เคยตันบ้างมั้ย ?
แม้ว่าผู้ชายอย่างเราจะรู้สึกมั่นใจในการใช้ชีวิตและการทำงานมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามชั่วโมงบินบนโลกใบนี้ แต่เชื่อสิมันต้องมีวันที่เจอ ‘ทางตัน’ กันบ้าง
ทางตันในที่นี้ไม่ใช่การขับรถไปเจอกำแพงสุดซอย หรือไปเจอกับใครที่สร้างอุปสรรคให้เรา แหม่ ไอ้สองอย่างแรกคงหาทางออกได้ไม่ยาก แต่ไอ้ที่ยากที่สุดคือทางตันที่เกิดจากตัวเอง ที่มักทำให้เราสบถออกมาว่า “คิดไม่ออกโว้ย!” ไม่ว่าจะเป็นการคิดงานไม่ออก ในหัวมีแต่อะไรซ้ำซาก สมองล้าขึ้นทุกที หรือไม่ก็ไม่กล้าเสนอไอเดียใหม่ ๆ ที่แตกต่าง ถ้ารู้สึกว่าตัวเองเป็นแบบนี้ ถึงเวลาที่ต้องหาแรงบันดาลใจใหม่ ๆ มาช่วยปลดล็อกความคิดแล้วหละครับ
ที่จริงวิธีการสร้างแรงบันดาลใจและหามุมมองใหม่ ๆ นั้นทำได้ไม่ยาก โดยจากที่เราลองหาวิธีเอง และจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ก็พอจะสรุปได้ว่า เราควรจะอยู่ห่างจากเทคโนโลยีบ้าง แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคนที่ชอบอะไรเหมือนกัน ไม่ก็แหกกฎอะไรเดิม ๆ ออกไปอยู่ในสเปซที่เราไม่เคยไป หรือไปเยือนสถานที่ที่จะช่วยปลดล็อกความคิดและความกล้าที่จะแตกต่างของเราออกมา
จริง ๆ แล้วก็ไม่ต้องไปไหนไกลก็ได้ครับ เพราะในกรุงเทพฯ ก็มีที่เจ๋ง ๆ แบบนี้อยู่ ทีมงาน UNLOCKMEN จะพาไปเยือนสถานที่สุด unique เหล่านี้ด้วยกัน ด้วยการขับรถอเนกประสงค์ขนาด 7 ที่นั่งระดับพรีเมียมอย่าง CHEVROLET TRAILBLAZER Z71 ออกไปหาไอเดียใหม่ ๆ ด้วยการไปเยือน Lifestyle Destination ที่มีจุดเด่นที่แตกต่าง ตั้งแต่แนวความคิด คอนเซ็ปต์ของร้าน และเจ้าของร้านที่มีความกล้า มั่นใจในการสร้างธุรกิจที่มี
ก่อนจะออกตัวก็ต้องเช็กความพร้อมกันหน่อย การเดินทางในวันนี้จะได้ไม่สะดุด เริ่มจากที่นั่งก่อนเลย แต่ก็ไม่น่ากังวลเพราะเบาะโดยสารสามารถปรับเปลี่ยนจำนวนที่นั่งได้ตั้งแต่ 2-7 ที่นั่ง เกิดระหว่างทางต้องรับเพื่อน(สาว)ขึ้นมาเต็มคันก็ทำได้สบาย ๆ หรือถ้าต้องขนของเยอะก็สามารถปรับพับเบาะลงได้ไม่ยากเย็น อีกเรื่องหนึ่งคือลมยาง อันนี้หายห่วง ระบบตรวจวัดและแจ้งเตือนแรงดันลมยาง (Tire Pressure Measuring System) จะแจ้งเตือนทันที ที่พบแรงดันลมยางล้อใดล้อหนึ่งไม่เหมาะสม พร้อมแล้วลุยได้!
