ถ้าหากเราถามคุณว่า คนที่มีความมั่นใจในตัวเองมีลักษณะเป็นอย่างไร? หลายคนอาจจะบอกว่า ต้องเป็นคนที่ทำทุกๆ อย่างออกมาได้ดี มีความสามารถ และมีความภูมิใจในสิ่งที่ตัวเองทำ แต่ที่สำคัญ คนส่วนใหญ่มักจะมองว่า คนที่มีความมั่นใจนั้น เป็นคนที่ฉลาดหลักแหลม และเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต แต่ถ้าหากเราบอกคุณว่า คนที่มีความมั่นใจในตัวเองคือ คนที่ทำในสิ่งที่คนอื่นมองว่า บ้าบอ ทำในสิ่งที่คนเค้าไม่ทำกัน จนบางครั้ง คนทั่วไปอาจจะมองว่า เป็นการกระทำที่โง่เขลาล่ะ!
จริงอยู่ คนที่มีความมั่นใจในตัวเอง อาจจะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน เคยผ่านการพูดอภิปราย และอ่านบทความต่อหน้าคนเป็นจำนวนมากๆ มาแล้ว แต่ในความเป็นจริง คนที่ประสบความสำเร็จ ดูฉลาด อาจยังไม่ใช่คนที่มีความมั่นใจในตัวเองสูง แถมยังคงมีความสงสัยในตัวเองอยู่มากกว่า คนประเภทที่คนอื่นมองว่า โง่เขลา และบ้าบอ โดยเมื่อเทียบกันระหว่างคน 2 ประเภทนี้ คนในแบบแรกแทบจะไม่ได้มีความมั่นใจ แตกต่างไปจากคนธรรมดาๆ ทั่วไปแต่อย่างใด ในทางกลับกัน คนที่คนส่วนมาก มองว่า ทำอะไรประหลาดๆ หรือทำอะไรที่คนส่วนมากดูว่า เป็นสิ่งที่โง่เขลา และไม่มีทางทำอะไรแบบพวกเค้าอย่างแน่นอน กลับกลายเป็นคนที่มีความมั่นใจสูงกว่าคนทั่วไป แถมยังใช้ชีวิตมีความสุขมากกว่า และมีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จในอนาคตโดยที่ไม่เคยมีใครรู้มาก่อนอีกด้วย
Some people are not really that confident.
คนส่วนใหญ่มักจะตระหนักถึง ความสามารถ และความสำเร็จในชีวิตเป็นหลัก คงเป็นเพราะว่า 2 สิ่งนี้ เป็นส่วนประกอบสำคัญ ที่จะทำให้คนธรรมดาๆ ได้ใช้ความสามารถของตัวเอง กระโดดไปยังจุดที่เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จจนเกิดเป็นความมั่นใจในตัวเอง ตัวอย่างเช่น Usain Bolt ที่ใครก็รู้ว่า เค้าเป็นนักวิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก แต่เหตุผลที่คนรู้สึกชอบ และมองว่าเค้าเจ๋งนั้น ไม่ใช่เพียงเพราะความสามารถในการวิ่งได้อย่างเร็ว มีกล้ามเนื้อที่แข็งแกร่งเท่านั้น แต่คนยังมองถึงความสำเร็จที่ Usain Bolt ได้พิสูจน์ให้คนทั่วโลกได้เห็นความยิ่งใหญ่ของเค้า ในการทำลายสถิติโลกลงอีกด้วย คุณจะเห็นได้ชัดเจนว่า ความสามารถ และความสำเร็จของเค้า ทำให้คนต่างยกย่องในฝีเท้าของเค้ามากขึ้นเรื่อยๆ เค้าจึงรู้สึกฮึกเหิม และมีความมั่นใจ เพิ่มมากขึ้นในทุกๆ ครั้งที่ลงแข่งขัน และได้ชัยชนะมาครอบครอง
