คุณสมบัติเฉพาะของบุคคลที่จะประสบความสำเร็จได้ที่มักจะมีอยู่ในตัวเหมือนๆ กันแทบจะทุกคนบนโลกใบนี้ก็คือ มีจรรยาบรรณในการทำงาน มีความฉลาด มีความตั้งใจ และมีความกล้า ซึ่งความกล้าในที่นี้ หมายถึง มีความกล้าที่จะทดลองในสิ่งใหม่ๆ และคิดนอกกรอบจากสิ่งเดิมๆ และกล้าที่จะแตกต่าจากคนอื่นๆ ที่ยังคงวนเวียนอยู่แค่ในกรอบเดิมๆ เพราะคนส่วนใหญ่มักกลัวการที่จะเริ่มต้นใหม่เพราะต้องสิ่งที่ตัวเองไม่สามารถคาดเดาได้ และอีกสิ่งนึงที่มักจะเป็นอุปสรรคในการจะก้าวไปสู่ความสำเร็จ ก็คือกลัวที่ต้องเจอกับความล้มเหลว กลัวที่จะต้องผิดหวัง ซึ่งจริงๆ แล้วก็เป็นเรื่องปกติของมนุษย์ ที่มักจะเลือกสิ่งที่คุ้นชิน และรู้สึกปลอดภัยก่อนเป็นอันดับแรกเสมอ แต่ก็คนบางประเภท ซึ่งก็คือคนที่เรากำลังจะพูดถึง เพราะคนเหล่านี้มีความคิดที่แตกต่างออกไป พวกเค้าพยามที่จะริเริ่มอะไรใหม่ๆ ตลอดเวลา ซึ่งทุกคนในปัจจุบันนี้เรียกได้ว่าเป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จในระดับท็อปๆ ของโลกทั้งนั้น แต่ก่อนที่พวกเค้าจะมาถึงจุดนี้ได้ พวกเค้าก็เคยพบกับความล้มเหลวมาแล้วทั้งนั้น แถมในบางคนไม่ใช่แค่เพียงแค่ครั้งเดียว เรามาดูกันว่าเค้าต้องเจอกับอะไร และอะไรที่เป็นแรงผลักดันพวกเค้าเหล่านี้ผ่านพ้นช่วงเวลาแห่งความล้มเหลว จนไปเจอกับความสำเร็จยิ่งใหญ่ ลองคิดดูเล่นๆ สิว่า พวกเค้าคงต้องเสียดายขนาดไหน ถ้าในวันนั้นพวกเค้าถอดใจไปซะก่อนที่จะมีวันนี้
1.Donald Trump
แม้ว่าในตอนนี้จะมีทรัพย์สินเกินกว่า 3,500 ล้านดอลลาร์ แต่ก่อนหน้านี้ Donald Trump ถูกขึ้นบันชีให้เป็นบุคคลล้มละลายอยู่หลายครั้ง ก่อนที่เค้าจะมีทุกอย่างในปัจจุบัน การลงทุนกับธุรกิจ Casino ที่ถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่กำหนด สุดท้ายก็ไม่สามารถทำให้มันเกิดขึ้นตามแผนที่วางไว้ได้ และอีกหลายๆ ธุรกิจก็ยังต้องมาพร้อมใจกันเจ๊ง แต่เค้าไม่เคยยอมแพ้ตราบใดที่เค้ายังมีลมหายใจ เค้าเชื่อว่าทุกอย่างเป็นได้เสมอ จนวันนี้เค้ากลายเป็นสัญลักษ์ของผู้เชี่ยวชาญในด้านอสังหาริมทรัพย์ และไม่แน่ในอนาคตเราอาจจะได้เห็นเค้าในตำแหน่งผู้นำประเทศก็ได้ เพราะคำพูดที่ว่า อะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้น ที่แม้ในขณะที่ล้มละลายเค้าเคยเป็นหนี้ติดลบอยู่ทั้งสิ้น 900 ล้านดอลลาร์ ยังกลับกลายมาเป็นมีเงินบวกได้ถึง 3,500 ล้านดอลลาร์ ธรรมดาที่ไหนกันล่ะแบบนี้
2.Walt Disney
