ่มน้อยอายุเพียง 22 ปีเท่านั้น แต่เพลงเจ๋งแบบนี้ ใครที่ติดใจจนอยากจะติดตามเจ้าตัว ว่าเป็นใครยังไงลองติดตามได้ที่ IG ดูจะเป็นช่องทางที่อัพเดตบ่อยที่สุดแล้ว

Joseph of Mercury – Angel

ปิดท้ายกันไปด้วยเพลงเจ๋ง ๆ ยอดวิวหลักหมื่น ไม่ถึงสองหมื่นด้วยซ้ำ จากศิลปินผู้คลั่งไคล้ยุค 50’s หากลองฟังเพลงอื่น ๆ ของเขาไปด้วยอาจจะมองเห็นแนวทางที่เขาแอบสอดแทรกความ 50’s เข้าไปอยู่บ้าง

จริง ๆ ยังมีเพลงอีกมากที่อยากแนะนำ แต่เดี๋ยวมันจะเกิน 10 เพลงซะก่อน เห็นเพลงแล้วก็อาจจะงง ๆ เพลงอะไรวะ ไม่คุ้นเลย ถึงจะไม่คุ้นเคย แต่รับรองว่าเราคัดมาเน้น ๆ ให้ฟังแล้วเย็นเหมือนแอร์ BMW Series 5 ฟังไปก็ข่มใจไปด้วย ร้อนกายได้แต่อย่าร้อนใจ ให้เพลงช่วยบำบัดกันดีกว่า ใครอยากได้ PLAYLIST อะไรแนะนำกันมาได้เลย

PLEASE CROSS THE LINE ? : รู้ไหมทำงานที่บ้านอาจเปิดโอกาสให้ชีวิตโดนล้ำเส้นมากกว่าเข้าออฟฟิศ

$
0
0

ไม่มีใครที่ต้องการให้งานล่ามขาตลอดเวลา เพื่อน ชาว UNLOCKMEN ส่วนใหญ่เองก็คิดว่าการผูกชีวิตกว่า 8 ชั่วโมงไว้ในออฟฟิศมันไร้อิสรภาพและไร้สาระสิ้นดี เราเองก็เห็นด้วยเพราะมันมีการบริหารเวลาที่ได้ผลและได้งานมากกว่าอย่างที่เราเคยบอกไว้

แต่นั่นมันเป็นปัญหาเฉพาะเรื่องเวลา อย่าเพิ่งเอามันมาเหมารวมกับการปรับเปลี่ยนสถานที่ทำงานขวัญใจมหาชนของคนยุคนี้ตามคำยอดฮิตว่าทำงานที่ไหนก็ได้หรือการไม่เข้าออฟฟิศแล้วทำงานจากที่บ้านนั่นล่ะ เพราะแม้จะมีคนออกมาบอกข้อดีจำนวนมหาศาล อย่างการแอบงีบเพิ่มพลังตอนไหนก็ได้ เลือกเวลาทำงานได้ ไม่ต้องเดินทาง ลดความเครียดเครียด ฯลฯ แต่ความจริงมันอาจเป็นเพียงการนำเสนอข้อมูลด้านเดียว เพราะนักวิจัยจากองค์การแรงงานระหว่างประเทศองค์การสหประชาชาติ (UN’s International Labour Organisation) เขาออกมาเผยผลวิจัยแล้วว่าด้านเสียของมันก็มีนะนาย

ชักน้ำเข้าลึก ชักศึกเข้าบ้านน่าจะเป็นคำอธิบายได้ดีที่สุด เพราะด้านเสียที่ ILO ออกมาบอกมันคือการนอนไม่หลับและการเพิ่มระดับความเครียดหรือไอ้สิ่งที่พวกเราเพิ่งบอกไปว่าจะทำเพื่อหนีมันทุกวิถีทาง โดยได้จากผลจากศึกษาจากพฤติกรรมของมนุษย์ทำงานที่บ้าน 15 ประเทศ ได้แก่ สหราชอาณาจักร, เบลเยี่ยม, ฝรั่งเศส, ฟินแลนด์, เยอรมนี, ฮังการี, อิตาลี, เนเธอร์แลนด์, สเปน, สวีเดน, อาเจนตินา, บราซิล, อินเดีย, ญี่ปุ่น และอเมริกา แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ คนที่ทำงานที่บ้านเป็นประจำ, คนที่ทำงานนอกสถานที่บ่อย และคนที่ทำงานที่บ้านกับคนที่ทำงานนอกสถานที่เป็นครั้งคราว

ผลการสำรวจพบว่าทั้ง 3 กลุ่มมีแนวโน้มของการเสียสุขภาพและสวัสดิการมากกว่าพนักงานประจำในสำนักงานหรือคนที่ทำงานติดที่เกือบเท่าตัว ตัวเลขที่ออกมายืนยันได้คือเมื่อเทียบแล้วพนักงานที่ไม่ต้องเข้าออฟฟิศและต้องสื่อสารผ่านมือถือเป็นประจำต้องเจอกับภาวะนอนไม่หลับคิดเป็น 42% เมื่อเทียบกับพนักงานออฟฟิศปกติที่มีเพียง 29% เช่นเดียวกับการจ่อติดความเครียดที่คนทำงานนอกสถานที่ทั้งหลายต้องเผชิญนั้นมีสูงถึง 41% ขณะที่คนที่นั่งทำงานสำนักงานมีความเครียดเพียง 25 % เท่านั้น

การสื่อสารยิ่งล้ำเท่าไหร่ยิ่งเป็นโซ่ตรวนที่ล่ามเราไว้เท่านั้น เพราะมันไปลบเส้นรอยต่อระหว่างเวลาทำงานกับนอกเวลาให้กลืนเข้าด้วยกัน แทนที่นอกเวลาจะได้หยุดทำงานกลายเป็นว่าต้องโดนตามตัวตลอด แถมค่าล่วงเวลาที่พิสูจน์ไม่ได้ก็ทำให้เราต้องชวดทำงานกันฟรี และสิ่งสุดท้ายที่เราคาดไม่ถึงเรื่องการล้ำเส้นชีวิตคือความเกรงใจที่นับวันจะยิ่งมีน้อยลงด้วย โทรได้เท่าไหร่เท่ากัน ติดต่อได้เมื่อไรก็เมื่อนั้น

ปลายทางของการแก้ปัญหานี้ ILO บอกว่าก็จับการทำงานนอกพื้นที่มาอยู่ในระบบเสียสิ จะได้เป็นธรรมและสุขสงบขึ้น ผลกระทบน่าจะต่ำกว่า พนักงานก็จะได้มีสัมพันธ์ที่ดีต่อกันไปด้วย ตรงนี้ UNLOCKMEN ว่าก็เป็นอีกหนึ่งทางออกที่น่าสนใจ และอาจกลายเป็นระบบการทำงานรูปแบบใหม่ในอนาคตอันใกล้ก็ได้

สุดท้ายมุมมองของคำว่าทำงานที่ไหนก็ได้ที่นำไปสู่การล้ำเส้นให้ต้องทำงาน unlimit ทุกพื้นที่จากผลการสำรวจก็ทำให้เราได้เห็นข้อดีและข้อเสียไว้สำหรับเป็นทางเลือกในการตัดสินใจทำงานเพื่อให้สามารถรับมือได้ว่าเราจะมีข้อตกลงที่ดีกับผู้ว่าจ้างหรืองานนั้นยังไงเพื่อให้บรรลุเส้นทางการทำงานแสนสุขที่ฝันไว้ ชาว UNLOCKMEN คนไหนอ่านจบแล้วกำลังจะวางแผนไปทำฟรีแลนซ์ นอกเหนือจากเรื่องการบริหารเวลาก็อย่าลืมว่าสภาพจิตใจก็ต้องพร้อมรับอาการเครียดกับการนอนไม่หลับไว้ด้วยนะ

จบบทความแล้วไปทำงานที่เรารักกันเถอะ!

 

SOURCE

‘LIVE THE GOOD LIFE’หลายเหตุผลที่ทำให้ LIFE SUKHUMVIT 62 เป็นคอนโดน่าสนบนถนนสุขุมวิทสำหรับคนรุ่นใหม่

$
0
0

ทุกเช้า เราเดินทางออกจากบ้านเพื่อไปปฏิบัติหน้าที่อันหลากหลาย แต่ล้วนมีความสำคัญไม้แพ้กันในมุมของแต่ละคน เราพุ่งออกจากบ้านด้วย Passion ที่เต็มเปี่ยม แต่พลังงานเหล่านั้นกลับหมดไประหว่างทางตั้งแต่เรายังเดินทางไม่ถึงจุดหมาย การเสียเวลาราว 2-3 ชั่วโมงในแต่ละวันให้กับการเดินทางไปและกลับ ทำให้คนรุ่นใหม่เริ่มตั้งคำถาม และหาทางออกให้กับตัวเองว่า “แล้วเราจะอัพเกรดคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นได้อย่างไร” ซึ่งทางออกที่ง่ายที่สุดในปัจจุบัน คงต้องเป็นการมองหาที่อยู่อาศัยที่ช่วยอำนวยความสะดวกตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนได้ แน่นอนว่ามันไม่มีคำว่าดีที่สุด แต่สิ่งที่เราควรพิจารณาคือ ‘คำว่าเหมาะสมกับเราที่สุด’ มากกว่า

‘YOU ARE WHERE YOU LIVE’ อาจจะเป็นคำใหม่สำหรับใครหลายคน การเลือกใช้ชีวิตตามรูปแบบไล์ฟสไตล์ของเรา มันได้ซอยย่อยถี่ลงถึงระดับสถานที่ หรือย่านที่อยู่อาศัยไปแล้ว ด้วยปัจจัยหลายอย่างที่ Filter ตัวเลือกของเราอย่างไม่รู้ตัว ซึ่งข้อดีของการเข้าใจไลฟ์สไตล์และสิ่งแวดล้อมของย่านที่อยู่อาศัยนั้น ๆ คือการใช้ชีวิตที่มีความสุข อัพเกรดคุณภาพชีวิตได้ดีกว่าการเลือกที่อยู่แค่จากกรอบราคาและความนิยมของโครงการอย่างที่หลายคนบอกกันว่าดี แต่บางทีมันอาจจะไม่เหมาะกับเราก็ได้

จากการพยายามอัพเกรดคุณภาพชีวิตของตัวเองเหมือนกับคนอ่านทุกคน เราก็เป็นอีกคนที่มองหาที่อยู่อาศัยที่สามารถช่วยทุ่นแรงวันทำงานจันทร์ถึงศุกร์ และยังตอบโจทย์ด้านไล์ฟสไตล์ครบ ๆ ในวันหยุดและจังหวะหลังเลิกงานได้เต็มที่ วันนี้เราจะมาแนะนำอีกโครงการคอนโดมิเนียมที่น่าสนใจ เป็นอีกทางเลือกสำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดใหม่ ณ ตอนนี้ มีจุดเด่นทั้งด้านที่ตั้งโครงการ ราคาพื้นที่ ไลฟ์สไตล์ รวมถึงคอนเซปต์และสิ่งอำนวยความสะดวกภายใน นั่นก็คือ LIFE SUKHUMVIT 62

LIFE SUKHUMVIT 62

The Concept

ชื่อ LIFE เป็นชื่อโครงการที่หลายคนรู้จักคุ้นหูกันเป็นอย่างดี แต่สิ่งที่น่าสนใจสำหรับ LIFE @ SUKHUMVIT 62 โครงการนี้ก็คือ การพัฒนาโครงการทุกรายละเอียดจาก Insight ของกลุ่มลูกค้าอย่างถึงแก่น ผลคือการยกระดับทุกรายละเอียดการใช้ชีวิต หรือจะเรียกว่าอัพเกรดภาพจำของคำว่า LIFE ให้แตกต่างกว่าโครงการอื่น ๆ ก็ไม่ผิด จากปกติเราอาจจะนึกถึง LIFE ที่มีจำนวนห้องมากมายบนทำเลที่ยอดเยี่ยม สำหรับโครงการนี้ ทำเลที่ยอดเยี่ยมยังคงอยู่เหมือนเดิม แต่เน้นลดจำนวนห้องให้น้อยลงเหลือเพียง 438 Units ทั้งที่เป็นคอนโด High Rise ความสูง 24 ชั้น เป็นจำนวนห้องที่ช่วยการันตีความเป็นส่วนตัว ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของคนรุ่นใหม่ได้อย่างดี ไม่แพ้คอนโดระดับ Super Luxury เลยแม้แต่น้อย