แต่ถ้าหากพูดถึง ความมั่นใจในตัวเองลักษณะนี้ในระยะยาวแล้ว ความมั่นใจ ซึ่งเป็นทัศนคติที่ดีที่ใช้ไล่ล่าความสำเร็จ อาจจะเพิ่มมากขึ้น จนตัวเค้าเองก็ไม่สามารถควบคุมได้อีกต่อไปเช่นกัน เพราะเมื่อไหร่ที่คุณรู้สึกว่าคุณเก่งแล้ว ฉลาดแล้ว รู้แล้ว หล่อแล้ว สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นความมั่นใจในตัวเองที่มากเกินไป จนกลายเป็น “อัตตา” นั้น ก็สามารถย้อนกลับมาทำร้ายตัวเองให้พังทลายได้เช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น ถ้าสมมุติว่า Usain Bolt ในช่วงที่กำลังมีความมั่นใจในตัวเองแบบเต็มเปี่ยม จากการได้ชัยชนะมาอย่างต่อเนื่อง เริ่มที่จะเชื่อมั่นแบบผิดๆ จนอาจถึงขั้นคิดว่าแข่งยังไงก็ชนะ ชะล่าใจไม่ลงฝึกซ้อมอย่างที่เคยเป็น คุณคิดว่า เค้าจะยังคงความสามารถที่มี ให้คงอยู่เทียบเท่ากับตอนที่เค้าฝึกซ้อมอย่างหนักได้อย่างนั้นหรือ
นอกจากนั้นแล้ว ถ้าหากความเชื่อมั่น ได้กลายเป็นความหลงไหลในความสำเร็จของตัวเองเข้าล่ะก็ เค้าจะเริ่มคิดถึงเรื่องศักดิ์ศรีของเค้าขึ้นมา โดยศักดิ์ศรีเหล่านี้แหละ ที่ทำให้คนที่ประสบความสำเร็จ ไม่กล้าที่จะทำอะไรมากไปกว่าเดิม เค้าเริ่มรู้สึกว่า ด้วยความยิ่งใหญ่ และด้วยชื่อเสียงที่มี ทำให้ไม่สามารถแพ้พ่าย และล้มเหลวได้ หรือที่ชาวบ้านชอบพูดว่า ศักดิ์ศรีค้ำคอ หรือ จมไม่ลง อะไรทำนองนั้น
จากคนที่ครั้งนึง เคยกล้าที่จะทำทุกอย่าง เพราะเชื่อมั่นว่าตัวเองจะทำได้ ก็จะกลายเป็นคนที่กลัว จะต้องเจอกับความล้มเหลว และสูญเสียสิ่งที่ได้สร้างขึ้นมา ดังนั้น บางทีความเชื่อมั่นที่มากเกินไป ก็อาจจะไม่ใช่สิ่งที่จะช่วยให้คนพัฒนาตัวเองไปได้ตลอด ในทางกลับกัน ยังทำให้คนเรากลัวท่ีจะก้าวขึ้นไปในจุดที่สูงกว่าเดิม เพราะรู้สึกว่า อยู่แค่นี้ก็สูงพอแล้ว จะเสี่ยงก้าวขึ้นไปอีกทำไม ถ้าตกลงมาก็เท่ากับว่า ทุกสิ่งที่เคยทำมาก็จะสูญเปล่า น่าแปลกใจ ที่คนส่วนใหญ่ที่เชื่อมั่นในความสำเร็จของตัวเองว่า เราเก่ง เรารู้ เราคือที่ 1 จะทำให้ชีวิตย่ำอยู่กับที่ ด้วยความมั่นใจแบบผิดๆ เหล่านี้เอง ที่จะนำพาคนเราไปสู่ความล้มเหลวได้อย่างง่ายดาย
ในทางกลับกัน ถ้าหากคุณ เป็นคนที่ต้องการพัฒนาตัวเองอย่างไม่มีวันหยุด คุณจะต้องทำตัวเป็น น้ำที่ไม่มีวันเต็มแก้วอยู่เสมอ รู้จักที่จะยอมรับในความโง่เขลาของตัวเองอย่าตรงไปตรงมา พูดว่าไม่รู้ ในสิ่งที่คุณไม่รู้ พูดว่าทำไม่เป็น ในสิ่งที่คุณทำไม่เป็น เพื่อจะได้เจอกับโอกาสในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ จากคนที่มีความรู้มากกว่า โดยที่ไม่ต้องกลัวว่าตัวเองจะดูโง่เขลาแต่อย่างใด จำเอาไว้ว่า คุณไม่จำเป็นจะต้องเก่งไปทุกเรื่อง หรือฉลาดล้ำหน้าอยู่ตลอดเวลาก็ได้ ดังนั้น การทำตัวเป็นผู้ไม่รู้ ที่พร้อมจะเปิดใจยอมรับสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ จะช่วยพัฒนาศักยภาพในด้านต่างๆ และเพิ่มความเชื่อมั่น ในระดับที่เหมาะสม กับการพัฒนาตัวเองต่อไปในอนาคต
Everyone is stupid and deranged by nature.
