Quantcast
Channel: Unlockmen
Viewing all articles
Browse latest Browse all 7738

DEMOCRATS IS BACK TO THE HOUSE: สรุปผลการเลือกตั้ง MIDTERM สหรัฐอเมริกา ใครคือผู้ชนะในศึกชิงเก้าอี้ครั้งนี้

$
0
0

ในเวลานี้คงไม่มีประเด็นไหนจะร้อนแรงและน่าสนใจสำหรับชาวโลกมากไปกว่า ‘การเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐอเมริกา 2018’ เพราะถึงแม้จะเป็นเรื่องราวภายในประเทศ แต่ก็ต้องยอมรับว่าสหรัฐอเมริกาคือมหาอำนาจของโลก ทุกนโยบายที่ผ่านสภาคองเกรสออกมาย่อมส่งผลต่อคนทุกหย่อมหญ้าไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของโลก ซึ่งตอนนี้ถึงแม้การนับคะแนนจะยังไม่สิ้นสุด แต่โฉมหน้าของผู้ชนะก็ปรากฏแล้ว อย่างไรก็ตามก่อนอื่นเราไปทำความรู้จักการเลือกตั้งกลางเทอมกันก่อนดีกว่า

What is U.S. Midterm Elections?

ถ้าจะอธิบายให้เข้าใจโดยง่ายการเลือกตั้งกลางเทอมคือการประเมินว่าพอใจกับการทำงานใน 2 ปีที่ผ่านมาของประธานาธิบดีหรือเปล่า ถ้าไม่พอใจก็จะมีสิทธิตัดสินใจอีกครั้ง แต่อย่างไรก็ตามจะไม่มีการเปลี่ยนตัวประธานาธิบดีในการเลือกตั้งกลางเทอม

ในการเลือกตั้งกลางเทอมนี้ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะลงคะแนนเลือกสมาชิกสภาคองเกรส ซึ่งในที่นี้ก็คือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกคน และ 1 ใน 3 ของสมาชิกวุฒิสภา

สภาคองเกรสคือการรวมกันของสภาผู้แทนราษฎรกับวุฒิสภา สมาชิกทั้งสองสภามาจากการเลือกตั้งโดยตรง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมีทั้งหมด 435 คน โดยแต่ละคนคือตัวแทนจากเขต ๆ หนึ่ง มีวาระการปฏิบัติงานสองปี จำนวนของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรขึ้นอยู่กับประชากรของมลรัฐนั้น ๆ สำหรับจำนวนสมาชิกวุฒิสภานั้น ทุกรัฐจะมีสมาชิกวุฒิสภาสองคนเท่ากันหมด ดังนั้น สหรัฐอเมริกาจึงมีสมาชิกวุฒิสภาทั้งสิ้น 100 คน วาระการปฏิบัติงานของสมาชิกวุฒิสภาคือ 6 ปี

ความสำคัญของการเลือกตั้งกลางเทอมคือเป็นการกำหนดว่าพรรคใดจะคุมอำนาจในสภาคองเกรสซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลไกการปกครองประเทศของสหรัฐอเมริกาที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการบัญญัติกฎหมาย

คำถามต่อมาคือเมื่อ 2 ปีที่แล้วพรรค Republican ของโดนัล ทรัมป์คว้าเสียงข้างมากไปครอง แต่ถ้าในครั้งนี้สถานการณ์เกิดพลิกผัน พรรค Democrats เกิดพลิกกลับมาเป็นเสียงข้างมาก ผลที่ตามมาคืออะไร ?

คำตอบคือการจะตรากฎหมายใด ๆ นั้นต้องได้รับความเห็นชอบจากสภาคองเกรส  หมายความว่าหากประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ต้องการออกกฎหมายใด ๆ ในอีก 2 ปีข้างหน้า นอกจากจะต้องได้รับการสนับสนุนจากวุฒิสภาที่มีสมาชิกพรรค Republican เป็นส่วนใหญ่แล้ว ยังต้องได้รับการสนับสนุนจากสภาผู้แทนราษฎรซึ่งมีสมาชิก Democrats เป็นเสียงข้างมากด้วย

Democrats Control the House

ถึงแม้ว่าขณะที่เราเขียนบทความนี้ศึกชิงเก้าอี้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกประจำปี 2018 ยังไม่สิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการ เนื่องจากการนับคะแนนยังไม่เสร็จสิ้น แต่เราก็ทราบแล้วว่าพรรค Democrats คือผู้ชนะในศึกครั้งนี้ พวกเขาสามารถพลิกสถานการณ์จากเมื่อ 2 ปีที่แล้วได้อย่างสวยงาม