PAPAYA STUDIO
First destination ของเราในวันนี้คือ Papaya Studio ตั้งอยู่ในซอยลาดพร้าว 55/2 ที่นี่คือสวรรค์ของคนรักงานเฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งบ้าน งานศิลป์ rare item และของสะสมต่าง ๆ ที่ตั้งเรียงรายอยู่ในโกดังพื้นที่ราว 2 ไร่ ใครที่ชอบของเก่าสุดวินเทจต้องมา แค่เดินดูความเจ๋งของแต่ละชิ้นก็ทำให้ไอเดียกระฉูดจนแทบจะหาที่จดไม่ทัน ที่สำคัญสตูดิโอแห่งนี้ยังโด่งดังไปทั่วโลกอีกด้วย
คุณสุพจน์ ศิริพรเลิศกุล ผู้ก่อตั้ง Papaya Studio เล่าให้ฟังว่า “ผมมีความสุขกับการหาของ น้อยมากที่จะเจอของซ้ำกัน ความกล้าที่จะแตกต่างมันก็เริ่มจากความรักในสิ่งที่ทำนี่หละครับ ผมรู้สึกอยากตื่นมาทำงานที่ร้านทุกวัน ตลอด 30 ปีที่ผ่านมาผมไม่ได้คิดว่าจะต้องเอาเงินที่ได้จากธุรกิจออกมาใช้จ่ายมากนัก แต่นำมาเป็นทุนในการเติมของเรื่อย ๆ เป็นงานที่ต้องทำแบบใจรัก และมันไม่ง่ายเลย ต้องจัด ต้องทำความสะอาดทุกชิ้น จึงไม่มีคู่แข่งที่ทำแบบนี้”
“เป้าหมายของผมคือการให้ธุรกิจอยู่รอดและยังได้ทำสิ่งที่รักด้วย เคยมีความคิดที่ว่าร้านนี้ควรจะมีพื้นที่สัก 20,000 ตารางเมตรเพื่อจะได้มีที่เก็บของให้มากขึ้น รู้สึกดีครับที่ร้านนี้ให้ความสุขตื่นเต้นกับผู้คนที่มาเยือน บางคนมาอยู่ได้เป็นวันเลยครับ”
แค่มาที่แรกเราก็รู้สึกมีแรงบันดาลใจขึ้นมาตั้งแต่หัววัน ทั้งกองทัพเฟอร์นิเจอร์เรโทรที่เปี่ยมเสน่ห์ ของตกแต่งต่าง ๆ ที่หายาก ภาชนะต่าง ๆ ที่สร้างความแตกต่างอย่างมีศิลปะให้กับสเปซ รวมถึงของใช้เก่าแก่ที่มีอายุมากกว่าพวกเราเสียอีก ที่สำคัญ ทุกชิ้นได้ใส่จิตวิญญาณ ความสุขและความกล้าที่จะแตกต่างของผู้ก่อตั้งเอาไว้ ทำให้เราได้แรงบันดาลใจและไอเดียใหม่ ๆ มากมายที่นี่
การเดินทาง: หากมาจากแยกรัชดาลาดพร้าว ขับรถฟังเพลงเพลิน ๆ กับระบบสื่อสารและความบันเทิงภายในรถแบบ CHEVROLET MYLINK เลยแยกโชคชัย 4 มาเล็กน้อยแล้วชิดซ้าย จะเห็นซอยลาดพร้าว 55/2 อยู่ทางซ้ายมือ เลี้ยวเข้าไปแล้วขับตรงไปจนถึงสามแยกแรก Papaya Studio จะอยู่ทางซ้ายมือ เปิดให้ทุกคนมาชมทุกวันตั้งแต่ 9 โมงเช้าถึงทุ่มตรง
