Quantcast
Channel: Unlockmen
Viewing all articles
Browse latest Browse all 7738

ไม่ไหวแล้ว หัวจะระเบิด! : วิธีลดและจัดการกับความเครียดอย่างยั่งยืน เพื่อชีวิตที่ผ่อนคลายกว่า

$
0
0

“ความเครียด” เป็นสิ่งที่ช่างน่าเซ็ง ก่อให้เกิดอาการเส็งเคร็งทั้งปวดหัว อารมณ์เสีย ผมร่วง รวมถึงปัญหาสุขภาพที่อาจตามมาได้ บางความเครียดก็เล่นงานเราข้ามวัน จนชีวิตแทบพังกันเลยทีเดียว แบบนี้ต้องเรียนรู้วิธีจัดการกับมัน ก่อนที่มันจะทำลายชีวิตเรา

ต้องยอมรับว่า แม้ผู้ชายอย่างเรา ๆ จะรู้จักการดูแลตัวเองเป็นอย่างดี แต่ก็มักจะจัดการกับความเครียดได้ดีบ้างไม่ดีบ้าง บางทีเราก็เอาความเครียดไปฝากไว้กับที่อื่น ไม่ก็สะสมความเครียดทั้งหลาย ทั้งเรื่องความสัมพันธ์ หน้าที่การงาน เรื่องครอบครัว และเรื่องส่วนตัว ที่มันวนเวียนอยู่ในหัวตลอดเวลาจนใจเริ่มพัง ร่างกายก็เริ่มแย่ สมองก็เริ่มอ่อนล้า ประสิทธิภาพในการทำสิ่งต่าง ๆ ของเราก็เริ่มเสื่อมถอย

 

ความเครียดมีหลายมุม

ก่อนอื่น ต้องแยกแยะความแตกต่างของความเครียดที่ดีและความเครียดที่ไม่ดีให้ได้ก่อน หลายครั้งความเครียดก็เป็นเรื่องบวกถ้าหากมันช่วยกระตุ้นให้เราตั้งใจทำสิ่งที่อยู่ตรงหน้าจนสำเร็จ แต่ถ้ามันเครียดมากไปจนโอเวอร์โหลดมันก็จะก่อให้เกิดปัญหา ซึ่งความเครียดในเชิงลบสามารถส่งผลเสียต่อต่อมหมวกไต ทำให้เรารู้สึกเหนื่อยล้า เรี่ยวแรงที่มีถูกแบ่งมารับมือกับความเครียดจนไร้พลังสร้างสรรค์ ยิ่งเครียดยิ่งเพลีย

ส่วนการจัดการกับความเครียดนั้น แต่ละคนก็มีวิธีที่แตกต่างกันออกไป แต่ปัญหาที่มักจะเจอก็คือ ผู้ชายอย่างเรา ๆ มักจะรับมือกับสภาวะอารมณ์ของตัวเองได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ และแยกแยะไม่ค่อยออกว่าความรู้สึกแย่ ๆ ที่ตนเองเป็นอยู่นี้คืออะไร และเกิดจากอะไรกันแน่

 

ความโกรธกับความเครียด

เวลาเราเครียด หงุดหงิด หรือโกรธ เรามักจะไม่ค่อยรู้ตัวเองว่าเป็นอย่างไร พออารมณ์มันเดือดขึ้นมาก็แทบไม่สนใจใครทั้งสิ้น ซึ่งส่วนใหญ่แล้วความโกรธมักจะมีต้นกำเนิดมาจากความเครียด เพราะฉะนั้นควรจัดการความหัวร้อนให้ได้ แล้วมันก็จะย้อนโปรเซสไประงับความเครียดได้โอเค

นอกจากนี้ ความเครียดยังมีผลกับความสัมพันธ์ของคู่รักอีกด้วย เพราะมันซึมซับกันได้ นักจิตวิทยาบอกว่าผู้หญิงจะมีความสามารถในการรู้ตัวเองว่าเครียดแค่ไหน และจะจัดการมันอย่างไรมากกว่าผู้ชาย แถมไม่ใช่แค่กับตัวเอง แต่ยังค่อนข้างเข้าใจผู้ชายของเธอได้เป็นอย่างดี ด้วยเหตุนี้เธอจึงสามารถผ่อนคลายความเครียดให้กับคุณได้จากการรับฟังอย่างเข้าใจ และการดูแลเอาใจใส่ให้คุณหายเซ็ง แต่เพราะเธอไม่ค่อยบ่นเรื่องราวเครียด ๆ ของเธอออกมา เราก็เลยคิดไปเองว่าเธอคงไม่เครียดอะไรมั้ง เลยไม่ค่อยเอาใจเธอเรื่องนี้สักเท่าไหร่ ส่งผลให้เธอแอบน้อยใจก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นควรเอาใจใส่คนรอบข้างด้วยควรจะเป็นผู้ฟังที่ดีด้วย ซึ่งการช่วยกันกำจัดความเครียดจะช่วยให้ความสัมพันธ์ยั่งยืนยิ่งขึ้น

