งานเป็นอะไรที่อยู่กับเรามากที่สุดเป็นอันดับสองรองจากตัวเราเอง สัปดาห์นึงเรา Spend เวลากับมันไปกว่า 5 วัน หากมันไม่สามารถจรรโลงให้เราอยากอยู่กับมันไม่ว่าจะเพื่อเงินหรือ Passion ความชอบ ความถนัดแล้ว เราก็ต้องพิจารณาแล้วว่า ขนาดแรงจูงใจที่เคยมียังไม่อาจรั้งเราไว้ได้ มันอาจจะไม่ใช่ที่ของเราจริง ๆ ก็ได้ หาคำตอบให้ตัวเองให้ได้ว่าตอนนี้จริง ๆ แล้วคุณต้องการอะไรกันแน่แล้วจัดการตัวเองให้เรียบร้อยว่าจะสู้ต่อหรือเดินหน้าไปทางอื่น UNLOCKMEN จะมาแนะนำวิธีที่จะช่วยให้คุณได้เตรียมทั้งตัวและใจแบบเบื้องต้น สำหรับปัญหาสุดลำบากใจ ส่วนข้าวของต้องเตรียมเอาเอง
พักงานไปพักร้อน
ลองให้เวลาตัวเองได้หลีกหนีจากบรรยากาศเดิม ๆ ที่มันชวนให้คุณวิ่งหนีทุกครั้งที่เดินเข้ามาเจอออฟฟิศ ด้วยการพักร้อนสักสองสามวัน ไม่จำเป็นต้องเป็นทริปสุดหรู โรงแรมห้าดาว แค่ให้มันเป็นทริปที่ให้คุณได้มีเวลาให้ตัวเอง ได้หยุดคิด พักจากเรื่องต่าง ๆ ที่คอยรุมทึ้งคุณมาตลอด เผื่อว่าครั้งนี้มันจะช่วยชาร์จพลังให้คุณได้มีแรงมากพอที่จะเดินต่อได้จริง ๆ เพราะบางครั้งมันก็เป็นภาวะที่ก้ำกึ่งระหว่างหยุดพักกับหาเส้นทางใหม่ หากยังไม่แน่ใจว่าตัวเองต้องพักตอนไหนลองอ่านได้ที่ WARNING SIGNS : จับตาดูให้ดี 5 สัญญาณเตือนว่าเราควรหาเวลาพักให้ตัวเอง
ใครที่ไม่สันทัดการคิดอะไรแค่คนเดียว ลองใช้เวลาที่พักร้อนนี้รับฟังคำแนะนำจากคนรอบตัวที่คุณรู้สึกว่าเขาจะให้คำแนะนำดี ๆ แก่คุณได้ และต้องเป็นคนที่มองคุณทะลุปรุโปร่งมากพอที่จะรู้ว่าต้องแนะนำคุณแบบไหน และคุณกำลังต้องการอะไร หากตัดสินใจแน่นอนแล้วว่าคุณต้องการจะออกจากงานแน่ ๆ ลองดู Step ต่อไปเพื่อเตรียมตัวให้พร้อม
เตรียมตัวให้พร้อม
ถ้าตัดสินใจแน่นอนแล้วว่าจะโบกมือลาที่ทำงานปัจจุบัน การเตรียมตัวก็คงเป็นขั้นตอนที่ต้องทำอย่างแน่นอนและต้องทำมันให้ดีด้วย อย่างแรกคืออัพเดต Resume ให้เป็นปัจจุบันและเปลี่ยนดีไซน์ให้เหมาะสมกับที่ทำงานต่อไป หากยังไม่มีที่ไหนในใจก็ต้องทำในดีไซน์เซฟ ๆ ไว้ก่อน เพื่อที่จะได้สามารถยื่นได้ในทุกที่ และเจียดเวลามองหางานใหม่ไว้บ้างก็ดี เพราะเมื่อถึงเวลาที่คุณต้องออกจริง ๆ คุณจะได้ไม่เคว้งคว้างเหมือนโดนลอยแพ (ทั้ง ๆ ที่เลือกจะเดินออกมาเอง)