หลังจากเยือนที่แรกไปแล้ว ก็ได้เวลาควบขุมกำลังเครื่องยนต์ดูราแมกซ์ ดีเซล คอมมอนเรล ไดเรคอินเจคชั่น 2.5 ลิตร เทอร์โบ 180 แรงม้าไปทานมื้อเที่ยงกันหน่อย แม้จะแรงลุยได้ขนาดนี้ แต่ความปลอดภัยก็ยังมาเป็นที่หนึ่ง บางทีเราอาจเปลี่ยนเลนโดยไม่เห็นรถคันอื่นเนื่องจากอยู่ในจุดอับสายตาก็ได้ ปัญหานี้ถูกแก้ด้วยระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตา (Side Blind Zone Alert) ซึ่งเมื่อเราเปิดไฟเลี้ยวเปลี่ยนช่องทาง เรดาร์จะตรวจจับยานพาหนะในบริเวณจุดอับสายตา หากตรวจพบสัญญาณไฟแบบ LED บนกระจกมองข้างจะกะพริบโดยอัตโนมัติ
นอกจากนี้ยังมีระบบแจ้งเตือนรอบคันทั้งระบบแจ้งเตือนการชนด้านหน้า (Forward Collision Alert) , ระบบช่วยเตือน เมื่อขับขี่รถออกนอกช่องจราจร (Lane Departure Warning) และระบบช่วยเตือนการจราจรที่ด้านหลังขณะถอยรถ (Rear Cross Traffic Alert) ที่ทำให้เราเบาใจในการขับขี่ในวันนี้ เอาหละ ในที่สุดเราก็ถึงที่หมายอีกที่ที่เราจะฝากท้อง แน่นอนว่าจะต้องไม่ธรรมดา
SUSHI NIWA
หลายคนอาจจะเคยทานอาหารญี่ปุ่นแบบ Omakase มาแล้วหลายร้าน แต่เราแนะนำว่า Sushi Niwa คือร้านที่กล้าจะแตกต่างอย่างไม่เหมือนใคร ร้านนี้ตั้งอยู่ในซอยร่วมฤดี 2 ใจกลางเมือง มีทั้งโซนร้านอาหารและบาร์ ซึ่งในโซนซูชิบาร์จะมีที่นั่งทั้งหมด 12 ที่นั่ง บริเวณโต๊ะสีขาวจะเป็นพื่นที่ให้ยิงภาพอนิเมชั่นลวดลายเรื่องราวต่าง ๆ ส่วนเรื่องอาหารมั่นใจได้เลยว่าคุณจะได้รับประทานซูชิที่มีวัตถุดิบชั้นยอดจากทั่วโลกปั้นจากมือเชฟมากประสบการณ์
คุณบอนด์ – ธีรพัฒน์ เลิศสิริประภา เจ้าของร้าน Sushi Niwa เล่าให้เราฟังว่า “ด้วยความที่ผมเป็นคนที่ชอบทานอาหารญี่ปุ่นแบบ Omakase เป็นชีวิตจิตใจ แล้วได้ไปเที่ยวที่ประเทศฝรั่งเศส ไปเจอร้านอาหารแห่งหนึ่งที่มีการฉายอนิเมชั่นลงบนโต๊ะอาหารเลยเกิดเป็นแรงบันดาลใจที่จะทำร้านอาหารญี่ปุ่นแบบ Omakase แบบพรีเมียมที่นอกจากผมจะให้ความสำคัญกับวัตถุดิบและฝีมือของเชฟแล้ว ผมยังอยากสร้างความแตกต่างด้วยการฉายอนิเมชั่นลงบนโต๊ะอาหารที่ไปเจอมา ก็เลยนำมาพัฒนาต่อร่วมกับทีมที่มีความสามารถในด้านนี้จนกลายเป็น Interactive Multimedia ซึ่งสามารถเล่นกับภาพที่ถูกฉายลงมาด้วย อีกหนึ่งส่วนสำคัญคือเรื่องของการดีไซน์ ผมเลยอยากให้ที่นี่มันพิเศษและแตกต่าง จึงเลือกที่จะใช้หินอ่อนสีขาวเพื่อเพิ่มความ Luxury และ Modern ขณะเดียวกันก็ยังคงกลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่นไว้ด้วย”
