เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์วงการกีฬาที่บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Nike ต้องเสียตำแหน่งแชมป์ในเรื่องตัวนักกีฬา รวมถึงเสียการเป็นพันธมิตรสนับสนุนทีมกีฬาจากชาติต่างๆ ในมหกรรมการแข่งขันระดับนานาชาติ และแน่นอนว่าย่อมส่งผลต่อการเติบโตของธุรกิจด้วย
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้หากบอกว่าจะมีใครสามารถแซง Nike ขึ้นมาเป็นเจ้าผลิตภัณฑ์กีฬาได้ คงเป็นเรื่องน่าตลก ขบขัน เพราะตลอดระยะเวลากว่า 50 ปี ที่ Nike ครองตลาดนี้แบบเบ็ดเสร็จอยู่เพียงผู้เดียว สามารถทำกำไรได้มหาศาล รวมถึงยังเป็นผู้สนับสนุนหลักให้กับมหกรรมกีฬาระดับชาติ นักกีฬาระดับท็อปของแต่ละวงการ และยิ่งเมื่อ London Olympic 2012 ที่พวกเขานำเสนอเทคโนโลยี Flynit หรือผ้าถักที่สวมใส่กระชับราวกับใส่ถุงเท้า ก็ได้รับการตอบรับที่ดี และครองใจเหล่านักกีฬาชื่อดังในทันที
แต่โมเมนตัมได้มีการเปลี่ยนแปลงเรียบร้อย เราก็แทบจะไม่เชื่อเหมือนกันว่าวงการแฟชั่นกับกีฬาจะสามารถช่วยส่งเสริมกันได้ถึงเพียงนี้ เพราะช่วงสองปีที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า Adidas นั้นมาแรงจริงๆ โดยเฉพาะในไลน์ของ Lifestyle product ที่พัฒนาออกมาสร้างกระแสได้อย่างต่อเนื่อง นี่ยังไม่นับรวม Under Armour ที่พัฒนาไลน์กีฬาออกมาได้น่าสนใจ และด้านการตลาดก็วิ่งสู้สีกับ Nike มาเรื่อยๆ
ทั้งหมดย่อมมีผลกระทบกับ Nike แน่นอน โดยใน Rio Olympic 2016 ครั้งนี้หุ้นของ Nike มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นเพียงแค่ 1% เท่านั้น ขณะที่ Adidas เติบโตต่อเนื่องอย่างรวดเร็วถึง 5.9 % และ Under Armour ก็เติบโตสูงขึ้น 2.3% ทั้งที่ Adidas และ Under Armour ก็ไม่ได้เป็น Official Sponsor ในกีฬา Olympic ครั้งนี้แต่อย่างใด
ถ้ามองลึกลงไปในภาพรวม Under Armour ได้เป็นสปอนเซอร์ให้กับนักกีฬาที่ลงแข่งขันในครั้งนี้ถึง 250 คน และมีนักกีฬาระดับแม่เหล็กอย่าง Michael Phelps หรือจะเป็น Stephen Curry รวมไปถึงชุดแข่งขันของทัพนักกีฬาทีมชาติสหรัฐอเมริกาที่เป็นบ้านเกิดของ Nike ก็ถูก Under Armour แย่งตำแหน่งไปครอง ทำให้ Nike ควรต้องรู้ตัวเสียทีว่าเขาไม่ได้มีศัตรูจากยุโรปเพียงแค่คนเดียวอีกต่อไปแล้ว เพราะ Under Armour แบรนด์ชาติเดียวกัน ก็เริ่มสร้างแบรนด์ขึ้นมาได้แข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว และมีพลังทางการเงินมากพอที่พร้อมจะต่อกรกับ Nike แล้วเช่นกัน
ทางฝั่งของ Adidas แม้ว่าจะไม่ได้มีนักกีฬาที่ใช้ผลิตภัณฑ์กีฬาของพวกเขามากมายนัก แต่ก็ค่อยๆ ขยับไปโฟกัสกับการออกแบบสินค้า Lifestyle ที่มีความเกี่ยวเนื่องกับกีฬา Olympic ครั้งนี้มากขึ้น อย่างเช่นการออก Capsule Collection ต่างๆ หรือจะเป็นการมอบรองเท้ารุ่นพิเศษ Ultraboost Gold, Silver, Bronze ให้นักกีฬาขึ้นรับเหรียญรางวัล ก็เรียกกระแสความสนใจได้มากเช่นกัน
จากนี้ไปอาจจะถึงจุดเปลี่ยนของวงการ Sportswear แล้วหรือไม่ จากนี้ไปการทำตลาดของแบรนด์ใหญ่ๆ ที่เคยชินกับการอยู่อันดับหัวแถวจะเป็นอย่างไร? แต่ที่แน่ๆ คือพวกเขาไม่ได้ยืนเด่นเป็นผู้นำอย่างปลอดภัยอย่างที่เคยเป็นในอดีตอีกต่อไปแล้ว