รอยสักนั้นมีมากมายหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นรูปเหมือน งานโอลสคูล งานนู่นนี่นั่น แตกแขนงออกไป แต่มีรอยสักอยู่ชนิดนึงที่มีความหมาย และมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนกับรอยสักทั่วๆ ไป รอยสักที่คนส่วนใหญ่ไม่คิดที่จะจารึกมันไว้บนเรือนร่าง มันเป็นมากกว่างานศิลปะ มันเป็นมากกว่าความชอบ แต่มันหมายถึงชีวิตที่พวกเค้าได้เลือกทางเดินเอาไว้ “Gang Tattoos” คงไม่มีสัญลักษณ์ หรือสิ่งใดที่แสดงถึงความมุ่งมั่น และจงรักภักดีของสมาชิกแก๊งได้เท่ากับ Gang Tattoos (รอยสักสัญลักษณ์แก๊ง) อีกแล้ว รอยสักสัญลักษณ์เหล่านี้ เป็นสิ่งบ่งชี้ และประกาศความจงรักภักดีของแต่ละบุคคลที่ทำมัน เพื่อส่งต่อความรู้สึกไปยังกลุ่ม หรือแก๊งของพวกเค้าให้รับรู้ว่า พวกเค้าภูมิใจ และจะจงรักภักดีไปจนวันตาย
รอยสักนั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาอย่างยาวนานตั้งแต่จุดเริ่มต้นของมนุษยชาติเลยทีเดียว รอยสักที่เก่าแก่ที่สุดเท่าที่เราสามารถพิสูจน์ได้นั้นถูกค้นพบอยู่บนร่างกายของมนุษย์โบราณที่เสียชีวิต และถูกแช่แข็งอยู่ภายใต้ธารน้ำแข็งใกล้ๆ ประเทศออสเตรีย โดยผลการชันสูตรได้ไขความลับของรอยสักที่อยู่บนร่างกายของคนๆ นี้ว่า มันถูกจารึกไว้บนร่างกายของเค้ามานานเป็นเวลากว่า 4,000 ปีก่อนคริสต์กาล ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถพิสูจน์ว่าร่างดังกล่าวนั้นเป็นใคร ชื่ออะไร แต่มีการสันนิษฐานว่าผู้ที่มีรอยสักในสมัยนั้น คือบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมที่เป็นความผิดร้ายแรง หรืออาจจะเป็นคนบาปจึงถูกตีตราด้วยรอยสัก และอาจจะเสียชีวิตด้วยการถูกลงโทษ ณ ที่แห่งนี้
จนมาถึงช่วงยุคต้นของจักรวรรดิโรมัน รอยสักถูกใช้เป็นเครื่องบ่งชี้อีกอย่างนึงว่าใครคือ ทาส หรือ อาชญากร ซึ่งการตีตราไว้บนร่างกายเช่นนี้นั้น เป็นวิธีการลงโทษ และป้องกันบุคคลนั้นๆ ให้ออกห่างจากประชาชนทั่วไปตั้งแต่ในช่วงปี 300-600 C.E. เช่นเดียวกันกับในทวีปเอเชียของเรา ประเทศญี่ปุ่น ก็ใช้การสักเป็นการลงโทษอาชญากรที่ทำความผิด รวมไปถึงหลายๆ ประเทศในแถบภูมิภาคเมดิเตอร์เรเนียน รอยสัก คือสัญลักษณ์ทที่แสดงให้เห็นว่าบุคคลใดคือ อาชญากร ที่เคยก่ออาชญากรรมมาแล้ว ในบางรายถึงขึ้นถูกประทับตราบาปเหล่านี้ให้ปรากฏอยู่บนใบหน้า ถ้าหากบุคคลนั้นเป็นผู้กระทำผิดทางอาญาร้ายแรง
แต่ในขณะที่หลายคน และสังคมยังคงให้ความหมายของรอยสักเป็นเครื่องหมายของคนบาป และการก่ออาชญากรรม ตัวอาชญากรหลายๆ คนกลับรู้สึกภูมิใจ และต้องการที่จะแสดงให้เห็นสัญลักษณ์ของแก๊งที่พวกเค้าสังกัดอยู่ ที่ผู้คนทั่วไปมองว่ามันคือ การประจารว่าพวกเค้าคือ ด้านมืดของสังคม ความอัปยศ และสิ่งเลวร้าย แต่อาชญากรเหล่านั้น พวกเค้ามีความคิดที่ต่างออกไป?