ด้านทำเล LIFE @ SUKHUMVIT 62 ตั้งอยู่บนพื้นที่สุขุวิท 62 หรือบรรยายให้เห็นภาพไลฟ์สไตล์ได้ว่า 2 สถานี หรือเวลาเพียง 10 นาทีจาก BTS สถานีเอกมัย ทองหล่อ ระหว่างนั้นจะแวะชิวอยู่ย่านไลฟ์สไตล์มากมาย เช่น W-District หรือ Japanese Town แถวสถานีพระโขนง ก็ใช้เวลาไม่เกิน 5 นาที

ตัวโครงการได้ผ่านการเลือก Location ที่ดีที่สุด เพียง 200 เมตรจากสถานีบางจาก เรียกว่าไม่ต่างจากอาศัยอยู่ในย่าน Super Prime ของสุขุมวิท ในราคาที่คุ้มค่ากว่าหลายเท่า (ราว 50% ต่อตารางเมตรของราคาตลาด ณ​ ปัจจุบัน) พร้อมทางเลือกในการเดินทางมากมาย ระยะห่าง 200 เมตรจากโครงการถึงสถานี BTS ถ้าอยากขับรถไปขึ้นทางด่วนพิเศษ​ เฉลิมมหานครก็ห่างเพียง 500 เมตร หรือจะขับข้างล่างไปตามถนนพระราม 4 สุขุมวิท สาทร สีลม ก็มีทางลัดเลาะแยกย่อยหนีรถติดได้อีกเพียบ

เราถามว่า ทำไมถึงต้องเข้าไป 200 เมตร? คำตอบที่ได้จากเจ้าของโครงการนั้นน่าสนใจมาก เพราะถ้าใครเคยผ่านไปผ่านมาบนย่านสถานีบางจาก สุขุมวิท 62 จะรู้ว่ามันมีความหลายหลายค่อนข้างมาก ริมถนนใหญ่จะรายล้อมด้วยไลฟ์สไตล์ที่พลุกพล่าน จากไลฟ์สไตล์หลากหลายรอบบริเวณ​ริมถนนใหญ่ ในขณะเดียวกัน ห่างเข้ามาจากจุดนั้นเพียง 200 เมตร จะกลายเป็นพื้นที่ไลฟ์สไตล์ที่เงียบสงบ มีความเป็นส่วนตัว เป็นพื้นที่บ้านเดี่ยวขนาดใหญ่มากมาย อีกทั้งยังเป็นตึกสูงเพียงตึกเดียวที่ไปบุกเบิกพื้นที่ย่านนั้น ช่วยการันตีวิวเมืองที่ดีสุดลูกหูลูกตาได้อีกทาง เป็นการเลือกโหมดการใช้ชีวิตที่ครบถ้วนได้ภายในตัวเลข 200 – 500 เมตรเท่านั้น มันจึงเหมาะกับไลฟสไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่มองหาความหลากหลายในไลฟ์สไตล์ได้เป็นอย่างดี

The Uniqueness

LIFE SUKHUMVIT 62 เป็นโครงการที่ออกแบบทุกฟังก์ชั่นอย่างพิถีพิถันมากกว่าที่ผ่านมา การบาลานซ์ความหลากหลายของช่วงเวลาที่ครบทุกไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยจึงเป็นการบ้านที่ทำได้ดี ในด้านการทำงาน LIFE SUKHUMVIT 62 มีพื้นที่ Multi-Function Co-Working Space, Meeting Room, Library, และ Private Entertainment Zone ไว้อย่างครบถ้วน ไม่จำเป็นต้องออกมาหาร้านกาแฟสวย ๆ นั่งทำงานอีกต่อไป เพราะ Facility ของโครงการนับว่าจัดมาเยอะมากจริง ๆ ประหยัดค่าข้าวค่ากาแฟนอกบ้านได้เยอะมากแน่นอน

โครงการ LIFE SUKHUMVIT 62 ช่วย Blend ชีวิตทั้งสองส่วนให้ง่ายขึ้น ด้วยการวางระบบ Fiber Optic และ WiFi Internet พร้อมจุด Wireless Charger และ USB Port  รอบโครงการอย่างทั่วถึง และบริเวณ Cocoon Space พื้นที่เหมาะสำหรับใช้นั่งคิดงาน เพื่อรองรับทุกจังหวะชีวิตของคนรุ่นใหม่ ใครชอบคิดงานพร้อมดูวิวสวย ๆ ไปด้วย น่าจะได้ประโยชน์จาก Facility เหล่านี้ไปแบบเต็ม ๆ

พื้นที่ของ Facility ในโครงการ LIFE SUKHUMVIT 62 ยังมีส่วน Outdoor รับวิวเมืองงาม ๆ อีกมากเช่น บนชั้น 5 ถูกสร้างเป็นพื้นที่สวนลอยฟ้าขนาดใหญ่ เต็มไปด้วยพืชไม้ยืนต้น และไม้ประดับนานาชนิด เหมาะจะนั่งพักผ่อนหรือคิดงานในที่นั่งแบบ Sunken Seat ที่นั่งจมลึก สร้างมุมมองและความรู้สึกแปลกใหม่ให้กับมุมมองการใช้ชีวิตในแต่ละวัน หรือขยับขึ้นไป Ultimate Rooftop Facilities บนชั้น 23-24 ก็จะพบกับ Entertainment Sky Lounge ที่ถูกออกแบบมาตอบโจทย์การพักผ่อนด้านความบันเทิงอย่างเต็มรูปแบบ มี Multi-Function Entertainment เพียบ ตั้งแต่โซนโรงหนังส่วนตัว หรือนั่งเสพวิวสวนในสไตล์ Amphitheatre Garden เชื่อมไปยังจุด Observatorium หรือจุดชมวิวริมกระจกใส เพื่อให้ลูกบ้านได้ออกมาสัมผัสบรรยากาศดีๆ กับวิวโค้งน้ำบางกระเจ้า ณ จุดสูงสุดของโครงการได้ในทุกวัน

แค่นั้นยังไม่พอ บนชั้น 23-24 ยังมีโซน Relaxing Sky Lounge ที่เด่นกว่าโครงการไหน ด้วย  Swing Seating ปล่อยความคิดไปกับชิงช้าที่ออกแบบมาพิเศษให้ลอยอยู่เหนือน้ำ โยกไป เอาเท้าจุ่มน้ำไป ดูเมืองวิวที่สวยงามจากชั้นสูงไป ลมเย็น ๆ น่าจะช่วยให้คนรุ่นใหม่อย่างเราเกิดไอเดียดี ๆ ได้ไม่ยาก และเป็นฟังก์ชั่นที่หาไม่ได้ง่าย ๆ ในคอนโดมิเนียมโครงการอื่น ๆ 

แม้แต่ห้องฟิตเนส LIFE SUKHUMVIT 62 ยังได้ทำการปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านการออกกำลังกาย ก่อนจะจัดวางสร้าง Sky Fitness ที่แตกต่างจากคอนโดมิเนียมอื่น ๆ  ขึ้นมา นอกจากโซน Free Weight พวกดัมเบล และโซน Cardio อย่างพวกลู่วิ่ง ที่นี่ยังเพิ่มโหมดการออกกำลังกายที่ท้าทายยิ่งกว่า และป็นอุปกรณ์ที่หาได้ใน Fitness Center ชั้นนำ รวมเอาไว้ในโครงการอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น TRX, Rope Exercise, Rowling Machine เพื่อตอบรับเทรนด์การออกกำลังกายแบบ Functional Training ที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน และเป็นครั้งแรกกับโซน Cycling Machine ที่จัดวางเครื่องเล่นเสมือน Spin Class ซึ่งด้านหน้าก็จะมีหน้าจอทีวีไว้เปิด VDO การสอนไว้ให้ลูกบ้านฝึกตามด้วย เสมือนได้ไปเข้าคลาสปั่นจักรยานประกอบเสียงเพลงตาม Fitness Center ชั้นนำ ถ้าลองคำนวณดูแล้ว มันช่วยเราประหยัดค่าฟิตเนสไปได้อีกเดือนละหลายพันบาท เพิ่มโอกาสออกกำลังกายได้มากว่าอีกด้วย

The Room

อย่างที่บอกไปแต่แรกว่า LIFE SUKHUMVIT 62 เน้นไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่เป็นพิเศษ ขนาดและรูปแบบของห้องจึงถูกออกแบบมาอย่างหลายหลายและตอบโจทย์ โดยเริ่มตั้งแต่ห้องขนาด Studio สำหรับคนที่หาพื้นที่ไม่ต้องใหญ่มาก ขนาด 25 ตร.ม. / ห้อง 1 ห้องนอน ขนาด 30 ตร.ม. / ห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 38 ตร.ม. / ห้อง 1 Bedroom + Terrace 39 ตร.ม. และ 2 ห้องนอน ขนาด 45 – 68 ตร.ม. ซึ่งแต่ละแบบก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป

ที่เราอยากแนะนำคือการออกแบบห้องขนาด 30 ตารางเมตร ที่มีพื้นที่ห้องนอนและห้องนั่งเล่นกว้างขวาง สามารถวางเตียง King Size และเลือกจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้ตามที่ใจต้องการ ทำให้พื้นที่การใช้ชีวิตในห้องไม่อึดอัด ใครชอบทำอาหารในห้องก็สบายใจได้ เพราะมีการกั้นสัดส่วนห้องครัวและห้องนอน ลดปัญหาเรื่องกลิ่น

ส่วนแปลนห้องอีกแบบที่น่าสนใจคือแบบ 1 Bedroom Plus ที่มาพร้อมดีไซน์ไอเดีย ‘NEW Flexible Function Unit’ ในห้องขนาด 38 ตร.ม. ที่ได้หน้ากว้างกว่าเดิมถึง 5.7 เมตร สามารถแบ่งสรรพื้นที่ใช้งานให้เป็นสัดส่วนมากยิ่งขึ้น สามารถเลือกลำดับความสำคัญของพื้นที่ได้ง่ายกว่า เช่นคนที่ชอบสังสรรค์กับเพื่อนฝูง สามารถวางโต๊ะทานอาหารขนาด 4 ที่นั่งได้สบาย ๆ แบ่งแยกทางเข้าห้องน้ำระหว่างห้องนอนและห้องนั่งเล่นได้ 2 ทางแบบ Double Access

ด้วยงบประมาณราคาต่อตารางเมตรที่เริ่มต้นเพียง 120,000 บาท/ตร. ม. ใครเคยแพลนซื้อคอนโดในโซน CBD จะสามารถซื้อห้องแบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 50-68 ตร. ม. ที่นี่ได้แบบมีเงินทอนเหลือไวใช้ด้านอื่นได้สบาย ๆ สามารถสร้างสรรค์ไลฟ์สไตล์ที่ตัวเองต้องการได้แบบไร้ขีดจำกัด โดยยังมีพื้นที่ขนาดใหญ่ กว้างขวาง เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ได้เท่าที่ใจต้องการ แม้จะไม่ได้อยู่บนพื้นที่ภายในมากนัก แต่ด้วยระยะเวลาเดินทางเพียงแค่ 10 นาที กับจำนวนเงินที่ประหยัดได้มากกว่า 60% (เทียบกับราคาพื้นที่ชั้นในราว 300,000 บาท/ตร. ม.) พร้อมไลฟ์สไตล์ที่พวกเราเลือกได้อย่างที่ต้องการ ความสะดวกสบายของคอนโด กับนวัตกรรมดิจิตอลที่ถูกรวมเข้าไปในการออกแบบพื้นที่ส่วนกลาง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนเมืองให้เหมาะกับการอาศัยของกลุ่มคนรุ่นใหม่แบบฉบับ Platform of Success จึงไม่แปลกที่คอนโดโครงการนี้จะเป็นที่สนใจในหมู่คนรุ่นใหม่เป็นพิเศษ

LIFE SUKHUMVIT 62 พร้อมเป็นเจ้าของได้ง่าย ๆ เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนยุค Digital ไม่ต้องออกไปถึง Sale Office เปิดขายบนแพลทฟอร์มออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบ ผ่าน AP iBooking ในวันที 27 มีนาคมนี้ เวลา 19.00 – 21.00 น. ในราคาเริ่มต้นสุดพิเศษ 120,000 บาท/ตร.ม. ลงทะเบียนวันนี้รับส่วนลดสูงสุด 300,000 บาท สำหรับชาว UNLOCKMEN เท่านั้น คลิกที่นี่ https://goo.gl/c6Ws28

รายละเอียดโครงการ “LIFE สุขุมวิท 62”

ชื่อโครงการ LIFE สุขุมวิท 62 (ไลฟ์ สุขุมวิท 62)

มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท

จำนวนยูนิตพักอาศัย 438 ยูนิต

ราคาเริ่มต้น 3 ล้านบาท* (เริ่ม 120,000 บาท/ตร.ม.)

ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม ประมาณ 135,000 บาท/ตร.ม.

เปิดขาย AP iBooking วันที่ 27 มีนาคม 2561 เวลา 19.00-21.00 น.

ข้อมูลเฉพาะ คอนโดมิเนียมร่วมทุนโครงการที่ 12 ระหว่าบริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด มหาชน และมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป (Mitsubishi Estate Group หรือ MEC)

ที่ตั้งโครงการ ซอย สุขุมวิท 62 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ เพียง 200 เมตรจากสถานีรถไฟฟ้า BTS บางจาก หรือ 500 เมตรจากทางด่วนกำหนดการ เปิดจอง 31 มี.ค. 2561

ขนาดพื้นที่โครงการ 2 ไร่ 2 งาน 67.2 ตารางวา

ลักษณะโครงการ อาคารชุดพักอาศัยสูง 24 ชั้น 1 อาคาร

ชั้น 1 เป็นโถงต้อนรับ โถงรับรอง สำนักงานนิติบุคคล ห้องจดหมาย ห้อง Generator และที่จอดรถ

ชั้น 2 เป็นห้อง MDB และห้อง AHU และที่จอดรถ

ชั้น 3-4 เป็นที่จอดรถ

ชั้น 5 เป็นชั้นที่พักอาศัย และพื้นที่จัดสวน

ชั้น 6-22 เป็นชั้นที่พักอาศัย

ชั้น 23 เป็นชั้นที่พักอาศัย สระว่ายน้ำ ห้องอเนกประสงค์ และห้องซาวน่า

ชั้น 24 เป็นห้องออกกำลังกาย และพื้นที่จัดสวน

ชั้นหลังคา เป็นพื้นที่ห้องเครื่องลิฟท์ และถังเก็บน้ำ

ลักษณะห้องชุด 4 แบบ

สตูดิโอ ขนาดพื้นที่ใช้สอยประมาณ 25.00 ตร.ม.
ห้องชุดขนาด 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 30-39 ตร.ม.
ห้องชุดขนาด 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 45 ตร.ม.
ห้องชุดขนาด 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 50-68 ตร.ม.
จำนวนที่จอดรถ 176 คัน (ไม่รวมซ้อนคัน)

สิ่งอำนวยความสะดวก สระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย ห้องซาวน่า ห้องอเนกประสงค์ ลิฟท์โดยสาร 3 ตัว ลิฟท์บริการ 1 ตัว สำนักงานนิติบุคคลอาคารชุด ห้องจดหมาย

ก่อสร้างแล้วเสร็จ คาดดารณ์ประมาณปลายปี 2562

 

#STYLE GUIDE : แนะนำ 3 ลุคใหม่สำหรับ Urban Men เท่ครอบคลุมทุกสไตล์กับ Blackbarrett by Neil Barrett

$
0
0

หากพูดถึงแบรนด์แฟชั่นผู้ชายที่มีเอกลักษณ์ของลายกราฟิกอันโดดเด่น ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจาก architecture, design ต่าง ๆ อันเป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์ แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นจะต้องมีชื่อของ Blackbarrett by Neil Barrett รวมอยู่ด้วยเพราะแบรนด์นี้ถือว่ามีต้นกำเนิดที่ไม่ธรรมดา เนื่องจากเป็นผลงานส่วนตัวของดีไซเนอร์ชาวอังกฤษที่ชื่อ Neil Barrett ผู้เคยดำรงตำแหน่งครีเอทีฟไดเรคเตอร์ให้ห้องเสื้อชื่อดังมากมาย อาทิ Gucci และ Prada จนกระทั่งในปี 1999 เมื่อ Neil ตัดสินใจนำไอเดียมาก่อตั้งแบรนด์ของตัวเอง ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่การเล่นคู่สีขาว-ดำที่รังสรรค์ออกมาได้อย่างลงตัว ทำให้ได้รับการตอบรับที่ดีในหมู่ผู้ชายทั่วโลก

สำหรับ Blackbarrett by Neil Barrett อาจจะเรียกได้ว่าเป็นแบรนด์ลูกของ Neil Barrett เนื่องจากมีการนำเทคนิค แพทเทิร์นและคอนเซ็ปต์ต่าง ๆ มาจากแบรนด์แม่ ต่างกันตรงที่ Blackbarrett by Neil Barrett นั้นมีการปรับใช้ดีไซน์ปริ้นท์ที่แตกต่างมาสร้างความโดดเด่นทำให้เป็นที่สะดุดตา มีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร นอกจากนี้แล้วคาแรคเตอร์ของแบรนด์ยังมีความสนุก เท่ แตกต่าง แบบความเป็น Urban แถมที่สำคัญยังมี Asian Fit ที่เหมาะกับรูปร่างและความต้องการของผู้ชายเอเชียอีกด้วย พูดมาขนาดนี้แล้ว ทีมงาน UNLOCKMEN ได้จัดเตรียม  STYLE GUIDE แนะนำสไตล์คอลเลคชั่นใหม่สุดเจ๋งจาก Blackbarrett by Neil Barrett เพื่อให้หนุ่ม ๆ ทุกคนเก็บไว้เป็นทางเลือกในการอัพเดทตู้เสื้อผ้าใหม่กัน

CITY STYLE

ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าผู้ชายอย่างเราใช้เวลากว่า 80% ไปกับการทำงานในแต่ละวัน ดังนั้นการแต่งตัวแบบ Casual Working จึงเปรียบได้กับ Everyday Look ของพวกเราที่ต้องพิถีพิถันแต่งออกมาอย่างมีสไตล์ด้วยเสื้อเชิ้ตแสนคลาสสิค แต่ลำพังเสื้อเชิ้ตธรรมดาก็ไม่ได้ช่วยเพิ่มความแตกต่าง เราจึงขอเลือกเสื้อเชิ้ตลายกราฟิกคูลๆ ที่ไม่เหมือนใคร อย่าง Bat Murmuration และ Global Camo โดยใช้เทคนิคพิมพ์ลายลงบนเสื้อเชิ้ตเพื่อเพิ่มลูกเล่นให้เสื้อเชิ้ตคัตติ้งเนี๊ยบ ๆ ไม่ดูน่าเบื่อจนเกินไป ลุคนี้มิกซ์แอนด์แมทช์ง่าย เมื่อจับคู่กับกางเกงสแลคทรงดีก็สามารถใส่ไปทำงานตามสไตล์หนุ่ม Urban ได้แล้ว

CASUAL STYLE

สำหรับบางคนที่อยู่ในสายงานอิสระ สามารถแต่งตัวได้อย่างหลากหลาย อาจต้องการไอเทมที่มีความทะมัดทะแมงเพื่อความคล่องตัวในกิจกรรมประจำวันต่าง ๆ แต่ไม่อยากได้เสื้อยืดธรรมดา เราขอแนะนำเป็นกราฟฟิคคอลเลคชั่นไม่ว่าจะเป็น Alien , Skull และ Camouflage ตามคาร์แรกเตอร์ของตัวเองที่เหมาะสำหรับวันสบายเบา ๆ  เช่นศุกร์สิ้นเดือนที่มีโปรแกรมงานเช้าและปาร์ตี้ต่อตอนเย็น ซึ่งเราสามารถเพิ่มสไตล์ความเท่ ทว่ายังคงความเนี้ยบได้ เพียงเสริมคู่กับแจ็กเก็ต จากนั้นแมชท์กับกางเกงทรง Loose ง่าย ๆ ก็ได้ลุคคูล พร้อมการเดินทางไปในทุกสถานการณ์

ACTIVE STYLE

นอกเหนือจากการไปทำงานและเที่ยวแล้ว กิจกรรมอีกอย่างหนึ่งที่หนุ่ม ๆ กำลังนิยมอย่างมากนั้นคือการไปออกกำลังกาย ซึ่ง Blackbarrett by Neil Barrett มี Active Wear ที่เป็นไฮไลท์โดดเด่นด้วยคาแรคเตอร์แบรนด์ และมีความเป็น FASHION-FORWARD ELEMENTS อีกทั้งยังใส่สบาย และมีรูปทรงที่ปรับให้รับกับการเคลื่อนไหวของร่างกายได้ดี อย่างไฮไลท์ลายกราฟิค Technical Stripe ลายทางของ Blackbarrett ที่ประกอบไปด้วยลายเส้นแบบเดี่ยวและลายเส้นแบบคู่ โดยได้แรงบันดาลใจมาจากเส้นสายของสถาปัตยกรรมต่างๆ เนื่องจากดีไซเนอร์ของแบรนด์นั้นมองว่าการที่ลายเส้นอยู่บน Active wear จะทำให้เกิดมิติทำให้คนใส่ดูเพรียวและสปอร์ต เพียงใส่แจ็กเก็ต ร่วมกับเสื้อสปอร์ต จับคู่กับกางเกงขาสั้นหรือขายาวก็ให้ลุคนักกีฬาเท่ ๆ แล้ว

จากทั้งสามสไตล์ที่เราได้แนะนำไปทั้งหมดนี้ ต้องบอกเลยว่าครอบคลุมในทุกโอกาส ซึ่งหนุ่ม ๆ ที่สนใจสามารถไปเลือก และจับจองได้แล้ววันนี้ที่ร้าน Blackbarrett by Neil Barrett สาขา EmQuatier หรือ Central Chidlom ไม่ว่าจะเป็น City Line ซึ่งจะเน้นที่ดีไซน์และลายปริ้นท์ที่เหมาะกับการใส่ไปทำงานแบบหนุ่ม Urban Minimal หรือจะเป็น Active Line ที่มีความโดดเด่นในลักษณะของเนื้อผ้าสวมใส่ง่ายเหมาะกับการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างดีแถมยังดีไซน์มาให้เหมาะกับ function ของผู้ที่จะสวมใส่อีกด้วย ดังนั้นเราก็หวังว่าทุกคนจะได้ออกไปสนุกกับการแต่งตัวพร้อมอัพเดทสไตล์ใหม่ ๆ ให้กับตัวเองได้แล้วที่

Blackbarrett by Neil Barrett ชั้น M ห้าง The EmQuartier

โทร : 02 021 2139 LINE : Blackbarrettth

Blackbarrett by Neil Barrett ชั้น 4 ห้าง Central Chidlom

โทร & LINE :  02 254 6008

His Lab ชั้น M ห้าง Siam Discovery

โทร : 02 021 2168-9

#MyBlackBarrettStyle                  

#BLACKBARRETTth

วัยรุ่นรวย 2018 “โฉมหน้า 5 มหาเศรษฐีพันล้าน”ที่อายุแค่ 20 กว่าแต่ว่าโคตรรวย

$
0
0

เหมือนเป็นธรรมเนียมประจำปีไปแล้วที่ Forbes ต้องจัดอันดับมหาเศรษฐีระดับโลก แต่สิ่งที่น่าสนใจกว่าบรรดาคนมีตังค์ล้นฟ้าเหล่านั้นก็คือบรรดาคนมีตังค์ที่อายุยังน้อย จนเรียกได้ว่าอายุน้อยหลายร้อยหลายพันล้านดอลลาร์ที่แท้จริง โฉมหน้าพวกเขาจะเป็นอย่างไร? และเขาทำอะไรกันบ้าง UNLOCKMEN ชวนมาอัปเดตไว้เป็นแรงบันดาลใจให้ฮึดสู้ฟัดเผื่อจะรวยให้ได้เสี้ยวของเขาขึ้นมาบ้าง

สำหรับมหาเศรษฐีที่เด็กที่สุด 3 ลำดับแรกล้วนแต่เป็นชาวนอร์เวย์ สำหรับคนที่เด็กที่สุดนั้นมีอายุเพียง 21 ปีเท่านั้น เธอคือ Alexandra Andresen โดยมีทรัพย์สินจำนวน 1.4 พันล้านดอลลาร์ ส่วนที่เหลือจะเป็นใครบ้างนั้นเราจะพามารู้จักพวกเขาไปพร้อม ๆ กัน

