Quantcast
Channel: Unlockmen
Viewing all articles
Browse latest Browse all 7738

SURVIVAL GUIDE : ตำราพิชัยสนีกเกอร์สีขาว วิธีที่ร่ำรู้มาแต่โบราณอาจจะไม่ถูกต้องก็ได้ มาเรียนรู้วิธีรักษาที่ถูกต้องกัน

$
0
0

13 – 15 เมษายน วันสงกรานต์และปีใหม่ไทยอันรู้กันดีว่าโคตรชุ่มฉ่ำชื้นแฉะ มาพร้อมกับ Activity สนุก ๆ กับความเปียกของการเล่นน้ำดับร้อนหลายรูปแบบให้ออกไปลุย แน่นอนว่าผู้ชายคงหลายคนคงจะเลือกรองเท้าผ้าใบคู่ใจไปปะแป้งสาว ๆ เพราะมันช่วยให้เราเกินเฟี้ยวได้แบบเต็มที่มากกว่าคีบแตะไปเสี่ยงเตะขวดและโดนเหยียบเท้าเป็นไหน ๆ  หรือแม้จะไม่ได้ไปเล่นน้ำสงกรานต์ก็ตามด้วยสภาพพื้นถนนที่แสนจะสกปรกผลพ่วงจากการเล่นน้ำทำให้เป็นไปได้ว่ารองเท้าคู่เก่งของคุณอาจจะเลอะเทอะ เปรอะเปื้อนจาก น้ำ โคลน และแป้ง ในสภาพแห้งกรอบยับจนจำสภาพเดิมไม่ได้

ซึ่งเหตุการณ์ต่อไปนี้เราเชื่อว่าหนุ่ม ๆ ทุกคนต้องเคยต้องประสบพบเจอคือการเข้าไปค้น Google หาวิธีดูแลรักษารองเท้าขาวที่ยับเยินเหมือนผ่านสงครามโลกมา พร้อมเจอสารพัดร้อยแปดวิธีโดยพอนำไปทำตามกลับพบว่าสภาพรองเท้ายิ่งเหลืองอ๋อยจนจำเค้าโครงแทบจะไม่ได้เลย ดังนั้นเรื่องนี้จะไม่เป็นปัญหาให้ต้องกังวลอีกต่อไป เพราะวันนี้ UNLOCKMEN ไปถามกูรูการดูแลวิธีรักษารองเท้าสีขาวที่ถูกต้องจากมืออาชีพอย่างร้าน SEEK Thailand ที่จะมาสอนการทำความสะอาดและป้องกันรองเท้าผ้าใบทั้ง 4 วัสดุหลักที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไปจากรองเท้าผ้าใบมาฝาก ไม่ว่าจะเป็น Knit , Mesh , Canvas หรือ Leather  ซึ่งพออ่านจบนี้รับรองว่ารองเท้าของคุณจะขาวสว่างตราบนานเท่านาน

ขั้นตอนการทำความสะอาด

1. Knit ( ผ้าถัก)  Mesh ( ผ้าตาข่าย )

สาเหตุที่นำสองวัสดุนี้มาไว้ในหัวข้อเดียวกัน เพราะทั้งคู่มีวิธีทำความสะอาดเหมือนกัน เพราะมีคุณสมบัติหลักทำมาจากผ้าไม่ว่าจะเป็น  รองเท้าผ้าถัก ( Knit ) หรือ เท้าผ้าตาข่าย ( Mesh ) จัดว่าทำความสะอาดยากเพราะวัสดุผ้าที่ออกแบบมาเพื่อความเบาสบาย ขณะเดียวกันก็ยังต้องเบามือมากเพราะความเปราะบางของผ้า หากซักแบบฮาร์ดคอร์อาจจะเกิดการรุ่ยของผ้าได้

เริ่มจากปลดเชือกของออกเพื่อแยกซักและง่ายต่อการทำความสะอาดตัวรองเท้า ต่อด้วยการถอดพื้นด้านใน ( Insole ) ในกรณีมีหรือสามารถถอดออกได้ จากนั้นใช้ผ้าสะอาดเช็ดสิ่งสกปรกซึ่งเป็นฝุ่นที่มีโมเลกุลใหญ่ออกไปก่อนเท่าที่สามารถทำได้ และต่อมาคือขั้นตอนการขัด โดยเตรียมอุปกรณ์ดังนี้

1.  อ่างใส่น้ำอุ่น
2.  แปรงขนนุ่มพิเศษ
3.  น้ำยาทำความสะอาด

ขั้นตอนแรกคือ เทน้ำยาลงบนแปรงขัดโดยรอให้น้ำยาซึมเข้าแปรง หลีกเลี่ยงการทาใส่ตัวรองเท้าโดยตรง จากนั้นใช้แปรงจุ่มลงไปในน้ำอุ่นแล้วยกขึ้นสะเด็ดน้ำให้หมาด ขั้นตอนนี้สำคัญตรงห้ามให้แปรงขัดเปียกจนเกินไป เมื่อหมาดแล้วให้เริ่มทำการขัดบริเวณที่ต้องการทำความสะอาดให้เกิดฟองให้คราบหลุดลอก เมื่อเห็นว่าฟองเริ่มน้อยลง ทำซ้ำขั้นตอนหยดน้ำยา จุ่มน้ำและขัดต่ออีกครั้งจนกว่าจะแน่ใจว่ารองเท้าสะอาดหมดจด จึงค่อยนำผ้าสะอาดมาเช็ดออกอีกหนึ่งที จากนั้นนำไปตากในที่ร่มโดยหลีกเลี่ยงแสงแดดจัดเพราะอาจทำให้คราบกาวลอกออกมาเลอะตัวรองเท้าสีขาวได้

