ความเป็นมาของ Satan ถูกเขียนไว้อย่างชัดเจนในพระคัมภีร์ Bible ตั้งแต่ยุคกลางของประวัติศาสตร์ จะว่าไปแล้ว Satan ที่เราเคยได้ยินชื่อกันมาก็มีอยู่มากมายหลายชื่อเต็มไปหมดวันนี้เราจึงได้นำรูปภาพรวมถึงเรื่องของ และประวัติของ Satan ในยุคต่างๆ มาให้ชมกัน เพื่อเป็นความรู้รอบตัวอีกเรื่องนึงสำหรับปีศาจ และควยามน่ากลัวที่เป็นตำนานนี้
ช่วงต้นปี 1200s
ภาพนี้คือคำตอบว่าทำไม Codex Gigas ถึงได้เป็น Satan ที่มีชื่อเสียที่สุดในยุคกลาง และได้รับสมยานามให้เป็น The Devil’s Bible ตามตำนานคำบอกเล่าของชาว Latin ได้กล่าวไว้ว่า Codex Gigas ครั้งนึงเคยเป็นพระแต่ได้ขายวิญญาณให้กับปีศาจเพื่อแลกกับการที่จะทำให้เค้าเขียนพระคำภีร์ต้นขึ้นมาใหม่ให้เสร็จสมบูรณ์ได้อย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาลาที่ตกลงกับปีศาจไว้คือ 5 ปี ภาพ Codex Gigas ภาพนี้มีความสูง 50 เซนติเมตร โดยมีเนื้อหา และคำอธิบายในเรื่องของสวรรค์ ความดี ความชั่ว ซึ่งในช่วงปี 1648 ซึ่งเป็นยุคสงคราม ภาพของ Codex Gigas ถูกเคลื่อนย้ายจาก Bohemia มาอยู่ที่ห้องสมุดแห่งชาติของประเทศ Sweden ใน Stockholm มาจนถึงวันนี้
ช่วงกลางของปี 1200s
ภาพนี้เป็นภาพที่สร้างขึ้นด้วยกระเบื้องโมเสค จาวฝีมือของ Coppo di Marcovaldo ที่เชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่าง Satan กับ แพะ, เขา และงู ที่่เป็นเอกลักษณ์ และลักษณะควบคู่กับคำว่า Satan นี่คือภาพของ Satan ที่มีความน่ากลัวที่สุดสำหรับใครก็ตามที่เดินทางไปพบกับภาพของจริงที่เมือง Florence ประเทศ Italy โดยที่ผลงานนี้ถูกแสดงไว้ในปี 1301 หลังจากการตายของ Coppo di Marcovaldo จนมาถึงทุกวันนี้
1450s
ภาพของ Satan ที่หลายคนคงเคยได้ยินชื่ออย่าง Lucifer ขณะที่อยู๋ในช่วงวาระสุดท้ายจากการลงโทษของพระคริส ภาพนี้เป็นภาพที่อยู่ในหนังสือที่มีชื่อว่า Livre de la Vigne nostre Seigneur หนังสือที่เต็มไปด้วยเรื่องราวของ Satan และภาพของความทรมาน ภาพของศพที่น่าสยดสยอง ที่ถูกสร้างขึ้นที่ประเทศฝรั่งเศสในระหว่างปี 1450 – 1470
1470s
ภาพนี้ถูกวาดขึ้นในระหว่างปี 1471 – 1475 ถือว่าเป็นภาพของ Satsan ที่มีความแปลกใหม่มากที่สุด เนื่องร่างกายของ Satan มีสีเขียว และมีหลายหน้า นอกจากนี้ยังมีการพูดถึง Saint Theophilus ซึ่งมีเรื่องราวเล่าขานกันว่า Saint Theophilus ครั้งนึงก็ได้เคยทำสัญญากับปีศาจเช่นเดียวกัน เพื่อที่ตัวเองจะได้เลื่อนตำแหน่งกลายเป็นบิชอป แต่หลังจากนั้น Saint Theophilus กลับรู้สึกเสียใจในบาปของตนที่ได้ทำสัญญากับปีศาจ จึงได้ทำการอดอาหารถึง 2 เดือนเพื่อเป็นการขอให้พระเจ้ายกโทษให้ ก่อนที่พระแม่มารีจะมาปรากฎกาย และยกโทษให้กับเค้า
1485s