John Collison, 27 ปี — $1 พันล้าน

PHOTO SOURCE: Osun Defender

John Collison เป็นนักลงทุนชาวไอริชผู้ร่วมก่อตั้ง Stripe ซึ่งเป็นบริษัทออนไลน์เพย์เมนต์ที่ตั้งอยู่ที่ซานฟรานซิสโก John Collison เริ่มมีไอเดียที่จะทำบริษัท Stripe กับพี่ชายของเขาตั้งแต่เรียนอยู่ในวิทยาลัยที่บอสตัน จนกระทั่งบริษัทของเขาก่อตั้งขึ้นได้สำเร็จในปี 2011 ซึ่งขณะนั้นบริษัทยังไม่เป็นที่รู้จักเนื่องจากเขาไม่ได้ขายอะไรที่เป็นสินค้าที่บริโภคได้ แต่เป็นระบบซอฟต์แวร์ที่จะขายให้บริษัททั่วโลกติดตั้งแล้วสามารถทำธุรกรรมออนไลน์ได้ แต่ล่าสุดเขาก็มีลูกค้ากว่า 100,000 รายทั่วโลก และได้รับตำแหน่งมหาเศรษฐีพันล้านที่รวยที่สุดคนหนึ่งไปแล้ว

Evan Spiegel, 27 ปี — $4.1 พันล้าน

PHOTO SOURCE: Michael Kovac/Getty Images

Evan Spiegel เป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งแอปพลิเคชันรูปภาพสุดฮิตในหมู่วัยรุ่นทั่วโลกอย่าง Snapchat โดยเขาก่อตั้ง Snapchat กับเพื่อนร่วมชั้นที่ Stanford ในปี 2011 (ปีเดียวกับที่ Stripe ก่อตั้ง น่าสนใจจริง ๆ ว่าเมื่อ 7 ปีที่แล้วเราทำอะไรกันอยู่บ้าง?) อย่างไรก็ตาม Snapchat ไม่ได้ดังเปรี้ยงปร้างขึ้นมาในทันทีทันใด กว่าผลผลิตจะผลิดอกออกผลก็ปาเข้าไปเดือนมีนาคม 2017 และนั่นทำให้เขากลายเป็น CEO บริษัทมหาชนที่มีอายุน้อยที่สุด โดยเขามีสัดส่วนการถือครองหุ้นใน Snapchat ประมาณ 18%

Gustav Magnar Witzøe, 24 ปี — $1.9 พันล้าน

PHOTO SOURCE: Aftenposten

Gustav Magnar Witzøe ครอบครองบริษัท Salmar หนึ่งในบริษัทส่งปลาแซลมอนส่งออกที่ใหญ่ที่สุดในโลกและถือครองฟาร์มเพาะเลี้ยงปลากว่าครึ่งที่มีอยู่ในนอร์เวย์ โดยทรัพย์สินของเขามาจากพ่อที่ยกบริษัทให้เขา ในขณะที่เขามุ่งเน้นไปที่การลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และเทคสตาร์ทอัพ พ่อของเขาก็ยังดูแลงานบริหารในบริษัทต่อไป

Katharina Andresen, 22 ปี— $1.4 พันล้าน

PHOTO SOURCE: time.com

Katharina Andresen เป็นมหาเศรษฐีพันล้านชาวนอร์เวย์ โดยเธอได้สินทรัพย์มาจากพ่อของเธอเป็นมรดก 42% ของบริษัทการลงทุนของครอบครัวที่ชื่อว่า Ferd ในขณะที่พ่อของเธอยังทำงานบริหารต่อไป

Alexandra Andresen, 21 ปี — $1.4 พันล้าน

PHOTO SOURCE: Brilio.net

Alexandra Andresen เป็นน้องสาวของ Katharina Andresen นั่นเอง ดังนั้นทรัพย์สินที่เธอได้จากพ่อของเธอจึงมีปริมาณ 42% จากบริษัท Ferd เช่นกัน โดย Ferd เป็นบริษัทนักลงทุนในตลาดหุ้นนอร์เวย์ นอกจากนี้ยังมีการลงทุนในกองทุนเอกชนต่าง ๆ อีกด้วย

มหาเศรษฐีพันล้านก็มีตั้งแต่ที่ลงมือก่อร่างสร้างบริษัทมาด้วยน้ำพักน้ำมือตัวเอง รวมถึงแบบที่เป็นทายาทมหาเศรษฐีและได้รับมรดกตกทอดมาภายหลัง แต่ไม่ว่าแบบไหนล้วนแต่ก็ตกอยู่ภายใต้ความกดดันที่จะต่อยอดให้เงินงอกเงยขึ้นไปในธุรกิจเรื่อย ๆ ทั้งสิ้น UNLOCKMEN ก็ขอเป็นกำลังใจให้วัยรุ่นมหาเศรษฐีทุกคน รวมถึงวัยไม่รุ่นผู้ชายทั้งหลายที่ฝันจะเป็นมหาเศรษฐีให้ได้สักวัน

SOURCE 

หมดข้ออ้างของจอมขี้เกียจ! 5 เหตุผลดี ๆ ต่อไปนี้จะทำให้คุณ “ฮึดขึ้นมาออกกำลังกาย”

$
0
0

กว่าจะขุดตัวเองไปออกกำลังกายได้แต่ละที ขุดแซะยากยิ่งกว่านักโบราณคดีขุดค้นซากไดโนเสาร์จากยุคดึกดำบรรพ์เสียอีก แต่ไม่ต้องตกใจไปเราไม่ใช่ผู้ชายคนเดียวที่ประสบปัญหา “หลอกตัวเองให้ขี้เกียจ” นี้ ขอแค่อย่ามัวจมไปกับมันแล้วปล่อยให้ร่างกายไหลไปตามวันเวลาและไขมันที่พูนกายขึ้นเรื่อย ๆ หยุดตั้งแต่ตอนนี้! ด้วย 5 เหตุผลจากผู้เชี่ยวชาญที่จะทลายข้ออ้างของจอมขี้เกียจอย่างคุณให้หมดสิ้นไป

“โธ่ ก็ผมไม่มีเวลานี่ครับ”

ข้ออ้างอันดับหนึ่งของจอมขี้เกียจอย่างเราคือ “ไม่มีเวลา” Laura Vanderkam นักเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับธุรกิจพูดเรื่องเวลาไว้อย่างน่าสนใจว่าในแต่ละอาทิตย์เรามีเวลา 168 ชั่วโมงเท่า ๆ กัน เป็นเวลานอนไป 56 ชั่วโมง และตีเป็นเวลางาน 50 ชั่วโมงไปเลย! เท่ากับว่าเราเหลือเวลา 62 ชั่วโมงเต็ม ๆ ที่เราสามารถจัดสรรปันส่วนเป็นเวลาพักผ่อนหย่อนใจ เวลาเดินทาง เวลาอาบน้ำกินข้าว ปัญหาเรื่องไม่มีเวลาจะหมดไปถ้าเรามองเวลาเป็นล็อตใหญ่ ๆ แล้วแบ่งมันไว้ตั้งแต่ต้นสัปดาห์ และใส่ “การออกกำลังกายไว้ในตารางเวลาที่เราวางไว้ด้วย” โดยอาจจะเริ่มต้นจาก 1 ชั่วโมงครึ่งจาก 168 ชั่วโมง (อาทิตย์ละ 3 วัน วันละ 30 นาที) ถ้าคิดได้ว่ามันแค่ 1 ชั่วโมงครึ่งจาก 168 ชั่วโมง เราก็จะมีเวลาให้กับมันทันที

“ตอนนี้กำลังสบายอ่ะครับ ไว้ค่อยออกกำลังกายอาทิตย์หน้าแล้วกัน”

Dan Goldstein นักเศรษฐศาสตร์พฤติกรรมจาก Microsoft Research พูดถึงข้ออ้างแบบนี้ว่าเป็นการต่อสู้กันระหว่างตัวตนของเราในปัจจุบันกับตัวตนของเราในอนาคต มันเป็นเรื่องง่ายที่ตัวตนเราในปัจจุบันจะเอาชนะด้วยการบอกว่า “เอาล่ะ นั่งเฉย ๆ เล่นมือถือส่องสาวในอินสตาแกรมแล้วก็นั่งกินนั่นกินนี่ไปแหละดีแล้ว ไม่เห็นต้องออกกำลังกายเลย” ดังนั้นเราจึงต้องเอาตัวตนในอนาคตเข้าสู้ด้วยการใส่สถานการณ์ในอนาคตที่จะเกิดจาก “การไม่ออกกำลังกาย” ใส่ลงไป เช่น อีก 30 ปีข้างหน้าเราอาจจะถูกรุมล้อมด้วยโรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคหัวใจ และอีกสารพัดโรค ให้นึกถึงความทรมานและค่าใช้จ่ายนั้นไว้ แล้วถามว่าจะแก้ปัญหาด้วยการหาเงินแทบตายมาเพื่อรักษาโรคเหล่านั้น หรือจะลงมือทำแค่ 1 ชั่วโมงครึ่งจาก 168 ชั่วโมงต่ออาทิตย์ตอนนี้แทนดีล่ะ?

“ขอนั่งดู Netflix หล่อ ๆ ดีกว่าครับ”

เรามักถูกผูกติดกับอะไรที่เราชอบ เช่น เวลาไถเฟซบุ๊กไม่รู้จบของเรา ซีรีส์โปรดใน Netflix ที่เรารัก หนังสือเล่มโปรดที่ขาดไม่ได้ สิ่งเหล่านี้มักเป็นข้ออ้างในการใช้เวลา 62 ชั่วโมงที่เหลือจากการนอนและการทำงาน ซึ่ง Katherine Milkman นักวิทยาศาสตร์พฤติกรรมมีทางออกให้คุณ โดยมีการทดลองหนึ่งที่ผูกการออกกำลังกายในยิมเข้ากับกิจกรรมที่กลุ่มตัวอย่างชอบ โดยผลออกมาว่าการที่เราเอากิจกรรมที่เราชอบไปทำในขณะออกกำลังกายจะช่วยให้เราอยากออกกำลังกายได้มากขึ้น ดังนั้นทางออกก็คือวิ่งบนลู่ไป ดู Netflix ไป หรือฟัง Audio Book เล่มโปรดไป หรือถ้าไม่ถนัด ต้องผูกกับเงื่อนไขที่ว่าถ้าไม่ออกกำลังกายจะไม่ได้ทำสิ่งที่ชอบ เมื่อไหร่ที่พาตัวเองไปออกกำลังกายได้ ก็ให้รางวัลด้วยสิ่งของที่ตัวเองชอบซะ เราจะได้ติดใจการออกกำลังกายให้ได้ใกล้ ๆ กับที่ติดซีรีส์

“หุ่นผมโคตรไม่ดี ไปออกกำลังกายทีพวกหุ่นดี ๆ ก็ชอบจ้องผม”

Kelli Jean Drinkwater นักกิจกรรมและศิลปินกล่าวเอาไว้ว่าสังคมของเราเป็นสังคมเหยียดน้ำหนัก วัฒนธรรมของเรากำลังสอนว่าคนอ้วนเป็นคนขี้เกียจ ตะกละ สุขภาพแย่ ไม่มีความรับผิดชอบ ในขณะที่คนผอมถูกมองด้วยภาพแทนของสิ่งดี ๆ ทั้งหลาย เธอถามต่อว่าเราเปลี่ยนวิธีคิดหน่อยไหม? แทนที่จะมองว่าการออกกำลังกายเป็นทัณฑ์ทรมานที่จะตีกรอบให้ตัวเองหุ่นดี เรามองมันแค่เป็น “การรักตัวเอง” แบบหนึ่งได้หรือไม่? เหมือนที่เรารักตัวเองในแบบอื่น ๆ เราอยากมีรอยสักสวย ๆ อยากใส่เสื้อผ้าที่บ่งบอกว่าเราใส่ใจตัวเอง อยากไว้ทรงผมแบบที่ตัวเองมีความสุขที่สุด ทำไมเราถึงไม่ทรีตการออกกำลังกายว่าไม่ใช่ความทรมานตัวเองเพื่อแข่งกับคนอื่น แต่มองมันเป็นอีกรูปแบบหนึ่งแห่งการรักและดูแลตัวเองโดยไม่ต้องสนใจว่าคนรอบข้างในยิมจะมองเราอย่างไรแทนล่ะ?

“คิดถึงการออกกำลังกายทีไร ผมก็คิดแต่ภาพตัวเองหน้าแดง เหงื่อท่วมและเจ็บปวดทรมาน ถ้างั้นทำไมผมต้องทรมานด้วยอ่ะ?”

