ถ้าคุณเป็นคนที่ชื่นชอบการร่ำสุรา คุณอาจพิถีพิถันในการเลือกบรั่นดี วิสกี้ จิน รัม หรืออะไรก็ตามที่คุณชื่นชอบ แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ชื่นชอบบรรยากาศของการร่ำสุรา สถานที่คงจะเป็นเรื่องแรกที่คุณให้ความสำคัญ เพราะบรรยากาศที่ดีเป็นตัวสร้างอรรถรสอันยอดเยี่ยมเสมอในการสังสรรค์ รสชาติของเครื่องดื่ม และอาหารดีขึ้นได้ด้วยบรรยากาศ
บรรยากาศย้อนยุคมักทำให้เรานึกถึงวันวานอันหวานชื่น ช่วงเวลาที่เชื่อกันว่าทำให้เรามีความสุขที่สุด หากคุณโหยหาความรู้สึกนั้น เรามีบาร์เก่าแก่ย่านทองหล่อที่เปิดมาถึง 15 ปี มาแนะนำ ซึ่งเราเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าร้านนี้สามารถตอบโจทย์ความรู้สึกของคุณได้แน่นอน ด้วยบรรยากาศของอดีตในชื่อ “Shades of Retro”
ภายในซอยธารารมณ์ 2 สุขุมวิท 55 (ทองหล่อ) เป็นที่ตั้งของร้าน Shades of Retro ซึ่งซ่อนตัวอยู่ในตึกแถวสามชั้น มองจากด้านหน้าคุณอาจจะยังไม่ได้กลิ่นของความย้อนยุค แต่ถ้าคุณได้เข้าไปในร้านจะได้พบกับความย้อนยุคแบบ 50s-70s เฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้นนั้นเรโทรมากจริงๆ เดินไปบริเวณไหนของร้านก็ตื่นตาตื่นใจกับของตกแต่งต่างๆ ภายในร้านไปเสียหมด
เรามีโอกาสได้พูดคุยกับคุณบอยเจ้าของร้าน Shades of Retro และถามถึงจุดเริ่มต้นรวมถึงที่มาของชื่อร้าน “เป็นคนที่ชอบอะไรที่ย้อนยุค จำวัยเด็กของเราเมื่อ 30 ปีที่แล้วว่าบ้านเราเป็นอย่างนี้นะ เลยอยากได้บรรยากาศแบบนั้น ซึ่งวัยเด็กสำหรับคนส่วนใหญ่เป็นวัยที่เรามีความสุขที่สุดพ่อชอบกินเหล้า ชอบจัดปาร์ตี้ที่บ้าน แน่นอนว่าที่บ้านมีบาร์ และข้างหลังบาร์เป็นสีส้มแป้ดเลย โซฟาจะเป็นหนังเทียมสีเขียวตุ่นๆ คือได้อารมณ์เรโทรของยุคนั้นมาก เราเลยอยากจะเลียนแบบอดีตที่หวานชื่นของเรา”
“ชื่อ Shades of Retro เนี่ย Shade ก็คือโป๊ะไฟที่เราทำจากวัสดุเก่า ผ้าเก่าลายกราฟิก ส่วนกรอบมีทองเหลืองบ้าง ไม้สักบ้าง ตอนนั้น wallpaper ขายดี ได้แหล่งมาขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่า เกิดมาได้เพราะผ้าโป๊ะไฟเนี่ยแหละ”
จุดเริ่มต้นที่แท้จริงมาจากการขายกาแฟ “จริงๆ แล้วไม่ชอบกินเหล้าหรอก แต่สมัยวัยรุ่นทำงานใหม่ๆ เริ่มมีเงินก็กินเหล้าถึงเช้า เอาละมุดไปฝากเพื่อนร่วมงานทุกวัน พอเปิดร้านเราก็เริ่มต้นด้วยการขายกาแฟ ตอนนั้นร้านกาแฟที่เป็นเรื่องเป็นราวที่เดียวในทองหล่อคือ starbuck ซึ่งเป็นสาขาสอง เห็นเขาเปิด 8 โมง เลยเอาเว้ย เราเปิด 7 โมง ชั่วโมงเดียวขอเลย 30-40 แก้ว เปิด 7 โมงไป ลูกค้ามาประมาณ 7-8 คน เปิดไปได้แค่ 3 เดือน ลูกค้ามาเท่าเดิมเลย แต่มาหลัง 11 โมงนะ (หัวเราะ) แล้วเราก็เริ่มเปิดเป็นบาร์ขายค็อกเทล ขายเบียร์ ขายเหล้า ขายเฟอร์นิเจอร์ด้วยนะ ในร้านอยากได้ชิ้นไหนก็ถามราคาซื้อได้เลย”
เป็นบาร์ที่เสิร์ฟแต่ป็อปคอร์นอย่างเดียวมานานเป็นสิบปี “สมัยก่อนร้านไหนมีเหล้าต้องมีอาหาร แต่ผมเนี่ยย้อนกลับไปจากไม่มีมาเกือบสิบกว่าปี ก็เลยคิดว่ามันต้องมี ไม่อย่างนั้นมันก็จะเหมือนคนอื่นแล้วล่ะ ซึ่งอาหารที่ทำในร้านผมก็ลองผิดลองถูก คิดเอง อย่างเบอร์เกอร์เราใช้เวลา 2 ปีกว่าจะคลอดออกมา เน้นใหญ่ทุกอย่าง ขนมปังยันเนื้อเลย ถ้าคุณกินแมคโดนัลมันมีซามูไรเบอร์เกอร์ใช่ไหม แต่ของเรานี่เป็นมวยปล้ำเม็กซิกัน (หัวเราะ)”