 

วิธีจัดการกับความเครียด

  1. อย่าโหมงานหนักเกินไปจนอ่อนล้า ให้ถามตัวเองว่า “การทำงานในส่วนนี้จะทำให้เราเสียสุขภาพและลดความสุขของเราลงบ้างมั้ย ?”
  2. กินดี ก็อยู่ดี: พยายามลดอาหารที่มีสารที่สามารถก่อความเครียดให้กับเราได้ โดยเฉพาะคาเฟอีนและน้ำตาล พยายามเลือกรับประทานเนื้อสัตว์ไร้มัน ปลา ผักและผลไม้
  3. ออกกำลังกายทุกวัน: แม้มันจะทำได้ยาก แต่เชื่อว่าไม่มีข้ออ้างสำหรับคนอยากฟิต ลองหาโปรแกรมออกกำลังกายที่เหมาะสมกับชีวิตประจำวันของคุณมาลุยกันสักตั้ง ให้มันกลายเป็นหนึ่งในสิ่งที่ต้องทำในแต่ละวัน แล้วความเครียดก็จะโดนแทนที่ด้วยความมันส์จากการเสียเหงื่อ
  4. ฝึกสมาธิ ไม่ว่าจะเป็นโยคะ นั่งสมาธิ หรือใช้เวลานั่งนิ่ง ๆ สูดหายใจลึก ๆ ก็จะช่วยผ่อนคลายความเครียดได้
  5. นอกจากจะระบายให้กับคนใกล้ตัวที่ไว้ใจได้แล้ว การหากลุ่มแลกเปลี่ยนเรื่องราวที่ก่อให้เกิดความเครียดก็เป็นทางออกที่เยี่ยมไปเลย มันคือการ sharing ที่ช่วยให้ทุกคนรู้สึกผ่อนคลายขึ้นจริง ๆ
  6. จัดการชีวิตประจำวันเสียใหม่: ความเครียดมันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตอยู่แล้ว เพื่อป้องกันความเครียดซ้ำซ้อนจากชีวิตที่แสนวุ่นวาย ลองบริหารจัดการตัวเองให้ดีในแต่ละวัน ถ้าทำได้ลงตัวทุกอย่างก็จะดูเบาลง ความเครียดก็จะอยู่ในที่ที่ควรอยู่ ไม่พองตัวออกมาทำเราเซ็งเพิ่ม
  7. ฝึกคิดบวก: เมื่อเจออุปสรรค ให้มองมันเป็นสิ่งที่ท้าทาย ถ้าผ่านไปได้เลเว่ลจะอัพ แกร่งขึ้น เก่งขึ้น เก๋าขึ้น รวมถึงอยู่ห่าง ๆ คนที่ชอบปล่อยพลังลบออกมา
  8. เมาให้น้อยลง: การลดละเลิกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้การนอนหลับของคุณเป็นปกติ เพราะการนอนไม่พอ หรือหลับ ๆ ตื่น ๆ และหลับไม่ลึก จะส่งผลให้ร่างกายหลั่งฮฮร์โมนความเครียดออกมา แม้ว่าการเมาจะทำให้เราสนุก แต่มันก็แค่ชั่วครั้งชั่วคราว ไม่สามารถช่วยแก้ปัญหาในระยะยาวได้
  9. รู้จักการปฏิเสธ: อย่าตอบตกลงกับทุกอย่างบนโลกนี้ เพราะบางอย่างมันก็เกินตัวเรา บางอย่างมันก็ทำให้เราเดือดร้อน ไม่ส่งผลดีกับชีวิต พอรับปากไปก็ยิ่งเครียด ความมีน้ำใจเป็นสิ่งที่ดีกับโลก แต่ก็ต้องดูว่าเราไหวมั้ยกับความใจกว้างที่ให้ไป
  10. รู้จักการปิดสวิตช์: เข้าใจว่าเป็นคนทุ่มเท แต่ก็ต้องรู้จักการพักผ่อนบ้าง เพิ่มการวางแผนงานเข้าไป ปรับจากการ work hard ให้เป็นการ work smart ก็จะทำให้ทุกอย่างดูตึงน้อยลง ความเครียดก็จะอยู่ในระดับที่พอเหมาะ ยังเป็นความเครียดที่ดีอยู่

การจัดการกับความเครียดนั้นต้องทำในระยะยาว หากอยากให้ชีวิตนี้เบา(ใจ)ลง ก็ต้องตั้งใจที่จะจัดการกับความเครียดอย่างจริงจัง ลองทำตามวิธีที่เราแนะนำทั้งหมดอย่างต่อเนื่อง แล้วมาดูกันว่าได้ผลมากแค่ไหน เห็นมั้ย แค่คิดจะปลดล็อกความชิลก็รู้สึกดีแล้ว


Viewing all articles
Browse latest Browse all 7738

Trending Articles