เห็นกระแสในโลกออนไลน์ดีมากๆ จนออกไปทางอวยสำหรับหนังสงคราม Hacksaw Ridge ที่แม้นจะการันตีการเข้าชิงออสการ์ถึง 6 สาขา ทำให้ทีมงาน UNLOCKMEN จึงไม่พลาดที่จะไปรับชมโดยที่ไม่ได้หาข้อมูลหรือรีวิวใดๆ เพราะไม่อยากเสียอรรถรสก่อนรับชม ซึ่งเรารู้แต่เพียงว่าภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างจากเรื่องจริงของวีรบุรุษสงครามชาวอเมริกาในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง และหลังจากที่ได้รับชมภาพยนตร์เราต้องขอบอกว่ามันคือหนังสงครามที่อยู่ในเกณฑ์ดีที่เราไม่ได้รับชมมายาวนานจนเราอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ โดยทุกท่านไม่ต้องกลัวการสปอยล์ใดๆ
พระเอกหนังสงครามที่ไม่จำเป็นต้องจับปืน
ถ้าหากใครเป็นแฟนหนังสงครามไม่ว่าจะเป็น Saving Private Ryan หรือ Behind Enemy Lines คงจะจำภาพพระเอกเป็นนายทหารฝีมือดี มีความสามารถชั้นเลิศ แต่ใน Hacksaw Ridge พระเอกของเรา Desmond Doss เป็นคนที่เชื่อมั่นในเรื่องการไม่ใช่กำลัง เขามีความคิดแต่เพียงการช่วยเหลือ จึงปฎิญาณตัวเองที่จะไม่จับปืน ซึ่งแนวคิดแบบนี้มันจะสามารถใช้ในภาวะสงครามได้อย่างไร อันนี้ต้องไปติดตามชมกันเอง
Mel Gibson
Mel Gibson ดารารุ่นเก๋าที่แม้ว่าหลังๆ จะประสบปัญหาเรื่องติดสุราแล้วไปอาละวาดอยู่บ่อยครั้ง รวมถึงในฐานะนักแสดงเขาคือนักแสดงรุ่นเก๋าที่ผลงานหลังๆ แป้กจนไม่มีเครดิตอะไรที่น่าสนใจ แต่เมื่อเขาลงมือกำกับภาพยนตร์สักเรื่องก็เรียกเสียงฮือฮาได้ตลอด หลังจากหายหน้าไป 10 ปี เขาก็เลือกหยิบยกเรื่องราวของวีรบุรุษสงครามมาเล่าเรื่อง ซึ่ง Mel Gibson ได้บอกว่าหลักการสร้างหนังของเขาคือ 3 E หนึ่ง Entertainment (ให้บันเทิง) Educate (ให้ความรู้) Elevate (พัฒนาจิตใจ) ทำให้ Hacksaw Ridge น่าจะมีสามองค์ตามที่เขาได้กล่าวไว้
ไม่มีอีกแล้ว Spidey
การรับบท super heroes เป็นเหมือนดาบสองคมข้อดีคือคุณจะสามารถโด่งดังได้อย่างรวดเร็ว แต่ด้านมืดของมันคือคุณจะสลัดภาพ super heroes ที่คุณรับบทได้อย่างยากลำบาก ซึ่งพูดตามตรงแม้ว่านักแสดงนำอย่าง Andrew Garfield จะโดนเสียงวิจารณ์และถูกเปรียบเทียบกับ Tobey Maguireในการรับ Spider Man แต่เนื่องจากภาพลักษณ์ที่ไปตรงตาม Comic เป๊ะๆ ทำให้คนจดจำเขาในฐานะ Spider Man ไปแล้ว การที่จะสลัดภาพเหล่านี้ถือเป็นงานหินสำหรับเขา
แต่หลังจากที่ได้ดู Hacksaw Ridge เราถึงกลับลืมไปเลยว่าชายคนนี้เคยรับบทเป็น Spider Man เพราะทั้งอารมณ์ในการแสดง การสื่อสารทางร่างกาย Andrew Garfield สามารถถ่ายทอดมันออกมาได้เป็นอย่างดี ทำให้มีการคาดการณ์ว่าเขาจะได้เข้าชิงออสการ์สาขานักแสดงนำชายในปีนี้อีกด้วย
สร้างจากเรื่องจริง

เรื่องนี้ถูกทอดผ่านจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่กองทัพสหรัฐได้ยกพลขึ้นไปบุกโอกินาว่า ซึ่งเหตุการณ์ในภาพยนตร์ได้เกิดขึ้นที่หน้าผา Hacksaw Ridge ซึ่งเป็นหน้าด่านของทหารญี่ปุ่น หนังได้ถ่ายทอดความโหดร้ายของสงคราม แต่ตัวละครนำอย่าง Desmond Doss ได้แสดงความเชื่อ ศรัทธา และกล้าหาญที่จะเสียสละตัวเองเพื่อช่วยชาติ แม้ว่าในหนังจะมีหลายฉากที่คนดูอาจรู้สึกเว่อร์ไปหรือเปล่า แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้นำเรื่องราวมาจากหนังสือและบทสัมภาษณ์ของ Desmond Doss เป๊ะๆ เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเราต้องมาตามลุ้นในหนังกันว่าเขาจะสามารถบรรลุความตั้งใจของตัวเองได้หรือไม่
หนังสงครามที่สมจริง
Mel Gibson ขึ้นชื่อในเรื่องการนำเสนอฉากความรุนแรงอยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงเลือกถ่ายทำโดยใช้ special effect แทน CG เพื่อให้มีฉากมีความสมจริง โดยต้องแลกกับการใช้ทุนมหาศาลแต่เพื่อให้คนดูรู้สึกอิน และเข้าถึงอารมณ์แบบถึงพริกถึงขิง ทำให้ Mel Gibson ก็ไม่ลังเล อีกทั้งเขาบอกว่ามันเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำเพื่อความละเอียดสมจริง จนทำให้หนังเรื่องนี้มีมุมภาพที่สวยงาม เป็นอารมณ์หนังสงครามแบบที่เราไม่ได้รับชมกันมานาน และน่าจะเป็นหนังสงครามที่ดีที่สุดในรอบปีนี้เลยก็ว่าได้
และนี้ก็เป็นความคิดเห็นของเราหลังจากได้ดูหนังเรื่อง Hacksaw Ridge ซึ่งทุกท่านก็ต้องไปตัดสินด้วยตัวเองความจริงแล้วหนังเรื่องนี้ถือเป็นหนังไฮไลท์เรื่องนี้ที่มีกระแสเชิงบวกมากๆ ในต่างประเทศ แต่อาจเพราะมาเข้าฉายพร้อมกับหนัง blockbuster อย่าง Fifty Shades Darker ทำให้ไม่ค่อยมีคนพูดถึง แต่ก็ยังพอมีเวลาเหลือให้ไปหาชมตามโรงภาพยนตร์ชั้นนำ สุดท้ายนี้เรามีคำเตือนสักนิด เนื่องด้วยหนังเรื่อง Hacksaw Ridge เป็นหนังสงครามที่อาจมีหลายๆ ฉากที่ชวนสยดสยองหากคุณเป็นคนที่ไม่ได้ชื่นชอบ เราแนะนำว่าอย่าเข้าไปดูเพราะอาจทำให้คุณรู้สึกหวาดกลัวได้ จนต้องปิดตาดูก็เป็นได้