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสักสัญลักษณ์ หรือ ตราประจำแก๊ง ที่แสดงว่าพวกเค้าเป็นสมาชิกกลุ่มอาชญากรทำให้พวกเค้าใช้สิ่งเหล่านี้เป็นเหมือนบัตรเบ่ง ทำตัวเป็นเจ้าถิ่น และทำให้พวกเค้ารู้สึกมีอำนาจอยู่ในมือ แต่หารู้ไม่ว่าจริงๆ แล้ว การที่ผู้คนยอมหลีกทางให้นั้น นั่นเป็นการแสดงความรังเกียจ และการแบ่งแยกพวกเค้าออกจากสังคมคนธรรมดา
สำหรับชาวแก๊ง รอยสัย ถูกใช้ในการระบุตัว สังกัดกลุ่ม และเป็นเหมือนวัฒนธรรมของพวกเค้าไปแล้ว นอกจากนี้รอยสักของแก๊งยังเป็นการแสดงความจงรักภักดีต่อสังกัด และพี่น้องในกลุ่ม โดยที่จริงแล้วในปัจจุบันนี้ ไม่ใช่แค่อาชญกรเท่านั้น รอยสักที่เป็นสัญลักษณ์เหล่านี้ยังถูกใช้โดยกลุ่มผู้ที่มีความชื่นชอบ และคลั่งใคล้ในกลุ่มสมาคม หรืออะไรบางอย่างด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น ผู้ที่ชื่นชอบในกีฬาฟุตบอล และมีทีมที่พวกเค้าเป็นแฟนพันธุ์แท้ คนเหล่านั้นก็จะสักสัญลักษณ์ หรือตราสโมสรนั้นๆ เพื่อเป็นการแสดงถึงจุดยืนว่าพวกเค้ารัก และภูมิใจในสโมสรนั้นๆ มากแค่ไหนเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีอาชีพอื่นๆ อย่างเช่น ทหาร ที่อาจจะสักสัญลักษณ์ของหน่วยที่พวกเค้าสังกัดอยู่ และอื่นๆ อีกมากมายหลายอาชีพ
แต่ที่แตกต่างกันก็คือ สำหรับสมาชิกแก๊ง รอยสัก มีความหมายลึกซึ้งมากไปกว่านั้น สำหรับพวกเค้า รอยสักของแก๊งยังเป็นเหมือนเครื่องเตือนใจพวกเค้าว่า และคนอื่นๆ ที่ได้เห็นว่า ชีวิตพวกเค้าเลือกที่จะเป็นของแก๊ง ไม่ใช่สังคมอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้เอง การสักของชาวแก๊งจึงมักจะถูกสักเอาไว้ในจุดที่แตกต่างจากคนทั่วไปที่มักจะสักเอาไว้ใต้ร่มผ้า พวกเค้าตองการให้คนได้เห็น พวกเค้าต้องการที่จะสื่อสารความคิดเหล่านั้นออกมาไม่ว่าจะเป็นการสักที่มือ, คอ, ใบหน้า แม้กระทั้งบริเวณศีรษะอย่างไม่เกรงกลัวถึงผลกระทบจากสังคม นี่คือเหตุผลว่าทำไมชาวแก๊งทั้งลายถึงเลือกสักกันให้เห็นได้แบบชัดเจน ทั้งๆ ที่น่าจะปกปิดสิ่งที่บ่งชี้ว่าพวกเค้าคือ อาชญากร ไว้เป็นความลับ
สมาชิกของ 18th Street Gang หรืออีกชื่อหนึ่งที่คนอาจจะเคยได้ยินนั่นก็คือ Barrio 18 สมาชิกของเค้าคนนึง Sergio Ochoa เปิดเผยถึงที่มาของรอยสักรูป “187” ของเค้าให้ฟังว่า “187 คือเลขประมวลกฎหมายอาญาในแคลิฟอร์เนียซึ่งเลข 187 นี้คือข้อกฏหมายข้อหา’ฆาตกรรม'” เช่นเดียวกับสมาชิกแก๊งอาชญากรในทวีปเอเชียที่มีรอยสักอเป็นคำพูดประมาณ “My Crazy Life” หรือ “I care for nothing” ที่แสดงให้เห็นว่าพวกเค้าไม่กลัวอะไร พวกเค้าไม่มีอะไรจะเสียอีกต่อไปแล้ว หรือรอยสักที่เกี่ยวกับอาชญากรรมต่าง ซึ่งส่วนใหญ่มักจะสักมันภายในเรือนจำ
ทั้งหมดนี้คือข้อแตกต่างระหว่างรอยสักของคนทั่วไป กับรอยสักของชาวแก๊ง หรืออาชญากร หลายๆ คนที่มีรอยสักนั้น พวกเค้าสักเพราะความชื่นชอบในศิลปะ และความสวยงาม แต่สำหรับชาวแก๊งพวกเค้าซีเรียสจริงจังกับรอยสักมากกว่านั้น วันนี้เราพอจะได้รู้เรื่องราว และความรู้คร่าวๆ ของความแตกต่างระหว่างรอยสักของคนทั่วๆ ไปกับ รอยสักของชาวแก๊ง และอาชญากรกันไปแล้ว หวังว่าหลายๆ คนคงจะเข้าใจ และได้รับความบันเทิงจากบทความนี้นะครับ