Martin Hagger นักจิตวิทยาการกีฬา จาก Curtin University เปิดเผยถึงเคล็ดลับของนักกีฬาโอลิมปิคว่า “การจินตนาการคือการฝึกซ้อมจิตใจ การจินตนาการเหมือนการดูวีดีโอเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นตรงหน้าล่วงหน้า” โดยเขายกตัวอย่าง Blanka Vlašić แชมป์กระโดดสูงชาวโครเอเชียที่มักจะจินตนาการถึงภาพความสำเร็จของตัวเองก่อนกระโดดจริง เพราะมันขจัดความกลัวและเรียกความเชื่อมั่นให้เธอได้ ดังนั้นเราควรใช้หลักทางจิตวิทยานี้กับตัวเองเช่นกัน อย่ากลัวที่จะเผชิญหน้ากับการออกกำลังกาย แต่ให้จินตนาการถึงทุกสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น สิ่งแวดล้อมที่เราจะวิ่งผ่าน ความรู้สึกดี ๆ เมื่อได้หายใจเต็มปอดและเลือดสูบฉีด ความสำเร็จที่เราจะภูมิใจหลังการออกกำลังกาย เมื่อลืมตาตื่นจากจินตนาการนั้นได้แล้ว ก็ลุยซะอย่ามัวจมอยู่แต่กับความกลัวแย่ ๆ อยู่เลย

UNLOCKMEN เชื่อว่าผู้ชายทุกคนจะสามารถเอาชนะจิตใจตัวเองได้อย่างแข็งแกร่งเมื่อปราศจากข้ออ้างเหล่านี้ ด้วยตัวช่วยและคำแนะนำดี ๆ จากผู้เชี่ยวชาญ ใครที่เอาไปลองมาแล้วได้ผลอย่างไรบ้างก็อย่าลืมมาแชร์กัน!

SOURCE

 

‘ESCAPE X CLUBPOPP’ ไม่ใช่แค่นอนพักผ่อน แต่ยังได้เสพศิลป์สไตล์ป๊อปอาร์ท ที่โรงแรม ESCAPE ตลอดร้อนนี้

$
0
0

กลับมาอีกครั้งกับแคมเปญดี ๆ สำหรับสายอาร์ทอย่าง “Vacation with an Artist” ที่ได้เปิดตัวโปรเจ็คท์ล่าสุด ‘ESCAPE X CLUBPOPP’ ต้อนรับหน้าร้อนนี้ จากการร่วมมือกับอิลลัสเตรเตอร์คนล่าสุดอย่าง CLUBPOPP (พีระ สุขอาษา) เจ้าพ่อผลงานป๊อปอาร์ท ผู้อยู่เบื้องหลังปกอัลบั้มของศิลปินดัง อีเว้นท์ปาร์ตี้และงานดนตรีสุดเจ๋งอีกมากมาย ที่จะมาครีเอทงานศิลปะแนวป๊อบสมัยใหม่ กับแรงบันดาลใจจากยุค 80s ผ่านบรรยากาศและพื้นที่ในโรงแรม Escape ทั้ง 2 โลเคชั่น อย่าง Escape Hua Hin และ Escape Khaoyai ในช่วงซัมเมอร์นี้ ให้กลายเป็นสถานที่ที่เหล่าชายหนุ่มสายท่องเที่ยวที่ชอบถ่ายภาพไม่ควรพลาด

ทั้งผลงาน Installation Art และครั้งแรกของการฉายภาพ Projector Mapping ในโรงแรม และโปรโมชั่นพิเศษมากมายให้ได้สนุกสนานตลอดการพักผ่อนตลอดซัมเมอร์นี้ได้ตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค. –31 ส.ค. นี้

Escape เป็นอีกหนึ่งเดสทิเนชั่นของกลุ่มคนรุ่นใหม่เหล่านักเดินทาง มีการจัดสรรพื้นที่ของโรงแรมให้เป็นอีกหนึ่งแกลอรี่ที่เหล่าศิลปิน สามารถแวะเวียนกันเข้ามาจัดแสดงผลงานผลัดเปลี่ยนกันได้ตลอด สำหรับใครที่กำลังมองหาสถานที่เปลี่ยนบรรยากาศช่วงวันหยุดพักร้อน สบาย ๆ ถ่ายภาพเท่ ๆ และสำหรับสายเสพอาร์ท ที่จะต้องแวะมาที่เอสเคปและถ่ายรูปเช็คอินบนโซเชียล

คุณพีระ สุขอาษา หรือ CLUBPOPP พูดถึงผลงานที่ออกแบบเป็นพิเศษสำหรับ Escape ทั้งสองแห่งว่า “เนื่องจากแคมเปญนี้ เริ่มต้นในช่วงซัมเมอร์ ซึ่งเป็นฤดูที่หลายคนอยากพักผ่อน และลา พักร้อนไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ ถ่ายภาพสวยๆ การคิดคีย์เวิร์ดที่เวลาคนทั่วไปเห็นหรือได้ยินแล้ว มันต้องรู้สึกดีทันทีและต้องเหมาะกับช่วงซัมเมอร์นี้ จึงเกิดคอนเซ็ปท์ “BLOOM” ขึ้น เพื่อสื่อถึงความเบิกบานใจ สีสันสดใสของฤดูร้อน องค์ประกอบต่างๆที่ใช้ในการออกแบบจะสะท้อนถึงสิ่งต่างๆที่มนุษย์รู้สึกดีทันทีเมื่อเห็น โดยไม่ต้องใช้กระบวนการคิดไตร่ตรองให้ซับซ้อน ที่หยิบเอาเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของแต่ละโลเคชั่นของโรงแรมเอสเคปมาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบงานให้มีความแตกต่างกัน ภายใต้ธีมหลัก คือ ซัมเมอร์ เป็นต้น นำมาออกแบบและจัดวางแบบงานดีไซน์ในยุค 80’s-90’s ที่มักจะเห็นในนิตยสารวัยรุ่นจนถึงข้าวของในร้าน Gift Shop ของยุคนั้น ซึ่งเป็นการนำป๊อบคัลเจอร์ มาเล่าใหม่ในปัจจุบันแบบร่วมสมัยให้คนได้หวนนึกถึง ผสมผสานกับการใช้สีสันและลวดลายที่เข้ากันได้ดี เช่น ไอศกรีม ดอกไม้ ทะเล ค็อกเทล”

ที่พิเศษสุดอย่าง Projector Mapping ซึ่ง CLUBPOPP ได้นำผลงานมาถ่ายทอดผ่านการฉายภาพลงบนพื้นที่ของโรงแรมเป็นครั้งแรกที่เอสเคป! จัดแสดงบนพื้นบริเวณฝั่งล็อบบี้ เพราะเป็นจุดนัดพบหลักเพื่อเริ่มต้นเรื่องราวความสนุกสนานที่กำลังจะเกิดขึ้นโดยจะฉายภาพ ช่วงตอนเย็นเพื่อเป็นการสร้างสีสันให้กิจกรรมยามช่วงค่ำ

นอกจาก Installation Art ที่จัดวางเพื่อตกแต่งในพื้นที่ส่วนต่าง ๆ ของโรงแรมทั้งสองแห่งไม่ว่าจะเป็น ส่วนล็อบบี้ ร้านอาหาร สระว่ายน้ำ ทางเดิน และอื่น ๆ แล้ว CLUBPOPP ยังได้ร่วมออกแบบ ไลฟ์สไตล์คอลเลคชั่นของที่ระลึกดีไซน์สุดเท่อย่าง Let’s Blooming Vacay Set ซึ่งจะวางจำหน่ายตลอดระยะเวลาของแคมเปญ อาทิ ผ้าพันคอสีสันสดใส ผ้าปิดตา Tag ห้อยกระเป๋าเดินทาง และ Tote bag ในถุงตาข่าย

นอกจากมีกิจกรรมดี ๆ จัดขึ้นแล้ว Escape ยังมีโปรโมชั่นพิเศษแคมเปญ Vacation with an Artist
สำหรับผู้ที่เข้าพักที่โรงแรมเอสเคป หัวหินหรือเขาใหญ่ตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค. – 31 ส.ค. 61 รับฟรี STICKER ESCAPE X CLUBPOPP limited edition พิเศษสำหรับห้องพัก Deluxe พร้อมอาหารเช้าสำหรับ 2 ท่าน จองตรงได้ในเว็บไซต์ www.escape-hotel.com พร้อมรับส่วนลด เพียงใส่ promo code “clubpopp” หรือ จองตรงผ่านโรงแรมที่เอสเคป หัวหิน 063-187-0777 หรือเอสเคป เขาใหญ่ 063-196-4999 หรือ Line: @escapehotels

• Escape Pop Up Café ดับร้อนไปกับเครื่องดื่ม และ Popsicles เย็นสดชื่น คลายร้อนริมสระยามบ่าย เปิดให้บริการที่เอสเคป เขาใหญ่ และ เอสเคป หัวหินทุกวันเวลา 11.00 – 22.00น.
• Escape Summer Yard เอสเคป เขาใหญ่ อิ่มอร่อยในค่ำคืนของซัมเมอร์ด้วยมื้อค่ำเลิศรสอย่าง BBQ และ เมนูหลากหลายสไตล์ เปิดให้บริการทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 18.00-22.00 น. ในบรรยากาศ Dinner Outdoor สุดโรแมนติกกลางสวน ท่ามกลางเขา
• ‘Escape Pool Bar & Grill’ เอสเคป หัวหิน จัดเต็มกับ เมนูใหม่ ล่าสุดอย่าง Seafood Bomb ซีฟู้ดสดจัดเต็มเสริฟบนกระทะร้อนท่ามกลางบรรยากาศปิกนิกริมสระ เปิดให้บริการทุกวันเสาร์ เวลา 18.00-21.30น.

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม ‘Vacation with an Artist’ ได้ทาง
www.escape-hotel.com/vacationwithanartist/huahin/th/
www.escape-hotel.com/vacationwithanartist/khaoyai/th/
 #escapewithclubpopp #vacationwithanartist #escapehuahin #escapekhaoyai


ลองดูไหม ? ผู้เชี่ยวชาญชี้ SEX TAPE ก็มีประโยชน์กับชีวิตคู่เหมือนกัน (ถ้าไม่หลุด)

$
0
0

คงมีผู้ชายหลายคนเคยคิดจะลองทำกิจกรรมบนเตียงกับคู่ขาพร้อมอัดวิดีโอระหว่างประกอบกิจเอาไว้ด้วยเพื่อเก็บความทรงจำอันชวนสยิวในขณะเดียวกันก็มีบางคนลองทำ Sex Tape เพราะถือเป็นเรื่องน่าตื่นเต้น เย้ายวน แม้จะเต็มไปด้วยความเสี่ยงก็ตาม

โดยเฉพาะในปัจจุบันที่ผู้ชายมองเรื่องบนเตียงเป็นสิ่งสนุกสนานระบายความกำหนัดมากกว่าเป็นการสร้างหรือพัฒนาความสัมพันธ์ แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร อาจเพราะทุกวันนี้ขอเพียงคุณมีมือถือสมาร์ทโฟนก็สามารถถ่ายเก็บไว้ดู แถมบางครั้งเผยทำหลุดกลายเป็นดาราจำเป็นไปเสียงั้น วันนี้ UNLOCKMEN จะพาไปทำความรู้จักกับจุดกำเนิด Sex Tape พร้อมข้อคิดเตือนใจสำหรับหนุ่ม ๆ มนุษย์กล้องถึงผลเสียที่จะตามมา

จุดเริ่มต้น Sex Tape: ความโด่งดังชั่วข้ามคืน

ต้องขอบคุณ Rob Lowe ที่ทำให้ชาวโลกได้รู้จักกับ Sex Tape เป็นครั้งแรกในปี 1988 ซึ่งมันเป็นนิมิตหมายใหม่ของวงการวิดีโอเรท 20 +  เรื่องราวภายในวิดีโอมี Rob และผู้หญิงอีกสองคน แถมมีคนหนึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะอีกด้วย (งานเข้าชุดใหญ่ไหมละทีนี้) จนกลายเป็นข่าวโด่งดังใหญ่โต แต่ 9 ปีต่อมา Sex Tape บันลือโลกของ Pamela Anderson กับนักดนตรีแฟนหนุ่ม Tommy Lee ก็หลุดออกมาแบบไตรภาคกันเลย

Rob Lowe ต้นกำเนิด Sex Tape บันลือโลก

หลังจากนั้นมาก็เกิดศัพท์ใหม่ “หลุด ( Leaked )”  ขึ้นกับวงการ Hollywood แถมพวกเขาก็ขยันมีเทปหลุดมากมายจนกลายเป็นแรงบันดาลใจให้เราคนธรรมดาทั่วโลกอยากลองมีวิดีโอบันทึกเรื่องราวบนเตียงของตัวเองเช่นเดียวกับคนดังเหล่านั้นบ้าง จนกลายเป็นวัฒนธรรม Sex Tape แบบทุกวันนี้