“ผมมีความเชื่อว่าถ้าเราอยากจะโดดเด่นเราต้องรู้จักที่จะแตกต่าง แตกต่างในที่นี้กับธุรกิจมันคือการกล้าคิดและทำอะไรใหม่ ๆ ที่ท้าทายขึ้น แรก ๆ ผมก็กดดันนะ แต่ผมเพิ่มความพิเศษด้วยการใส่ความ Creativity ในการ Presentation ซึ่งก็คืออาหารตา เพราะคนสมัยนี้ไม่ได้ทานอาหารเพียงเพราะความอร่อย แต่เขาต้องการประสบการณ์ใหม่ ๆ ด้วย ช่วงแรก ๆ ก็มีปัญหาเรื่องการรับจอง เวลาในแต่ละรอบที่มันมีผลต่อการเดินทางของลูกค้า ซึ่งเราก็ต้องทำความเข้าใจ และค่อย ๆ ปรับกันไปทีละจุด อีกส่วนสำคัญคือเรื่องของรสชาติอาหาร ผมกับเชฟต้องทำการบ้านหนัก เพื่อพัฒนาให้ทุก ๆ เมนูที่เสิร์ฟออกไปนั้นดีมากและพิเศษอยู่เสมอ ส่วนเรื่องอนาคต ด้วยความที่ผมไม่ได้มีแค่ร้าน Sushi Niwa เพียงร้านเดียว แต่ยังมีร้านอาหารอื่น ๆ ในเครืออีก เลยมีความตั้งใจที่จะพัฒนาและขยายให้เป็นกลุ่มที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับอาหารแบบครบวงจรครับ”
สำหรับเมนูซูชิบางส่วนที่เชฟบรรจงให้เราทานในวันนี้ก็มี Chutoro เนื้อ Bluefin tuna ส่วนท้องที่มีความันปานกลางชุ่มลิ้นแทบละลายในปาก อีกคำหนึ่งเป็น Akamisuke เนื้อ Bluefin tuna ส่วนคอที่ dry aging ไว้นาน 4 วัน หมักกับโชยุสูตรพิเศษจากทางร้านแต้มด้วยมัสตาร์ดไว้ที่ด้านบน ส่วนอีกคำที่ต้องขอพูดถึงก็คือ Uni พันธุ์บาฟุนจากฮอกไกโด โอ้โห หวาน หอม นุ่ม ชุ่มลิ้น
แทบจะบอกได้ว่านี่คือการกินซูชิที่อร่อยและแตกต่างที่สุดครั้งหนึ่งก็ว่าได้ แต่ถ้าใครอยากมาที่ร้านนี้ต้องโทรจองล่วงหน้า 1 วันที่เบอร์ 06-3456-5656 เปิดบริการวันอังคาร-ศุกร์ รอบเวลา 17. 30 น. และ 20.30 น. / เสาร์-อาทิตย์ รอบเวลา 12.00 น. 17.30น. และ 20.30น ส่วนราคาคอร์สอยู่ที่ 12 คำ 4,900+ /16 คำ 6,500+ คุ้มสุด ๆ
การเดินทาง: พอเข้ามาในซอยร่วมฤดี 2 ประมาณ 50 เมตร ให้ดูทางซ้ายมือจะเจอร้านตั้งอยู่เลขที่ 39/5 มี่ที่จอดรถรองรับเรียบร้อย แต่ร้านนี้ลูกค้ามาตลอด อาจต้องใช้ทักษะในการถอยกันหน่อย แต่ด้วยตัวช่วยอย่างกล้องแสดงภาพด้านหลังขณะถอยรถ (Rear Vision Camera) ของคันนี้ ก็ทำให้เราสบายขึ้นเยอะ
DUKE
ตกเย็นก็ต้องมาเสพศิลป์ละเมียดกลิ่น cigar สร้างแรงบันดาลใจใหม่ ๆ กันหน่อยที่ DUKE Contemporary Art Space พื้นที่สร้างสรรค์ใจกลางเมืองย่านราชประสงค์ จุดนัดพบของผู้ที่ชื่นชอบงานศิลป์ท่ามกลางบรรยากาศของห้องจัดแสดงผลงานศิลปะขนาดใหญ่ ซึ่งเราชื่นชอบที่นี่เพราะความเท่ที่แตกต่าง ได้อารมณ์ man cave ที่เราต้องมาเสพความสุนทรี