ผลคะแนนสดตอนนี้ Democrats คว้าเก้าอี้ในสภาผู้แทนราษฎรไปถึง 219 ที่นั่ง ซึ่งมากกว่า 2 ปีที่แล้วถึง 26 ที่นั่ง ในขณะที่พรรค Republican มีเพียง 193 ที่นั่งในมือเท่านั้น ดังนั้นถึงแม้ว่าต่อให้อีก 23 ที่นั่งซึ่งยังนับคะแนนไม่เสร็จสิ้นเป็นของ Republican ทั้งหมดก็ยังไม่เพียงพอให้พรรคของโดนัล ทรัมป์ กลายเป็นเสียงข้างมากอยู่ดี  ส่วนวุฒิสภานั้นยังคงเป็น Republican ที่ยังครองที่นั่งได้มากกว่าด้วยจำนวน 51 ที่นั่ง ในขณะที่ 45 ที่นั่งเป็นของ Democrats

What the Americans Tell Us?

จากผลการเลือกตั้งกลางเทอมนี้ ประชาชนคนสหรัฐอเมริกากำลังบอกอะไรเรา?

จากภาพดังกล่าวจะเห็นได้ค่อนข้างชัดเจนว่าฐานเสียงสำคัญของ Democrats อยู่ในบริเวณ East Coast และ West Coast เป็นหลัก ซึ่งเมืองหรือมลรัฐที่อยู่ในบริเวณนี้ส่วนใหญ่เป็นเมืองใหญ่มีประชากรเยอะแทบทั้งสิ้น นั่นอาจหมายความว่ากลุ่มคนเมืองซึ่งเป็นกลุ่มคนส่วนใหญ่ของประเทศเริ่มตั้งคำถามถึงการทำงานของโดนัล ทรัมป์ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

สะท้อนถึงการแบ่งแยกของแนวคิดอย่างชัดเจนระหว่างคนเมืองและคนชนบท นอกจากนั้นการออกมาใช้สิทธิ์ที่มากขึ้นของชนกลุ่มน้อย คนรุ่นใหม่และการได้ที่นั่งสภาผู้แทนราษฎรเพิ่มขึ้นก็สะท้อนถึงความนิยมของพรรค Democrats ที่เพิ่มมากขึ้นในเขตชานเมือง นอกจากนั้นพรรคลาแห่งอเมริกันชนพรรคนี้ยังสามารถคว้าชัยชนะในเขตที่เคยพ่ายแพ้เมื่อ 2 ปีก่อนได้อีกด้วย และยิ่งไปกว่านั้นพื้นที่ขวาจัดอย่างมลรัฐ Texas และ Arizona พรรค Democrats ก็แพ้ไปเพียวฉิวเฉียด

ในส่วนของพื้นที่สีแดงในภาพ (มีพื้นที่สีแดงมากกว่า แต่ด้วยประชากรในพื้นที่ที่น้อยกว่าจึงทำให้มีจำนวนเก้าอี้น้อยกว่า) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นมลรัฐที่มีจำนวนประชากรน้อย ไม่ใช่เมืองใหญ่ ยังมีวิถีชีวิตแบบชนบทปะปนอยู่กับสังคมโลกยุคใหม่ พื้นที่เหล่านี้ยังคงเป็นของ Republican ซึ่งอาจจะกล่าวได้ว่าพื้นที่ดังกล่าวยังมีความเข้มข้นในแนวคิดอนุรักษ์นิยม จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่โดนัล ทรัมป์ จะคว้าใจคนกลุ่มนี้ไปครอง

ความหมายของผลการเลือกตั้งนี้จึงอาจสรุปได้ว่านโยบายขวาจัดนั้นอาจจะไม่สามารถครองใจคนเมืองซึ่งเป็นคะแนนเสียงส่วนใหญ่ได้อีกแล้ว เป็นเรื่องที่น่าหนักใจสำหรับ Republican เพราะถึงแม้พวกเขาจะเปลี่ยนแปลงนโยบายเป็นสนับสนุนแนวคิดเสรีนิยมมากขึ้นในการเลือกตั้งครั้งหน้า พวกเขาอาจจะได้ที่นั่งในเขตเมืองมากขึ้นก็จริง แต่นั่นก็หมายความพวกเขาอาจเสียที่นั่งซึ่งเป็นฐานเสียงดั้งเดิมไปด้วยเช่นกัน

น่าสนใจจริง ๆ ว่าอีก 2 ปีต่อจากนี้เกมการเมืองกระดานนี้จะเดินไปในทิศทางไหน โดนัล ทรัมป์ จะทำยังไง เนื่องจากเขาคงไม่สามารถบริหารประเทศได้สะดวกโยธินเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว อาจจะมีกฎหมายจำนวนมากไม่ผ่านสภาคองเกรส และสถานการณ์เช่นนี้จะส่งผลอะไรถึงโลกใบนี้และประเทศของเราบ้าง มาจับตามองไปพร้อมกัน

 

SOURCE1

SOURCE2

SOURCE3


Viewing all articles
Browse latest Browse all 7738

Trending Articles