Dr. Fran Walfish จากศูนย์บำบัดโรค Beverly Hill แพทย์ผู้ทรงคุณวุฒิ กล่าวถึงสาเหตุของลักษณะการเลียนแบบดังกล่าวว่า “นักแสดง Hollywood มีอิทธิพลต่อคนทั่วไปเป็นอย่างมาก เมื่อพวกเขาทำอะไร ผู้คนก็อยากจะทำตาม”

Kelly Chisholm นักบำบัดโรคทางเพศบอกถึง การกระทำส่งต่อจาก Sex Tape คนดัง สู่คนทั่วไปว่า “การใช้หนังโป๊เริ่มมีผลกับชีวิตคู่มากขึ้น ในขณะเดียวกันผู้หญิงบางคนต้องกลายเป็นดาราหนังที่บ้านตัวเองจนมีคลิปหลุดว่อนมากมาย” แต่ทราบหรือไม่ว่าคนที่เอ่ยปากชักชวนมักเป็นพวกผู้ชายอย่างเราเสมอ

ผู้ชาย Vs ผู้หญิง กับความต้องการทางเพศ

เป็นอย่างที่รู้กันดีว่าผู้ชายเป็นกลุ่มที่จะตื่นตัวกับเรื่องเพศมากกว่าผู้หญิง นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไม Pornographic Magazine และวิดีโออย่างว่าถึงพุ่งเป้าหมายไปที่ผู้ชายและยิ่งถ้าแบ่งสัดส่วนจำนวนคนที่เข้าชมเว็บไซต์ 18+ จะพบว่า 72 % เป็นผู้ชาย โดยผู้หญิงมีเพียง 28 %เท่านั้น

April Masini ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ได้เคยให้สัมภาษณ์กับ Medical Daily ว่า “ผู้ชายนั้นเต็มไปด้วยความต้องการทางเพศโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคู่ขาพร้อมและเต็มใจที่จะทำ Sex Tape พวกเขาจะยิ่งเพิ่มระดับความสุขกับตัวเองและชื่นชอบที่จะมีสัมพันธ์กับผู้หญิงคนดังกล่าวมากยิ่งขึ้น”

Sex Tape vs Porno

คงไม่ต้องอธิบายสำหรับสองคำนี้อีกต่อไป เพราะเราเชื่อว่าหนุ่ม ๆ UNLOCKMEN คงจะพอทราบกันดีอยู่แล้วว่าระหว่าง Sex Tape และ Porno มีความแตกต่างกันอย่างไร โดย Sex Tape คือวิดีโอที่ถูกถ่ายแบบสมัครเล่นทุกอย่างจะดูสมจริงทำให้หลายคนรู้สึกชื่นชอบดูคลิปประเภทนี้อย่างมากเพราะมันจะยิ่งเร้าอารมณ์ขึ้นถ้าหากคุณเกิดเป็นนักแสดงในนั่นเสียเอง

ในทางกลับกัน Porno คืออุตสาหกรรมหนังสำหรับผู้หญิงที่จะถูกถ่ายทำอย่างมืออาชีพ ซึ่งผู้ชมจะได้รับความสวยงามและเนื้อเรื่องสนุกเหมือนกับกำลังรับชมภาพยนตร์สักเรื่อง แต่ทว่าลีลาบนเตียงอาจจะขาดความสมจริงเนื่องจากทั้งหมดล้วนเป็นการแสดง

ถ้าหากชอบ Sex Tape คุณมีแนวโน้วจะเป็นพวกถ้ำมองหรือชอบโชว์หรือเปล่า?

มันดูจะเป็นเรื่องก่ำกึ่งสำหรับผู้ชายที่ชอบถ่ายหรือดู Sex Tape ของตัวเองที่จะเข้าข่าย  exhibitionism disorder (ชอบโชว์) และ voyeurism disorder (ถ้ำมอง) ทั้งสองโรคดังกล่าวขึ้นอยู่กับรายละเอียดปลีกย่อย เพราะถ้าเกิดวิดีโอนั้นคุณอยากเก็บมันไว้ดูคนเดียวไม่เคยคิดจะแบ่งปันหรือส่งต่อให้ใครดูก็ไม่เข้าข่ายพวกชอบโชว์แต่อย่างใด หรือถ้าเกิดคุณไม่ได้เป็นพวกชอบดู Sex Tape ของคนอื่นแบบเป็นชีวิตจิตใจแบบนั้นไม่ถือเป็นพวกถ้ำมองอีกเช่นกัน

Sex Tape มีประโยชน์กับชีวิต Sex หรือไม่ ?

หลายคนอาจจะ งง ว่า Sex Tape มีประโยชน์เกี่ยวข้องอย่างใดกับชีวิต Sex แต่มันเป็นเช่นนั้นจริง ๆ เพราะ Eboni Harris ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ของคู่รัก บอกว่า “การถ่ายทำกิจกรรมเข้าจังหวะกับคู่รัก (ที่ยินยอม) จะช่วยเร้าอารมณ์ กระตุ้นความสุข ขณะมี Sex ให้เพิ่มมากยิ่งขึ้นและถ้าเกิดคุณรู้จักจัดการมุมกล้องให้ดี จะทำให้สามารถดูท่วงท่าลีลาในการปรับปรุงตัวเองเหมือนกับสมุดโน๊ตเพื่อเก็บบันทึกไปปรับปรุงในครั้งต่อไป”

สรุปว่าคุณควรถ่าย Sex Tape หรือไม่ ?

ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าหนุ่ม ๆ ควรถ่ายหรือไม่ เพราะเรื่องแบบนี้เป็นสิ่งที่ต้องตกลงกันเองระหว่างคู่รักที่พร้อมจะยินยอมทั้งสองฝ่าย โดยทีมงาน UNLOCKMEN อยากจะฝากเตือนผู้ชายที่มีความต้องการจะถ่าย Sex Tape ว่าถ้าหากคุณยังไม่ได้จดทะเบียนแต่งงานกันอย่างถูกกฎหมาย การถ่าย Sex Tape ฝ่ายหญิงจะต้องเป็นฝ่ายเสียหายมากกว่าถ้าเกิดเทปลับนี้หลุดออกไป เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่ามีกรณีหลุดมาก ๆ ที่ตอนรักกันก็หวานปานน้ำผึ้ง แต่พอเลิกกันไม่เผาผีนำคลิปแห่งความรักออกมาประจานใส่กัน เพราะมันจะกลายเป็นความบรรลัยทันทีถ้าเกิดคลิปของคุณดันทะลึ่งหลุดออกไปอาจคาบเกี่ยวกับ พรบ. สื่อลามกอนาจารได้

ดังนั้นคุณก็ควรคิดพิจารณาตริตรองให้ดี ๆ  ถ้าเกิดมั่นใจว่าเทปนี้จะไม่มีทางหลุดไปไหน เราก็ไม่ขัดข้องแต่ประการใด เพราะมันอาจจะทำให้ความสัมพันธ์ของคู่รักคุณแนบแน่นกระชับกันมั่นยิ่งขึ้นก็เป็นได้

Source  , Source 2 

5 เทคนิคเจ๋ง ๆ นำทีมประชุมแบบ LIKE A BOSS ลูกน้องชอบใจ เจ้านายแฮปปี้!

$
0
0

การประชุมเป็นเรื่องที่จะเลี่ยงไม่ได้เลยในทุกออฟฟิศ เพราะมันคือการ Brainstorm ช่วยให้เราได้เห็นการทำงานในภาพรวมจากทุกคน แต่ประชุมทีไร มันเละเทะทู้กกกกที พูดเรื่องนู้นที เรื่องนี้ที ข้ามไปข้ามมา สุดท้ายแล้วมึนทั้งคนฟัง ทั้งคนนำประชุม วันนี้ UNLOCKMEN จะมาแนะนำเทคนิคเจ๋ง ๆ ที่ช่วย Improve การประชุมให้มีประสิทธิภาพ ไม่ตกหล่นประเด็นไหนที่สำคัญไป

ถามไถ่ความต้องการของคนในทีม

ถ้าหากต้องการให้ทุกคนรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันภายในทีม เราต้องให้ทุกคนมีความเชื่อมโยงกันและมีความสำคัญเท่า ๆ กันในทุกหน้าที่ ให้ทุกคนเสนอไอเดียที่ตัวเองมี หรือความต้องการที่อยากจะนำเสนอในที่ประชุม เคาะออกมาเป็นหมวดหมู่แล้วนำเสนอในที่ประชุม โดยทุกครั้งอย่าลืมเอ่ยชื่อเจ้าของไอเดียด้วย ถือว่าเป็นการให้เกียรติและไม่เอาความดีความชอบมาไว้ที่ตัวคนพูดในที่ประชุมเพียงคนเดียว

Main Idea สิสำคัญ

ลองหาเวลาคุยกันเองในทีมแบบจริงจังก่อนเข้าประชุม หาจุดยืนของทีมจากไอเดียทั้งหมดที่เสนอรวม ๆ กันแล้วตกตะกอนออกมาเป็นไอเดียหลักให้ได้ แล้วค่อยต่อยอดออกมาเป็นประเด็นเล็ก ๆ ทีหลัง แต่เนื้อหาต้องเกี่ยวข้องกันกับประเด็นใหญ่ หรือถ้าไม่เกี่ยวก็ต้องบอกให้ชัดเจนว่ามันคนละส่วนกัน เพื่อป้องกันความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนในที่ประชุม

เตรียมพร้อมตอบคำถาม

หาจุดอ่อนที่อาจจะโดนโจมตีในประเด็นที่เราจะนำเสนอ เจอแล้วอย่าปล่อยผ่าน หาคำตอบข้อแก้ต่างมาให้พร้อม หรือถ้ายังหาทางออกไม่ได้ ก็ต้องเตรียมคำตอบที่น่าเชื่อถือแบบไม่ใช่ตอบส่ง ๆ หรือขอไปที และอย่าลืมเน้นย้ำจุดแข็งของประเด็นที่เราเสนอแบบมั่นใจ

ทีมพร้อม ข้อมูลแน่น

ทุกคนในทีมจำเป็นต้องรู้ข้อมูลเบื้องต้นของประเด็นที่จะเสนอ ไม่ว่าจะเป็น ที่มาที่ไป วัตถุประสงค์ จุดแข็ง จุดอ่อน เพราะในการประชุมคุณอาจจะไม่ได้เป็นคนเดียวที่พูดหรือถูกคั้งคำถาม หากเป็นคนในทีมถูกตั้งคำถามโดยคนอื่นในที่ประชุม แล้วหน้าแห้งตอบแบบงู ๆ ปลา ๆ นั้นทำให้เห็นเลยว่าเราเตรียมตัวมาไม่พร้อม ประเด็นของเรายังไม่มีน้ำหนักพอ ขนาดคนในทีมเองยังไม่ค่อยรู้เรื่องเลย คนอื่นจะเชื่อมั่นได้ยังไง ?

มองหาช่องทางอยู่เสมอ

เมื่อทีมอื่นเสนอไอเดียอะไรขึ้นมา เราต้องมีไหวพริบมากพอที่จะเห็นความเชื่อมโยงใด ๆ ที่ให้ประโยชน์กับทีมของเรา ถ้ามันไปกันได้ลองนำมาเสนอเป็นไอเดียที่ทำไปควบคู่กัน ช่วยกันขายทั้งสองไอเดีย ถือว่าวิน-วินทั้งสองทีม มีหรือที่อีกทีมจะไม่เอาด้วย

จบแล้วอย่าจบเลย

ตีเหล็กต้องตีตอนร้อน ๆ แม้จะประชุมรวมกันหนักหนาแค่ไหน แต่เมื่อจบประชุมใหญ่แล้ว สละเวลาอีกสักห้านาที สำหรับการประชุมเล็กในทีมอีกรอบ เพื่อสรุปการประชุมของวันนี้แบบคร่าว ๆ ว่าเราทำมันออกมาดีหรือยัง หรือมีข้อผิดพลาดอะไรที่จะไม่เกิดขึ้นในการประชุมครั้งต่อไป เพราะถ้าหากเว้นช่วงไว้นาน อาจจะหลงลืมประเด็น หมดไฟกับการทำประชุมไปแล้วก็ได้

หากเราเป็นคนทำทีมในการประชุม เราควรเตรียมพร้อมตั้งแต่ก่อนประชุมไปจนถึงการแก้ไขสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดอยู่เสมอ การมีไหวพริบและการเตรียมตัวจึงเป็นสิ่งที่สำคัญถ้าหากเราอยากนำทีมได้แบบเจ๋ง ๆ จนใคร ๆ ก็ไว้ใจให้เราเป็นผู้นำ

SOURCE

(กระ)ซิบ & SIP : ตะเวนตรอกซ่อนบาร์ลับเหล้าบ๊วยพรางชมพูย่านเยาวราช “SHUU SHUU HIDDENPLACE”

$
0
0

UNLOCKMEN สายกระหายเหล้าบ๊วยยกมือขึ้น !