ถึงแม้บางคน จะรู้สึกยากที่จะยอมรับมัน แต่เราอยากขอให้ทุกคนลองเผชิญหน้ากับความจริงข้อนี้ดูสักครั้ง สิ่งนั้นก็ คือ ความโง่เขลา เพราะโดยธรรมชาติแล้ว มนุษย์ทุกคนย่อมมีมุมที่ตัวเองเป็นคนโง่เขลา แตกต่างกันไปในแต่ละแง่มุม ทุกๆ คน ล้วนเคยผ่านช่างเวลาที่รู้สึกว่า ตัวเองช่างโง่เขลาอะไรได้ขนาดนี้กันมาแล้วทั้งนั้น แม้กระทั่งคนที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก หรือคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต ทุกคนที่เกิดมาเป็นมนุษย์ไม่มีใครที่จะใช้ชีวิต โดยปราศจากความไม่รู้ได้ เพราะนั่นคือ ธรรมชาติ
Erasmus ซึ่งเป็นนักมนุษยนิยมสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยา ชาว Dutch ได้เคยเขียนบทสรรเสริญความเขลาเอาไว้ พร้อมทั้งแนะนำว่า “โดยธรรมชาติแล้ว ทุกคนล้วนแต่เป็นคนเขลากันทั้งนั้น รวมไปถึงตัวผมเองก็เช่นกัน ผมรู้สึกว่า ตัวผมเองก็เป็นคนโง่คนนึง ในสายตาของตัวเอง เพราะว่า คนเราต้องเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา ไม่มีใครจะรอบรู้ และแตกฉานขั้นสุดยอดได้ ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม ความโง่เขลา จึงเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับการพัฒนา และการค้นคว้ามาตลอด
เราไม่ควรมั่นใจในความสามารถของตนเอง แต่เราทุกคนควรตระหนักถึงความจริงที่ว่า ความโง่เขลาไม่เคยสิ้นสุดลง เรายังคงทำในสิ่งที่ผิดพลาดขึ้นได้เสมอได้ แม้ว่าจะทำสิ่งนั้นมาเป็น 100 เป็น 1,000 ครั้งแล้วก็ตาม บางครั้งการไม่ยอมรับในความเขลา เป็นเพียงแค่การปกปิดจุดอ่อนของตัวเองเอาไว้เท่านั้น เนื่องจากคนเรามักเชื่อว่า คนที่ไม่รู้ คือ คนที่สติปัญญาไม่ดี เป็นคนที่ด้อยความสามารถในด้านความคิด จึงทำให้ผู้ที่ถูกกล่าวหาว่า เป็นคนโง่เขลา ต้องรู้สึกอัปยศอดสู และขาดความเชื่อมั่นในตัวเอง ชนิดที่บางคนถึงกับเสียความมั่นใจแบบกู่ไม่กลับ จนส่งผลลัพธ์แย่ๆ ตามมาในชีวิตมากมายเต็มไปหมด
Make fun of yourself!