2 . Canvas ( ผ้าแคนวาส )

หากใครนึกไม่ออกว่าแคนวาสคืออะไร ลองนึกถึง converse หรือ vans ผ้าใบ ที่จัดได้ว่าเป็นงานหินสุด ๆ ในการทำความสะอาด เพราะผ้าแคนวาสต้องการการดูแลต่างออกไป ด้วยเนื้อผ้าแข็งและหนากว่า นั้นย่อมทำให้คราบสกปรก ติดทนแน่นมากกว่าเช่นกัน  ข้อห้ามของการทำความสะอาดผ้าแคนวาสคือ ไม่ควรปล่อยคราบสกปรกไว้นานเกินไป จนทำให้คราบซึมเข้าเนื้อเกาะแน่นยากต่อการทำความสะอาด โดยเตรียมอุปกรณ์ดังนี้

1. อ่างใส่น้ำร้อนหรืออุ่น ( ขึ้นอยู่กับระยะเวลาการติดของคราบ )
2. น้ำยาทำความสะอาด
3. แปรงขนนุ่ม

เริ่มจากปลดเชือกและพื้นรองเท้าด้านในออกเพื่อทำความสะอาดแยก  จากนั้นใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นบิดหมาดเช็ดทำความสะอาดคราบสกปรกภายนอก ต่อด้วยหยดน้ำยาใส่แปรงในปริมาณพอเหมาะ จุ่มแปรงขัดลงในน้ำร้อนหรืออุ่นให้สะเด็ดน้ำก่อนลงมือขัดให้เกิดฟองให้ทั่วบริเวณมีคราบสกปรก  เมื่อขัดรอบแรกเสร็จควรใช้ผ้าสะอาด เช็ดฟองออกให้หมดเพื่อเช็คคราบสกปรกตกค้าง ถ้ายังมีอยู่ ก็ทำซ้ำขั้นตอนการขัดอีกครั้งจนแน่ใจว่าคราบหายไป แล้วนำไปตากในที่ร่ม ๆ อีกเช่นกัน  ข้อสำคัญคือไม่ควรจุ่มน้ำทั้งตัวรองเท้า เพราะคราบกาวต่าง ๆ อาจะร่อนออกมาทำให้รองเท้าเหลืองในทันที

3. Leather ( หนัง )

สนีกเกอร์จากวัสดุหนังคือรองเท้าที่ดูแลง่ายสุด แต่ก็ต้องการความประณีตในการดูแลมาก เนื่องจากในขั้นตอนการทำความสะอาดไม่สามารถใช้แปรงขัดได้เหมือนกับวัสดุผ้าก่อนหน้านี้ เพราะอาจทำให้เกิดริ้วรอยและการหลุดลอกของสีจากการขัดได้ ดังนั้นจึงมีวิธีเฉพาะโดยมีอุปกรณ์ดังนี้

1. ผ้าขนหนูเนื้อละเอียด 2 ผืน
2. น้ำยาทำความสะอาด
3. อ่างใส่น้ำอุ่น
4. แปรงขนนุ่ม

เริ่มจากปลดเชือกและถอดพื้นด้านในออก  ส่วนหนังให้ทำผ้าขนหนูสะอาดสวมนิ้วชี้กับนิ้วกลางในท่าถนัดขัด หยดน้ำยาทำความสะอาดลงบนปลายผ้า จากนั้นจุ่มลงในน้ำอุ่นเล็กน้อย ก่อนจะเริ่มเช็ดลงไปบนบริเวณที่มีคราบเปื้อน ถูเบา ๆ จนกว่าคราบสกปรกจะหายไป  นอกจากนี้บริเวณพื้นด้านข้างของรองเท้าซึ่งเป็นยางสามารถใช้แปรงหยดน้ำยา ชุบน้ำขัดได้แต่ต้องระวังไม่ให้โดนส่วนหนัง เมื่อสะอาดแล้วจึงนำไปผึ่งในร่ม

การทำความสะอาดเชือกและพื้นด้านในรองเท้า

1. เชือกรองเท้า หลังจากปลดออก วิธีทำความสะอาดคือ น้ำไปจุ่มในอ่างน้ำอุ่นที่เราใช้แปรงแช่น้ำลงไป น้ำยาซึ่งอยู่ในแปรงจะผสมอยู่ในน้ำ โดยนำเชือกลงไปแช่แล้วจึงขย้ำให้สิ่งสกปรกหลุดออก แต่หากคราบแน่นก็สามารถให้แปรงขนนุ่มขัดเบา ๆ ได้ จึงค่อยทำไปตาก