เห็นมือที่ยกกันบางเบา เราก็พอรู้ว่าในหมู่ผู้ชายส่วนใหญ่ มักไม่กระแทกปากกันด้วยแอลกอฮอล์รสชาติติดหวานและนิยมความคมเข้มฉบับ ON THE ROCK ของ Whisky หรือ Single Malt มากกว่า ถึงอย่างนั้นก็อย่าได้ประมาทว่าร้านเหล้าบ๊วยจะรองบ่อนหรือมองเมินไปเป็นอันขาด เพราะการมีร้านบาร์เหล้าบ๊วยสักแห่งติดลิสต์ไว้ก็เป็นแต้มต่อสำหรับผู้ชายที่อยากเปลี่ยนรสชาติการจิบทบทวนอารมณ์สไตล์สายชิล และเป็นปลายทางสุดโรมานซ์ไว้สำหรับพาคนรู้ใจมาด้วย จึงเป็นเหตุให้เราต้องดั้นด้นมาตั้งหน้าตั้งตามาเยือนที่นี่

เราบุกสำรวจร้านตั้งแต่ตะวันยังไม่ลับขอบฟ้าด้วยความรีบ ก่อนแสงสุดท้ายของวันจะย้อมที่นี่ให้กลายเป็นสีชมพูนีออนจากฝีมือของสองสาวเจ้าของร้าน พิมพ์-ชโลชา นิลธรรมชาติ กับเพื่อนสนิทอย่าง เหมียว-ปิยาภา วิเชียรสาร  ที่บรรจงหยิบและจัดวางทุกสิ่งให้เข้าที่ทาง ป้ายกระดาษปะติดหลังบาร์ ตามกำแพง และแสงไฟโลโก้หน้าร้านเปิดสว่างขึ้น ทั้งหมดเต็มไปด้วยข้อความและภาพที่ระบุให้เรายกนิ้วชี้จรดริมฝีปากตาม “จุ๊ ๆ อย่าเสียงดังนะ” ทำเอาเราแปลกใจจนแทนที่จะเริ่มสั่งเครื่องดื่มอย่างที่เคย หันมากระซิบคุยกับพวกเธอกันก่อน

 

SHUU SHUU’s hidden story

คุยไปคุยมาได้ความว่า ร้าน SHUU SHUU เกิดจากความถูกคอของ 2 สาวที่รู้จักกันเนื่องจากเปิดร้านในละแวกเดียวกัน ตั้งวงดื่มด้วยกันมาก็หลายประเภทแต่ลงตัวพอดิบพอดีที่การดื่มเหล้าบ๊วย เพราะดื่มง่ายเพลินลิ้นและไม่หนักจนเกินไปเลยจับมือกันมาเปิดร้าน ส่วนเหตุผลของความเงียบที่เตรียมมาเตือนสายดื่มอย่างที่เราสังเกตเห็นตามจุดต่าง ๆ ของร้าน ก็เพราะด้านบนของร้านเป็นที่พัก บวกกับสถานที่แห่งนี้เป็นย่านชุมชน การถ้อยทีถ้อยอาศัยจิบและคุยกันแบบสงบเคล้าเสียงเพลงเบา ๆ เลยเป็นเสน่ห์ของร้านแห่งนี้

อีกสิ่งที่ถือเป็นเรื่องยูนีคที่ชาว UNLOCKMEN ต้องรู้และเตรียมตัวก่อนไปหน่อยคือ สถานที่แห่งนี้เป็น hidden place ที่เปิดปิดเพียง 2 วันต่ออาทิตย์ คือวันศุกร์และวันเสาร์ ในบางอาทิตย์อาจจะมีประกาศแจ้งเตือนทางหน้าเพจให้ตื่นเต้นว่าจะไม่เปิดด้วย ต้องอดทนรอไปก่อน เหตุผลก็ไม่ใช่เพราะความอินดี้เอาแต่ใจแต่เนื่องจาก 2 สาวดูแลกิจการและลงดีเทลกันเอง ไม่ต้องการจ้างคนอื่น หากมีธุระก็จำเป็นจะต้องหยุดร้านกันบ้าง ดังนั้น ถ้าเราอยากจะไปก็ไปติดตามวันเปิดปิดได้ในเพจ Shuushuu.hiddenplace หรือ IB ไปถามล่วงหน้าก็ได้ไว้ว่าอาทิตย์นี้จะเปิดหรือเปล่า ถือเอาว่า “อดเปรี้ยว ไว้กินหวาน” แล้วกันนะ

 

Matching Number : ถอดรหัสเครื่องดื่มที่ใช่

เมนูของร้านเป็นกระดาษสีชมพูสะท้อนแสงใบขนาดเท่าฝ่ามือ เรียกสั่งได้ตามตัวเลขที่ระบุเราสามารถเลือกความใช่ได้ตามต้องการ สายไหนอยากติดจรวดไปไว อยากดื่มเรื่อย ๆ ก็มีให้เลือกทั้ง 5 เมนู คือเหล้าบ๊วยแดนอาทิตย์อุทัยซึ่งพวกเธอยกให้เป็น The Best หล้งจากตระเวณชิมเหล้าบ๊วยนับ 100 ยี่ห้อ จากนั้นก็เอามาปรุงใหม่ฉบับ on the rock และโซดาแล้วตั้งเป็นตัวเลขปริศนาทั้ง 5 ตัวเลขต่างคาแรคเตอร์ แต่งานนี้เราขอแวะจิบแค่ 2 แก้ว คือ 101 และ 214 ก่อนเพราะกลัวจะเมามายเกินไป

ถึงจะมึนบาง ๆ แต่เพื่อชาว UNLOCKMEN โดยเฉพาะ เราก็ไม่ตกหล่นการเก็บรายละเอียดตัวเลขทั้ง  5 เมนูมาให้พร้อมก่อนจะรู้สึกมึนกว่านี้ เอ้า! ถึงเวลาชนแก้ว

101 สายสามัญ : แก้วนี้ฉบับ Beginner ตามตัวเลข 101 ดื่มง่าย ไม่ต้องคิดอะไรมาก แถมเปอร์เซ็นต์ก็ยังน้อยที่สุดในทำเนียบการดื่มของเหล้าบ๊วยแล้วคือ 8 %

420 สายเขียว สุดชิล : ฉวัดเฉวียนแบบกลาง ๆ เพลย์เซฟแบบมาตรฐานสั่งไปไม่ผิดหวังก็ต้องแก้วนี้ คนที่เคยจิบเหล้าบ๊วยกันมาบ้างจะรู้ว่าไว้ใจได้ ปริมาณแอลกอฮอล์ก็ได้ใจที่ 14 % บวกจากน้อง 101 ขึ้นมาอีกระดับ ส่วนตัวเลขถามว่ามาจากไหนก็บอกได้ว่ามาจากเลขของวันกัญชาโลกคือวันที่ 20 เมษา กินได้เรื่อย ๆ

214 สายโปรดเจ้าของร้าน : แก้วนี้ถือเป็นลูกรักที่เจ้าของร้านชื่นชอบเป็นพิเศษจนใช้บ้านเลขที่มาตั้งชื่อ  ที่สำคัญสีที่ออกอำพันขุ่นต่างจากแก้วอื่น ๆ เพราะมีเนื้อบ๊วยบดละเอียดเจือยิ่งทำให้จิบเร็วไม่รู้ตัวว่าหมดแล้ว ต้องร้องขอเพิ่มอีกแก้ว

1543 สายด่วนพร้อมมึน : จัดไปแรง ๆ เพราะผมคอทองแดงไม่สะทกสะท้าน แก้วนี้แอลกอฮอล์ 18% เรียกได้ว่าเยอะที่สุดในร้านน้ี ที่มาเลขก็มาจากเบอร์สายด่วนทางหลวง เชิญทะยานขึ้นทางพิเศษไปถึงปลายทางความเมาได้ก่อนใคร

888 สายเบอร์ตองของสาวสวย : Record ไว้ได้ว่าแก้วนี้ต้องกินเพราะนี่คือตัวท็อป แพงและจัดจ้านที่สุดในร้าน จากกลิ่นหอมของส้มยูสุผสมความอมหวานของเหล้าบ๊วย กินแล้วร้องว้าว! เราเองก็อธิบายไม่ถูกแต่ลิ้นของพวกคุณอธิบายมันได้ถูกแน่

 

รหัสรสชาติใหม่ในเลขเดิม : ถึงเมนูจะมีเพียง 5 เลขก็ไม่ต้องกลัวว่าจะเบื่อเพราะขุมรสชาติพวกนี้มันหมุนเวียน เราแอบถามมาแล้วว่าถ้าพวกเธอไปพบกับรสชาติใหม่คาแรคเตอร์ใหม่ที่น่าสนใจ เธอก็จะนำมันมาเปลี่ยนหมุนเวียน อย่างแม่หนูเบอร์ตอง 888 ยังเคยเปลี่ยนจากซากุระมาเป็นยูสุเลย หรือพี่ใหญ่ 1543 ก็อาจจะสับเปลี่ยนจาก Plumtonic ไปเป็นอย่างอื่นได้ แต่ยังคงความแรงปริมาณแอลกอฮอล์ฉบับสายด่วนเหมือนเดิม

 

แข่งกันจิบกับเจ้าของร้าน

สาระไม่ใช่ แต่หนึ่งในคำถามที่เราอยากรู้คือเจ้าของร้านที่เรามาเยือนคอแข็งแค่ไหน ? พวกเธอพร้อมใจกันบอกแก้วที่จอดของตัวเองแบบไม่เขินว่า เหมียวเมาง่าย ส่วนพิมพ์คอแข็ง กินได้เรื่อย ๆ แต่เคล็ดลับที่จะทำให้อยู่ได้นานขึ้นมันขึ้นอยู่กับว่าท้องว่างไหม ถ้าท้องว่างสามสี่แก้วเลือดจะเริ่มสูบฉีดไปกระจายบนแก้ม เราเลยพลิกเมนูเพื่อหา snack ไว้กันตามคำเตือน มีให้เลือกทั้งแบบเดี่ยวและแบบจับคู่ ได้แก่ แมคคาเดเมียพร้อมเปลือก มีที่แกะมาให้เพลินลงมือหมุนบริหารนิ้วมือระหว่างจิบ ถั่วแระญี่ปุ่น ส่วนเซ็ตมีหมูหวาน + ชีสก้อนมีรสชาติผสมกันเค็มมันหวาน ซับซ้อนนิด ๆ และอีกคู่คือหมึกหยอง + เซมเบ้ ตัดความหวานเลี่ยน

 

ตอนนี้ต่อมความกระหายบ๊วยเริ่มทำงานขึ้นมานิด ๆ แล้ว ใครว่างคืนศุกร์คืนเสาร์เราปักหมุดให้เปิด google map ไปได้แล้วที่นี่ ไม่แน่นะค่ำคืนนี้ชาว UNLOCKMEN สายชิลทั้งหลาย เราอาจจะบังเอิญเจอกันที่ SHUU SHUU BAR ก็ได้

 

Shuu Shuu 214 ถ.ทรงวาด สัมพันธวงศ์ เวลาทำการ ศุกร์-เสาร์ 19:00-23.00น. โทร. 089-783-3099 www.ig.com/shuushuu.hiddenplace

STYLE GUIDE : อัพเดทสไตล์ท้าลมร้อนต้อนรับซัมเมอร์แบบฉบับ NIPPON BOY

$
0
0

เรื่องของแฟชั่นแต่ละคนอาจจะให้ความสําคัญแตกต่างกันออกไป ทว่าสําหรับคนที่ใส่ใจเรื่องสไตล์ของตัวเองและแสดงตัวตนผ่านทางเสื้อผ้าที่เลือกใส่นั้น เวลาที่มีการเปลี่ยนแปลงคอลเลคชั่นในแต่ละฤดูกาลจึงเป็นเรื่องสนุกตื่นเต้นที่จะได้อัพเดทลุคของตัวเองให้ตามเทรนด์อยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะซัมเมอร์นี้ นับว่าเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่หนุ่ม ๆ จะได้เฉลิมฉลองกับช่วงเวลาพักผ่อนอย่างเต็มเหนี่ยว แถมด้วยความร้อนแรงของแสงแดด ที่ทำให้เราอยากจัดเต็มเพื่อดึงดูดสายตาของทุกคนแข่งกับสภาพอากาศเมืองไทยให้มันรู้กันไปเลยว่าใครที่แน่กว่ากัน