ปล่อยให้ตัวเองทำอะไรที่ผิดพลาด แล้วหัวเราะให้กับมันหลังจากนั้นดูบ้าง เพราะนี่คือ กุญแจสำคัญของการเสริมสร้างความมั่นใจได้อย่างไม่น่าเชื่อ ถ้าคุณเป็นนักท่องเที่ยวที่หลงทางในต่างประเทศ คุณสามารถยกย่องความเด๋อด๋า เป็นคนห่วยแตกทางด้านภาษา ทั้งการพูด อ่าน และเขียน แต่ถึงแม้ว่า ผู้คนอาจจะดูถูกคุณบ้างในบางคั้ง แต่นั่นก็ไม่เป็นไร และเมื่อคุณนึกย้อนกลับไป ที่เอาตัวรอดเหตุการณ์นั้นมาได้ คุณก็แค่หัวเราะให้กับตัวเองที่ยังคงกลับมายืนอยู่ในแผ่นดินเกิดได้อย่างปลอดภัย
เมื่อคุณหัวเราะให้ตัวเองบ่อยขึ้น คุณก็จะตระหนักได้ว่า คนเราไม่จำเป็นจะต้องสมบูรณ์แบบเพื่อให้ได้รับการยอมรับเสมอไป มันเป็นเรื่องที่ช่วยอะไรไม่ได้จริงๆ กับความโง่เขลาที่ติดตัวมนุษย์มาตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์ ที่สำคัญก็คือ อย่างที่เราบอกเอาไว้ก่อนหน้านี้ว่า ไม่มีมนุษย์คนไหน ที่ไม่เคยผ่านความโง่เขลามาก่อน ดังนั้นความเจ๋งมันไม่ได้วัดกันที่ใครโง่ ใครฉลาดเท่านั้น เพราะไม่ว่า บุคคลที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก หรือบุคคลที่ประสบความสำเร็จมาแล้วอย่างโชคโชน ต่างก็ล้วนก็มีความโง่เขลา เฝ้าติดตามเป็นเงาตามตัวเหมือนกันกับเรา นี่แหละ เพราะฉะนั้น ความมั่นใจที่แท้จริงนั้น จะอยู่กับคนที่ยอมปล่อยวาง และยอมรับทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับชีวิต โดยที่ยังคงรู้ตัวอยู่เสมอว่า เราจะยังคงเดินหน้าต่อไป ในทิศทางเดิมที่เราตั้งใจเอาไว้ในตอนแรกอย่างเด็ดเดี่ยว
การที่คนเรามองดูคนอื่นว่า เป็นพวกโง่เขลานั้น ไม่แน่ว่าจริงๆ แล้ว คนเหล่านั้นอาจจะเป็น คนที่ประสบความสำเร็จ และมีแนวทางในการใช้ชีวิตที่ยอดเยี่ยมจนไม่มีคาดคิดด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้น อย่าเพิ่งมั่นใจ แล้วด่วนสรุปในสิ่งที่คนอื่นๆ ทำไม่เหมือนตัวเองว่า ไม่ดี ไม่ฉลาด หรือมองว่า การกระทำของใครโง่เขลา เพราะอย่างที่เราได้บอกไปด้านบนนี้ คุณจะเห็นได้ว่า คนที่ไม่เคยคิดว่าตัวเองฉลาด เก่ง หรือเจ๋ง จะมีพื้นที่ทางความคิด และพื้นที่ในจิตใจที่กว้างขวาง พร้อมที่จะเปิดรับสิ่งใหม่ และเรียนรู้สิ่งต่างๆ จากคนอื่นๆ เพื่อนนำมาพัฒนาคุณภาพชีวิตของตัวเองอย่างไม่หยุดยั้ง โดยเฉพาะเรื่องความมั่นใจ ที่เราได้นำเสนอในวันนี้ คุณจะเห็นได้อย่างชัดเจนที่สุดเลยว่า คนที่มั่นใจในตัวเองจริงๆ เค้าไม่คิดเยอะ ไปถึงเรื่องต่างๆ นอกจากสิ่งที่เค้าอยากทำ สิ่งที่ตัวเองกำลังทำ และสิ่งที่จะเกิดตามมาหลังจากที่ได้ลงมือทำไปแล้วในอนาคตเท่านั้น เพราะชีวิตของพวกเค้าคือ การเรียนรู้ที่ไม่มีวันสิ้นสุด