2. พื้นในรองเท้า ( Insole )  หลังจากถอดออกมา ให้ใช้ขั้นตอนเดียวกันกับการทำความสะอาดตัวรองเท้า คือใช้แปรงหยดน้ำยา ก่อนชุบน้ำและขัดอย่างระมัดระวัง เมื่อเสร็จแล้วค่อยทำไปตาก Insole ที่เป็นยางควรหลีกเลี่ยงแดดเพราะจะทำให้เสื่อมคุณภาพ หากเป็นผ้าให้ออกผึ่งแดดได้แต่ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดแรงเช่นกัน

การดูแลหลังทำความสะอาดและการรักษากลิ่น

รองเท้าซึ่งใส่ไปเล่นน้ำลุยโคลน สิ่งที่มักจะตามมาคือปัญหาความชื้นและกลิ่นอับ  มีสองวิธีสามารถช่วยปกป้องรองเท้าของเราจากสิ่งนี้ได้ อย่างแรกคือ สเปรย์กันน้ำ ( Waterproof Spray ) ต่อมาคือ ก้อนดับกลิ่น ( Deodorant blocks ) โดยมีขั้นตอนการใช้ดังต่อไปนี้

1. สเปรย์กันน้ำ ( Waterproof Spray )

หลังจากทำความสะอาดและตากจนแห้งแล้ว ก็มาถึงวิธีป้องกัน เริ่มจากร้อยเชือกกลับ จากนั้นนำไปวางในที่อากาศถ่ายเท เริ่มฉีดสเปรย์กันน้ำโดยระยะห่างเหมาะสมคือประมาน 20 เซนติเมตร  ให้ละอองสเปรย์กระจาย ครอบคลุมทั่วทั้งรองเท้า จากนั้นนำไปผึ่งลมให้แห้งก่อนสวมใส่อีกครั้งเพื่อให้สเปรย์เคลือบเกาะติดทนนาน

2. ก้อนดับกลิ่น ( Deodorant blocks )

หลังจากดูแลภายนอกด้วยสเปรย์ไปแล้ว ก็ควรมีก้อนดับกลิ่นเพื่อดูแลจากภายในด้วย วิธีการก็ง่ายแสน แค่โยนมันเข้าไปในรองเท้า และเก็บเข้าตู้ให้เรียบร้อย เป็นอันจบกรรมวิธี

( เสริม ) แช่น้ำก่อนซัก ,โยนลงเครื่อง วิธีการต้องห้ามที่ไม่ควรทำเป็นอันขาด

ด้วยคราบสกปรกสุดหฤโหด จนทำให้รู้สึกเกินปัญญาในการทำความสะอาดเมื่อแรกเห็น ทำให้หลายคนเลือกใช้วิธีการทำความสะอาดโดยการ นำไปแช่น้ำก่อนแล้วค่อยขัด หรือโยนลงเครื่องซักผ้าเลยจะได้ไม่ต้องเป็นภาระดูแล แต่ทราบหรือไม่ว่าวิธีเหล่านั้น กำลังลดอายุการใช้งานรองเท้าให้อยู่กับเราสั้นลง โดยมีสาเหตุดังนี้

หากเคยห่อลองเท้าเปียกด้วยกระดาษทิชชู จะพบว่ามีคราบสีเหลืองติดกระดาษมาเมื่อตากเสร็จแล้ว จริง ๆแล้วนั่นไม่ใช่สีของสิ่งปรก แต่เป็น “กาว “ ตามส่วนต่าง ๆ การที่เราแช่น้ำหรือซักในเครื่องจะทำให้รองเท้าโดนน้ำมากเกินความจำเป็น จนกาวหลุดร่อนละลายออกมากับน้ำ ทำให้กรอบและมีส่วนหลุดหรือแยกจากันก่อนจะฉีกขาดในเวลาต่อมา ดังนั้นทราบไว้เลยว่าการทำความสะอาดรองเท้าต่าง ๆ เปียกน้ำน้อยคือดีที่สุด จบครบแบบไม่ตัดตอน สำหรับทุกขั้นตอนในการคืนชีพรองเท้าคู่เก่งให้กลับมาจากความเลอะ หากเปรอะเปื้อนจากช่วงสงกรานต์  ซึ่งวันนี้ก็ต้องขอขอบคุณ คุณ พีค – ศุภกฤต ยศฟุ้งกุล Brand Manager ของ SEEK Thailand ที่ได้มาให้ความรู้ในการดูแลรักษาแบบถูกวิธี หลังจากก็ไม่จำเป็นต้องกลัวอีกต่อไปเชิญ เดิน วิ่ง ลุย สนุกไปให้สุดกับวันเปียก ๆ แล้วค่อยกลับมาดูแลลูกชายอย่างเอาใจใส่ภายหลังเสร็จศึกก็ยังไม่สาย

special thank

SEEK Thailand 


Viewing all articles
Browse latest Browse all 7738

Trending Articles