แล้วถ้าหากพูดถึงวัฒนธรรมแฟชั่นที่มีอิทธิพลกับหนุ่มไทยมากที่สุดตลอดมา คงจะหนีไม่พ้น Japanese Style ที่กลมกลืนผสมผสานเข้ากับไลฟ์สไตล์แบบไทย ๆ ไม่ว่าจะเป็นมินิมอลหรือโอเวอร์ไซส์เป็นอย่างดี ดังนั้นเพื่อเป็นการอัพเดทเทรนด์ใหม่ล่าสุดให้เหมาะสมกับช่วงหน้าร้อน ทีมงาน UNLOCKMEN ได้จัดลุคเฉียบ ๆ จนเรียกได้ว่าเป็น Dress-2-kill แบบฉบับ “Nippon Boy” มาฝากทุกคนกัน

#LOOK1 Working Sharp 

จุดเด่นอย่างหนึ่งของสไตล์การแต่งตัวแบบ Nippon คือต้องมีดีเทลให้น้อยที่สุดเพื่อสะท้อนอารมณ์แบบมินิมอล โดยเฉพาะโทนสียิ่งเรียบง่ายยิ่งดี ดังนั้นเราจึงเลือกชุดเป็นสูทสีเทากระดุมเดียวแบบโอเวอร์ไซส์ ที่ให้ความรู้สึกแบบ Japanese เพิ่มดีกรีรับซัมเมอร์ให้ชุดทำงานไม่ดูน่าเบื่อ มีสีสันขึ้นด้วยการเสริมด้วยเสื้อ polo สีเหลืองสแซมเข้าไป พร้อมจับคู่กับรองเท้าหนังดี ๆ สักคู่ จากนั้นหาเครื่องประดับอย่างเช่น นาฬิกาดี ๆ สักเรือนมายกระดับ Overall look ให้เฉียบคมสะกดทุกสายตาในเวลาทำงานของคุณ อย่างเช่นนาฬิกา ALBA รุ่น AT3C31X ด้วยดีไซน์เรียบหรูสะดุดตาด้วยหน้าปัดสีทองไล่สีกับสายสเตนเลสสตีลที่ตัดกันอย่างลงตัว

#LOOK2 Casual Summer 

สำหรับลุคสบาย ๆ ในช่วงซัมเมอร์แบบนี้ เราขอแนะนำเป็นเสื้อโปโลกระดุมสีขาวแขนสั้นเรียบ จากนั้นเลือกเป็นกางเกงสแลกเข้ารูปสีกรมท่า เพื่อให้ได้กลิ่นอายความเซอร์และดูเนี้ยบหล่อ ยังไม่พอแค่นั้น เพื่อเพิ่มความเท่ แนะนำให้เพิ่มเสื้อแจ็กเก็ตผ้าเลนินสไตล์คิโมโนมีฮู้ดจับคู่ทั้งชุดกับเครื่องประดับอย่างนาฬิกาดีไซน์สปอร์ตแบบโครโนกราฟ เพื่อเพิ่มความแอคทีฟให้ได้ลุคหนุ่มญี่ปุ่นขี้เล่นอย่างลงตัว

#LOOK3 Beach Wear

จะหันไปทางไหนในตอนนี้ ล้วนเจอคนที่สวมใส่เสื้อฮาวายเต็มไปหมด เรามาสร้างความแตกต่างอย่างโดดเด่น ลอง Flip look แล้วยกฮาวายปริ้นไปไว้ท่อนล่างที่เป็นกางเกง beachwear แทน โดยอาจจะเลือกเสื้อเชิ้ตสีขาวคลีน จากนั้นพับแขนสักเล็กน้อยเพื่อความทะมัดทะแมง แมทช์กับนาฬิกาเรือนโปรดที่กันน้ำได้เพื่อที่จะให้คุณสามารถลงไปลุยได้ในทุกกิจกรรม เท่านี้คุณก็มีลุค beach style ที่เรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยลูกล่อลูกชนแบบคนมีเซ้นต์การแต่งตัว

จากทั้ง 3 ลุคที่เราแนะนำมาหากชาว UNLOCKMEN ลองสังเกตดูดี ๆ ไม่ว่าคุณจะแต่งตัวสไตล์ไหนสถานการณ์ใดก็ตาม สิ่งที่จะขาดไม่ได้เลยคือ เครื่องประดับที่ช่วยยกระดับเสริมบุคลิกเสริมลุคของเราคอมพลีทให้ครบเครื่องมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะไอเทมอย่างนาฬิกา จัดว่าเปรียบเสมือน Second Skin ของผู้ชายที่จะต้องติดตัวไปด้วยตลอดเวลา ดังนั้นถ้าหากเราสามารถหานาฬิกาเรือนโปรดไว้เพื่อมิกซ์แอนด์แมทช์กับทุกโอกาสได้  ก็นับว่าเป็นตัวเลือกที่ดีไม่น้อย

ซึ่งนาฬิกา ALBA รุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง AT3C31X ด้วยดีไซน์สปอร์ตโครโนกราฟ หน้าปัดสีทองไล่สี  สวยงามพร้อมบอกเวลาแบบ 3 เข็ม ตัวเรือนทำจากสแตนเลสสตีล กันน้ำได้ถึง 100 เมตร ที่สำคัญสำหรับรุ่นนี้ เป็นลิมิเต็ดอิดิชั่นมีเพียง 1,500 เรือนทั่วโลก พิเศษสุด ๆ สำหรับประเทศไทยที่มีแค่ 90 เรือนเท่านั้น หรือถ้าใครชอบสีเข้ม ๆ ดุดัน ก็ยังมี AT3C83X ที่ตัวเรือนเคลือบ Black IP Coating สีดำหน้าปัดฟ้าสวยงาม โดยความพิเศษของทั้งสองโมเดลนี้ หนุ่ม ๆ จะสามารถนำมาแมทช์กับเสื้อผ้าได้อย่างหลากหลายสไตล์ จึงจัดได้ว่าเหมาะจะเป็นนาฬิกาเรือนเก่งสำหรับผู้ชายทุกคนที่ต้องการแต่งกายให้เฉียบคมแบบ Nippon Boy 

ใครที่สนใจอยากจะครอบครอง เป็นเจ้าของนาฬิกาสองเรือนนี้ก็สามารถเข้าไปเลือกซื้อได้แล้วที่เว็บไซต์ Alba Thailand หรือติดตามข่าวสารของพวกเขาได้ที่ Facebook Page : Alba Thailand และทาง Instragram ที่รับรองว่ามีนาฬิกาสวย ๆ ให้คุณเลือกอีกเพียบอย่างแน่นอน

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Tel : 02-255-1245

COLOR TIPS : 5 ทริกดี ๆ เลือกสีให้ตรงใจเอาไว้ใช้กับธุรกิจของคุณ

$
0
0

การออกแบบถือเป็นเรื่องสำคัญเพราะมันโคตรมีส่วนในการดึงดูดให้คนสนใจ ยิ่งในวงการธุรกิจ การสร้างเครื่องหมายการค้าที่เตะตา จะยิ่งทำให้แบรนด์เป็นที่จดจำ ลองสังเกตแบรนด์ระดับโลกอย่าง NIKE, Coca Cola, IKEA และอื่น ๆ อีกมากมาย ที่ผู้คนมักจะจำแบรนด์ได้จากโลโก้และการใช้สีก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญสำหรับการเลือกให้เหมาะสมกับแบรนด์ เพื่อให้ลูกค้าให้ความสนใจและเป็นที่จดจำ UNLOCKMEN จะมาแนะนำทริกเล็กน้อยให้คุณเลือกสีแบรนด์ของคุณให้เตะตาจนลูกค้าต้องเหลียวกลับมามองอีกครั้ง

ใช้วงล้อสี

วงล้อสีแบบที่เราเคยระบายสีน้ำกันในตอนประถมฯนั่นแหละ ตัวช่วยชั้นเยี่ยม! เราจะได้เห็นสีที่แบ่งเป็นโทนร้อนโทนเย็นและสีคู่ตรงข้าม ซึ่งเป็นด่านแรกสำหรับการเลือกสีในงานดีไซน์ หากเรามองหาลูกเล่น หรือหลีกเลี่ยงสีที่ไม่ไปด้วยกัน เราจะได้เห็นสีในภาพรวมทั้งแต่การไล่โทนสี ความเข้ม ความอ่อน คุณต้องการจะสื่อสารกับคนที่มองแบรนด์แบบไหน ก็ต้องเลือกใช้สีให้ถูกต้อง การดูวงล้อสีจากภาพรวมจึงสามารถเลือกได้แทบจะทุกสีที่มีบนโลกนี้

สีที่คู่กัน

ไม่ว่าจะเป็นสีคู่ตรงข้าม หรือสีที่นิยมใช้คู่กัน อย่าง IKEA เป็นตัวอย่างของสีคู่ตรงข้ามที่ดี โดย TEXT สีเหลืองบนพื้นหลังสีน้ำเงินสดใส แม้จะเป็นสีตรงข้าม แต่ด้วยความที่มันเป็นโลโก้ของแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง มันจึงเป็นอะไรที่สะดุดตามากกว่าขัดกัน หรือสีที่นิยมใช้คู่กันในงานดีไซน์ พวก สีเทา – สีครีม ที่แม้จะไม่ได้เป็นสีคู่ตรงข้าม แต่มันคือสีที่เอามาวางคู่กันแล้วช่างเข้ากันซะเหลือกัน ลองหา Reference ตามเว็บดีไซน์จะมีตัวอย่างการใช้สีทั้งภาพถ่ายและงานดีไซน์

สีบ่งบอกตัวตน

การเลือกสีสำหรับโลโก้หรือสีประจำแบรนด์จะบ่งบอกถึงภาพลักษณ์ของแบรนด์โดยตรง ว่าต้องการสื่อสารออกไปยังไง อย่างสีโทนเย็น แสดงถึงความเรียบง่าย ความเป็นกันเอง สีโทนร้อน ให้ความกระตือรือร้น ความมั่นใจ และมีความหมายของแต่ละสีแยกย่อยลงไปอีก

สีหลักไม่เยอะเกินไป

สีหลักที่ใช้นอกเหนือจากโลโก้แล้ว ยังหมายถึง CI ในงานดีไซน์ของแบรนด์ที่เป็น Official จะต้องกำหนดอย่างชัดเจน และไม่ควรเกิน 4 สี สำหรับสีหลัก เพื่อให้ทุกงานที่ออกมามีมาตรฐาน ไม่โดดออกจากกัน ส่วนสีรองอาจจะเปลี่ยนไปตามความเหมาะสมของงานได้

มองในฐานะคนดูด้วย

การสร้างแบรนด์เราต้องคำนึงถึงลูกค้าของแบรนด์ด้วย เราต้องเข้าใจว่ากลุ่มตลาดของเราเป็นใคร และเลือกสิ่งที่เหมาะสมกับทั้งเราและลูกค้า หากเราเป็นแบรนด์ที่มีตลาดเป็นวัยรุ่น เราอาจจะใช้ภาพลักษณ์ที่ดู Modern สดใส ให้พลังงาน หรือถ้าลูกค้าเป็นผู้สูงอายุ อาจจะใช้ภาพลักษณ์ที่ดูสุขุม เข้าใจง่าย ไม่ฉูดฉาด

หากต้องการสร้างแบรนด์ให้ติดตา ภาพลักษณ์เป็นส่วนสำคัญ หากเราแสดงออกไปแบบไหน กระแสที่ตอบรับกลับมาก็จะเป็นไปตามนั้น แค่เลือกให้ดียังไม่พอ แต่ต้องเลือกให้ถูกใจอีกด้วย เพราะมันจะเป็นภาพลักษณ์ที่ติดตัวแบรนด์ไปตลอดกาล แล้วยิ่งเป็นแบรนด์ของเราเอง ถ้าดันได้อะไรที่ไม่ถูกใจมา คงหงุดงิดไม่น้อย

Viewing all 7776 articles
Browse latest View live