ตอนอายุ 16 เราทำอะไรกันอยู่ เชื่อว่าเกือบ 90% ยังคงแบมือขอเงิน ออกไปเที่ยวเล่น หนีเรียนไปดูหนังกันตามประสา ในขณะที่เด็กอายุ 16 ที่ชื่อ Robert Mfune คนนี้ พยายามทำงาน part-time jobs ที่ McDonald’s และเป็นคนส่งชาตามบริษัท ในขณะเดียวกันก็ยังฝึกฝนวิชาการเทรดที่ได้เรียนรู้ด้วยตัวเอง กระทั่ง 3 ปีผ่านไป ตอนนี้ Robert Mfune ดังไปทั่วประเทศอังกฤษ และเป็นเจ้าของ Bentley Continental GT สีทองอร่าม พร้อมบ้าน และอื่นๆอีกมากมาย
จุดพลิกผันของนาย Mfune คนนี้น่าจะอยู่ที่ mindset ตั้งต้นของตัวเองที่มองทุกอย่างเป็นโอกาส ไม่ว่าจะเป็นการทำงานที่ McDonald’s หรือการเป็นคนส่งชาให้บริษัททางการเงิน ในขณะที่หลายคนอาจจะดูว่ากระจอกและไม่อยากทำเพราะมันไม่เท่ Mfune มีเป้าหมายไว้ชัดเจนตั้งแต่แรงว่า จะต้องรู้จักคนเก่งๆ และดูดวิชาความรู้ด้านการลงทุนจากบริษัทการเงิน ซึ่งจากการได้รู้จักคนภายใน ทำให้ Mfune เริ่มเห็นช่องทางในการลงทุน จึงใช้เวลาทุกวันหลังเลิกงานในการเรียนรู้อย่างจริงจัง
ลองนึกภาพเด็กอายุ 16 ปี ที่ต้องไปเรียนในเวลาปกติ และทำงาน Part-time job ในเวลาว่าง และยังฝึกเทรด Binary trading (คล้ายๆ เทรดค่าเงิน Forex มีความเสี่ยงสูงจากการผันผวนของค่าเงิน โอกาสรวยมีพอๆ กับโอกาสเจ๊งหมดตัว เป็นรูปแบบการลงทุนที่นักลงทุนมือใหม่และนักลงทุนชอบเสียวชื่นชอบมาก เพราะเล่นง่าย แค่ Put กับ Call) จนกระทั่งอายุ 17 ปี Mfune ก็เปิด account ในชื่อคุณแม่ สำหรับฝึกเทรดอย่างจริงจัง จนกระทั่งได้เปิดบัญชีเป็นชื่อตัวเองจริงๆตอนอายุ 18 ปี และภายในระยะเวลา 2 ปี Mfune ก็กลายเป็น Millionaire จากมือที่ใช้ทำ burger หลังเลิกเรียน กลายเป็นมือที่จับกุญแจรถ Bentley จำนวน 2 คัน Range Rover 1 คัน
ไม่ใข่แค่ใช้เงินฟุ่มเฟือย ด้วยความเป็นเลือดนักลงทุน Mfune จึงนำเงินส่วนนึงไปลงทุนทำธุรกิจร้านกาแฟ 2 ร้านในอังกฤษ รวมถึงลงทุนซื้อบ้านให้เช่าทั้งอังกฤษและประเทศบ้านเกิด South Africa และไม่พลาดที่จะตอบแทนคุณแม่ด้วยบ้านหลังงามพร้อมรถยนต์ 1 คัน ซึ่งตอนอายุเท่ากัน เรายังใช้เงินซื้อหนังสือการ์ตูนอ่านอยู่เลย
สิ่งที่น่าสนใจจากแนวคิดของ Mfune ซึ่งเรามองว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้ประสบความสำเร็จ คือความแน่วแน่ มุ่งมั่น ตั้งแต่แรกว่าชีวิตต้องการอะไร จะทำอะไร และยอมทำทุกอย่างเพื่อจะไปให้ถึงจุดหมายนั้น “ถ้าจะทำอะไรที่ยิ่งใหญ่ คุณต้องใช้ความอดทนอย่างมากในช่วง 2-3 ปีแรก เพราะไม่มีอะไรในชีวิตนี้ที่จะได้มาง่ายๆ จากการอยู่เฉยๆ สบายๆ ไม่ทำอะไรเลย” Mfune กล่าวเอาไว้ได้จับใจ อยากให้เด็ก Gen-Y และ Gen-Z ได้อ่านกันมากๆ