ย้ายไปทำงานที่ใกล้เคียง
หากปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ตัวคุณ แต่เป็นเพื่อนร่วมงานหรือหัวหน้า ที่คุณไม่อาจจะไปเปลี่ยนแปลงอะไรเขาได้นัก ลองย้ายไปทำแผนกหรือทีมอื่นที่ไม่ต้องมาเจอกับคนที่คุณมีปัญหาด้วย ไม่ใช่เพราะกลัวแต่เพื่อความสบายใจในการทำงานของทั้งสองฝ่ายเอง
หรือถ้าปัญหาคือคุณไม่อยากอยู่ที่นี่อีกต่อไปแล้ว ก็ย้ายเลย แต่ลองมองหาเป็นสายงานที่ใกล้เคียงกับงานเดิมก่อน เพื่อที่คุณจะได้ยังไม่ต้องปรับตัวเรื่องงานมาก และยังคงเป็นงานที่คุณถนัดอีกด้วย คุณจะได้มีเรื่องที่ต้องปรับตัวอย่างเดียวคือสังคมใหม่ ไม่งั้นก็ต้องกังวลทั้งงานและสังคมไปพร้อม ๆ กัน มีหวังพังกว่าเดิม
เปิดโหมด Freelance
การแก้ปัญหานี้เหมาะกับคนที่ยังคงรักงานที่ตัวเองทำ แต่ไม่ไหวกับสภาพแวดล้อมหรือออฟฟิศที่ต้องไปนั่งจมอยู่ทุกวันอีกต่อไป ลองหันไปทำงาน Freelance ดูสิ งานที่รัก + สถานที่ที่เราเลือกเองได้ตามใจ วันนี้อยากจะไปนั่งชิลในร้านกาแฟร้านโปรด หรือจะเป็น Working Space สุดเท่ หรือจะอยากนอนทำงานตีลังกาอยู่บ้านก็ยังได้ ทั้งหมดนี้ตามใจคุณ โดยที่ไม่มีมลพิษจากเพื่อนร่วมงานตัวแสบมากวนใจอีกต่างหาก ลองมาเป็น Freelance ที่กำหนดรายได้ให้ตัวเองได้ ทั้งหมดนี้คุณเลือกเองได้ทั้งนั้นแหละ
อย่าหันหลังกลับไป
เลือกแล้วก็เลือกเลย เลือกแค่ครั้งเดียว เพราะชีวิตเรามันกด Undo ไม่ได้ หากวันไหนเกิดลังเลขึ้นมาระหว่างที่คุณตัดสินใจเรื่องใหญ่ขนาดนี้ คนที่จะเฟลที่สุดคงเป็นตัวคุณเอง ที่ไม่อาจเอาแน่เอานอนอะไรกับตัวเองได้เลย ไปโฟกัสกับสิ่งที่ตัวเองต้องไปเจอข้างหน้า โฟกัสกับการก้าวต่อไปของคุณ ดีกว่ามองกลับไปแล้วเกิดเสียดายนู่นนี่ขึ้นเฉย ๆ เพราะการตัดสินใจแบบนี้ไม่ได้มีบ่อย ๆ ตัดสินใจให้เด็ดขาดในครั้งเดียวให้มันจบไป
งานที่ทำให้คุณลำบากใจอาจจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่ในนรก แต่ทึ่สุดแล้วมันอยู่ที่คุณ ว่าจะเปลี่ยนมันให้เป็นสวรรค์ของคุณหรือเลือกที่จะเดินออกไปหาสิ่งใหม่ คำแนะนำที่ให้ไปนั้น เป็นเพียงขั้นตอนง่าย ๆ ที่เอาไว้เตรียมตัวสำหรับการตัดสินใจจะเดินออกจากงานปัจจุบัน แต่การตัดสินใจว่าจะไปหรือไม่ไปนั้นขึ้นอยู่กับคุณเอง 100%