ภาพลักษณ์ของ Satan มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อีกครั้งนึงเมื่อร่างกายของ Satan มีการผสมผสานระหว่าง หมู, ค้างคาว อีกทั้งยังมีใบหน้าของมนุษย์อยู่ที่ท้องอีกด้วย ในขณะที่ภาพนี้แสดงให้เห็นถึงความสุขของ Satan ที่กำลังเต้นรำอยู่ท่ามกลางไฟนรก เพื่อสื่อให้ผู้ที่ได้พบเห็นถึงความชั่วร้าย และความสุขแทนที่จะเป็นความทุกข์ทรมานในยามที่มนุษย์ได้ตกอยู่ในนรกอเวจี
1500s
ภาพแกะสลักของ Satan นี้ อยู่ที่ประเทศ Germany ซึ่งเป็นภาพที่มีรายละเอียดสวยงาม และชัดเจน สื่อให้เห็นถึงกริยาของ Satan ที่กำลังหลอกล่อพระคริส โดยผลงานที่ปรากฏอยู่นี้ไม่ปรากฎชื่อของผลงาน หรือผู้สร้างผลงานชิ้นนี้แต่อย่างใด เพียงแต่ได้มีชื่อย่อสลักติดเอาไว้ว่า Master L. Cz. ซึ่งน่าจะมีอายุอยู่ในช่วงปี 1480 – 1505
ช่วงกลางของยุค 1800s
ภาพนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อแสดงให้เห็นภาพได้ชัดเจนมายิ่งขึ้นตามบทกวีเรื่องราวของ Satan ตนนึงที่มีชื่อว่า Dante ซึ่งถูกเผยแพร่สู่สาธารณะในปี 1320 โดยที่ Dante เป็น Satan ที่เป็นปีศาจขนาดใหญ่ วิตถาร และมีถึง 3 ใบหน้า และมีอำนาจมากถึงกับขนาดที่แช่แข็งนรกที่ลุกเป็นไฟได้อย่างง่ายดาย และทำให้นรกกลายเป็นที่ที่สุขสบายสำหรับเค้าได้ตามที่เค้าต้องการจะให้เป็น
1863s
ภาพนี้ถูกพบอยู่ในพจนานุกรมนรกที่ถูกสร้างขึ้นโดยกลุ่มลึกลับที่อาศัยอยู่ในกรุง Paris ซึ่งพบมันอยู่ในห้องสมุดสากล ภายในระบุถึงเรื่องการทำข้อตกลงระหว่างมนุษย์กับ Satan และนรก ถึงแม้ว่าพจนนุกรมฉบับนี้จะมีภาพประกอบที่สวยงามแต่เนื้อหาย และความหมายภายในกลับน่ากลัว และชั่วร้าย โดย Satan ตนนี้มีชื่อว่า Belzebub ซึ่่งมีความหมายว่า “ลอร์ดแห่งแมลงวัน”
1872s
Satan ตนนี้มีลักษณ์คล้ายกับผีมากกว่า ที่จะเป็นผู้ปกครองนรกซะมากกว่า โดยที่ภาพนี้มีชื่อว่า “Satan Sowing Seeds” เป็นภาพวาดโดยดินสอทั้งหมด เป็นผลงานจากนักวาดภาพชาว Belgiam ที่พยายามจะสื่อให้เห็นถึงเรื่องของเพศ, ความตาย, ความชั่วร้าย และความทรมานของขุมนรก
1910s
Satan ที่มีความมีความโดเด่นเป็นพิเศษอีกตนนึง นั่นก็เพราะว่ามันมีหัวถึง 9 หัวด้วยกัน มีตำนานเล่าขานของชาว Latvia ว่า Satan ตนนี้ถูกโค่นล้ม และสังหารโดย Kurbads ซึ่งเป็นชาวบ้าน และเป็นวีรบุรุษของชาว Latvia นอกจากนี้ยังมีเรื่องเล่าอีกว่า Kurbads มีของขลังเป็นม้าขาวที่มีพลังวิเศษ เค้าออกเดินทางไปทั่วโลก และต่อสู้กับสัตว์ร้ายด้วยดาบของเค้าเพียงเล่มเดียว
ภาพทั้งหมดของ Satan นั้นเป็นเรื่องราวเล่าต่อกันมา และเป็นประวัติศาสตร์ที่มีวิวัฒนาการทั้งในเนื้อหา และรูปร่างของ Satan ที่แปรเปลี่ยนไปตามยุคสมัย หวังว่าจะถูกใจคนที่ชอบเรื่องย้อนยุค เรื่องเร้นลับกันนะครับ แต่ถึงอย่างไรก็ดี Satan ก็ยังคงเป็นสิ่งที่สื่อให้เห็นถึงการทำความชั่ว ความผิด และสิ่งไม่ดีซึ่งความหมายในตัวของ Satan ยังไม่เคยเปลี่ยนไปแม้เวลาจะผ่านมากี่ยุคกี่สมัยก็ตาม