พูดคุยกันไปพอหอมปากหอมคอ ได้เวลาหาของกินใส่ท้อง คุณบอยแนะนำเมนูอาหารที่มาแล้วต้องสั่ง ซึ่งก็คือ Buffalo Skin ที่ดัดแปลงมาจาก Buffalo Wing แต่ใช้หนังไก่มาคลุกกับซอสเนื่องจากอยากให้มันกินได้ง่ายขึ้น ไม่เลอะเทอะ และอีกอย่างมันก็เป็นส่วนที่อร่อยที่สุด แถมน้ำซอสยังเข้าเนื้อดีอีกด้วย จานแรกแค่ชิม แต่จานที่สองถึงกับต้องสั่งมากินกันจริงจังเลยล่ะ
Buffalo Skin (200 บาท)
มีกับแกล้มก็ต้องมีค็อกเทล ค็อกเทลที่เราได้ชิมมีสองตัวด้วยกัน คือ OL-Bitch และ Smoke on the Water ตัวแรกที่เราได้ลองชิมเลยก็คือ OL-Bitch ที่ดื่มง่าย มีรสชาติแบบหวานหอมกลมกล่อม มีเบสเป็นวอดก้ากับสาเก มีแอปซินท์เล็กน้อย ตบด้วยมะนาวได้รสเปรี้ยวหวานที่ลงตัว อีกตัวคือ Smoke on the Water
OL-Bitch (260 บาท)
Smoke on the Water (260 บาท)
ปิดท้ายกันด้วยของหนักๆ อย่าง Black and Blue Dog เบอร์เกอร์หมูรสชาติเยี่ยมที่ประกบด้วย Dark Chocolate Bun ที่ให้รสชาติที่เข้ากันอย่างลงตัว เสิร์ฟมาพร้อมเฟรนฟรายอย่าง Rosemary Sea Fries อร่อยจนทีมงานต้องแย่งกันกินเลยทีเดียว
Black and Blue Dog PORK (300 บาท)
ระหว่างนั้นเราก็ชวนคุณบอยพูดคุยไปเรื่อยๆ ซึ่งคุณบอยกำลังทำอาหารให้เพื่อนชาวต่างชาติที่กลายมาเป็นลูกค้าประจำหลังจากติดตามร้านใน Instagram เพราะชื่นชอบในรสชาติอาหารและบรรยากาศที่อบอุ่นของที่นี่
ไม่ใช่แค่บาร์ แต่เปรียบเสมือนบ้านที่อยากให้เพื่อนแวะเข้ามานั่งพักผ่อนหย่อนใจ “อยากให้คนที่มา Shades of Retro รู้สึกว่าอยากมาอีก ซึ่งมันเป็นพื้นฐานของธุรกิจ เราอยากให้ลูกค้าบอกเราว่า ชอบ ไม่ชอบตรงนี้นะ อันนี้ไม่ดี บอกได้ตรงๆ ผมอาจจะโกรธนะ เพราะตั้งใจทำ แต่ว่ามันไม่แปลก คนในประเทศเท่าไร ผมขอ 2 เปอร์เซ็นต์ที่เข้ามาเวียนแค่นี้พอ มันไม่ใช่ทุกคนที่เป็นเพื่อนเรา หรือเป็นลูกค้าเราได้ ก็มักน้อยแต่ขอเข้ามาเรื่อยๆ ดีกว่า ให้อยู่ซักประมาณ 70-80 % ทุกวันก็แฮปปี้ เพราะลูกค้าประจำเข้ามาจะได้รู้สึกว่ามีที่ว่าง มาแล้วไม่ต้องจอง นี่คือคอนเซ็ปต์ของร้านเราตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว”
“เพราะนี้เป็นไลฟ์สไตล์ของผมจริงๆ กินอะไรก็ทำอย่างนั้น สิ่งที่เรานำเสนอลูกค้าเป็นสิ่งที่เราชอบ”
เราค่อนข้างประทับใจร้านนี้ ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศโดยรวมของตัวร้าน รสชาติอาหารและค็อกเทล เพลงที่เปิดภายในร้านสามารถสร้างบรรยากาศให้เราเพลิดเพลินไปกับมื้อค่ำนี้อย่างออกรสออกชาติ สำหรับใครที่อยากสัมผัสบรรยากาศของความเรโทรย้อนยุค มีเวลาว่างค่ำนี้ก็เข้าไปนั่งเล่นกันได้ ที่สำคัญถ้าคุณเป็นคนชอบฟังเพลงจากแผ่นเสียง และสะสมแผ่นเสียงอยู่ก็สามารถเข้าไปร่วมฟังเพลง และขนแผ่นไปเปิดเองได้ทุกคืนวันอังคาร Vinly Night เปิดเพลงถูกใจคุณบอยเผลอๆ ได้กินฟรีด้วย บอกแล้วว่าร้านนี้เขาสร้างบรรยากาศให้เหมือนบ้านเพื่อนจริงๆ ไปชิวก่อนสองทุ่ม จะเป็นช่วง Happy Hour ราคาเครื่องดื่มลดอีก 50 เปอร์เซ็น แบบนี้ต้องไปเยือนให้ได้สักครั้ง
FB : shadesofretrobar
IG : shadesofretro