ดร. อัฐวุฒิ ปภังกร Co-Founder แห่ง DUKE Contemporary Art Space บอกกับเราว่า “จากการที่ชอบงานศิลปะและชอบสะสมรูปภาพเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ผมจึงอยากมีสถานที่เอาไว้จัดแสดงผลงานศิลปะให้กับศิลปินคลื่นลูกใหม่ อีกทั้งยังเป็นคนชอบสังสรรค์เฮฮาจึงผสมผสานระหว่าง Cigar Lounge กับ Art Gallery เข้าไว้ด้วยกัน มันต้องใช้ความกล้านำเสนอสิ่งที่รักออกมาอย่างมีเอกลักษณ์ที่แตกต่าง กล้าที่จะมองว่าต้องทำให้ธุรกิจมันอยู่ได้โดยเอาความสนุกเป็นที่ตั้งไม่ใช่ผลกำไรมาก่อน จึงชวนศิลปินหลาย ๆ คนมาร่วมสนุกกัน บางครั้งถ้ามองด้านตัวเลขอย่างเดียวอาจจะสะท้อนถึงผลกำไรไม่ได้ แต่ถ้ามองถึงส่วนอื่นที่ตัวเงินไม่สามารถนำมาวัดได้เราก็จะสามารถกล้าทำในสิ่งที่ไกลเกินกว่านั้นได้”
“อยากให้เกิดสังคมที่มีคนรู้จักกันอยู่ด้วยกันช่วยเหลือกันชอบเหมือนกันเป็นที่สังสรรค์พักผ่อนแลกเปลี่ยนทัศนคติเปรียบเสมือนครอบครัวและอยากให้ Duke เป็นบ้านของทุก ๆ คน”
การเดินทาง: ตั้งอยู่ที่ชั้น 1 ของ Gaysorn Village ใกล้กับแยกราชประสงค์ จะให้ดีพาเพื่อนไปกันเยอะ ๆ เลย อย่าลืมว่า CHEVROLET TRAILBLAZER Z71 มาดเท่ดุดันคันนี้ใจกว้างพอสำหรับ 7 คน
ทั้ง 3 ที่ที่เราได้ขับรถ CHEVROLET TRAILBLAZER Z71 ไปเยือนในวันนี้ช่วยสร้างแรงบันดาลใจในการปลดล็อกความกล้าที่จะแตกต่างออกมา อย่างน้อยก็มีแบบอย่างให้เห็นว่าการทำสิ่งที่รักและเต็มที่กับมันก็ส่งผลให้กลายเป็นความยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้ ไม่ใช่แค่กับตัวเองเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นการ sharing สิ่งดี ๆ สู่สังคมอีกด้วย
ส่วนยานพาหนะเท่ ๆ คันนี้ที่พาเราออกไปเติมพลังใจนั้น ต้องบอกว่ามีฟีเจอร์และฟังก์ชั่นที่ครบถ้วนเกินคุ้ม พิถีพิถันทั้งภายนอกและภายใน เหมาะกับผู้ชายที่เต็มที่กับชีวิตในทุกด้านที่ใครก็ตามไม่ทัน และเข้ากันได้ดีกับผู้ชายอย่างเราซึ่งไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
CHEVROLET TRAILBLAZER Z71: http://www.chevrolet.co.th/ cars/trailblazer/model- overview.html
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.facebook.com/ChevyClub