เค้าคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสุขของเด็กทุกคนบนโลกใบนี้ แต่ชีวิตวัยเด็กของเค้าเองกลับไม่ได้มีความสุขเหมือนกับสิ่งที่เค้าสร้างมันขึ้นมาให้กับคนอื่นเลยแม้แต่น้อย เพราะเค้าต้องออกจากโรงเรียนตั้งแต่ตอนมัธยม ต่อมาเมื่อทำงานที่บริษัทหนังสือพิมพ์ก็ถูกเค้าไล่ออกอย่างไร้เยื่อใยกับเหตุผลสุดงี่เง่าว่า “คุณเป็นคนไม่มีจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ในการทำงาน” เค้าจึงออกมาทำธุรกิจของตัวเอง แต่ก็ต้องหงายหลังพังอีกรอบ จนกลายเป็นบุคคลล้มละลายแบบเต็มตัว แต่สุดท้ายเค้าก็ได้นำจุดที่คนเคยว่าเค้าว่าเป็นคนไร้จินตนาการ มาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างโลกแห่งจินตนารการขึ้นมาจนโด่งดัง และเป็นที่รู้จักกันในชื่อของเค้าเอง Walt Disney ให้คนทั้งโลกได้เห็น
3.Stephen King
นักเขียนนิยายสยองขวัญผู้โด่งดังคนนี้ มีชีวิตที่น่าเศร้าตั้งแต่ยังเด็ก โดยเค้าถูกเลี้ยงดูโดยแม่เพียงลำพัง อีกทั้งยังต้องประสบอุบัติเหตุรุนแรงจากการถูกหินหล่นทับเท้า จนกระดูกเท้าของเค้าทั้งหมดแหลกละเอียด และต้องพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลเป็นระยะเวลานาน แต่ช่วงนั้นเองที่เค้าได้เริ่มเขียนจากการใช้เวลาว่างในการพักรักษาตัวให้เป็นประโยชน์ เค้าเคยต้องเช่ารถพ่วงเพื่อทำเป็นที่ซุกหัวนอน ซึ่งในช่วงเวลานั้นเค้าก็ได้นำผลงานของเค้าไปเสนอในที่ต่างๆ ไปด้วย ถึง 30 ที่ แต่ก็ไม่มีที่ไหนเลย ที่มองเห็นคุณค่าในงานเขียนของเค้า มีเพียงภรรยาของเค้าเท่านั้นที่ยังคงสนับสนุนให้เค้าเขียนหนังสือต่อไป จนสุดท้ายมีฟ้ามีตา มีคนขอซื้อต้นฉบับเค้าไปด้วยราคาสูงถึง 4 ล้านดอลลาร์ ทำให้ Stephen King เปิดตัวอย่างในสายอาชีพนี้อย่างเป็นทางการ และเป็นที่ฮือฮาอย่างมากในวงการนักเขียน ทุกวันนี้เค้าถูกจัดให้ติดอันดับนักเขียนที่ร่ำรวยที่สุดในโลกเป็นที่เรียบร้อย ด้วยความขยัน และคือสิ่งที่เค้าไม่เคยลืมว่าเค้าเคยลำบากขนาดไหนมาก่อน ซึ่งเป็นนั่นเป็นบทเรียนที่ทำให้เค้ามีทุกวันนี้
4.Ray Kroc
หลายคนคงงง และไม่คุ้นกับชื่อของเค้าเท่าไหร่ แต่รับประกันได้ว่าคุณต้องเคยซื้ออาหารแฟรนไชส์ ของเค้ามาทานแน่นอน ชื่อของร้านอาหารแฟรนไชส์ของเค้าก็คือ McDonald’s นั่นเอง ขณะที่เด็กหนุ่มคนนึงที่เป็นนักดนตรี แจ๊ส หาเงินโดยการเล่นเปียโนแลกทิป สุดท้ายแล้วในแก้วทิปก็มีแต่ความว่างเปล่า สิ่งที่เค้าพบเจอทำให้เค้าไม่หลงเหลือความเชื่อมั่นในตัวเองอีกต่อไป อย่างไรก็ตามนายจ้างผู้ใจดีก็ยังเสนอโอกาสให้เค้าอีกครั้งนึง และเค้าก็รับมันเอาไว้อย่างไม่ลังเล มันงานขายขาย เครื่องปั่น มิ้ลเชค ซึ่งเป็นที่ที่ Ray Kroc ได้เรียนรู้ประสบการณ์ และความเชื่อมั่นที่จำเป็นเพื่อให้ตัวเองประสบความสำเร็จ เค้านำเงินทั้งหมดที่เก็บสะสมมาได้ ลงทุนซื้อลิขสิทธิ แฟรนไชส์ McDonald แล้วเริ่มค่อยๆ ขยายการซื้อจนครอบคลุมไปทุกเมืองในที่สุด นาย Ray Kroc มีทรัพย์สินมูลค่าคร่าวๆ อยู่ประมาณ 500 ล้านดอลลาร์
5.Bill Gates
คงมีใครไม่รู้จักชายผู้นี้ Bill Gates สิ่งที่เค้ามีอยู่ในทุกวันนี้ไม่ได้ง่ายๆ เพราะหลังจากที่เขาตัดสินใจลาออกจากมหาวิทยาลัยระดับแนวหน้าอย่างฮาร์วาร์ด Bill Gates และเพื่อนได้คิดผลงานที่ชื่อ Traf-O-Data ขึ้นมาแต่ก็ต้องเจ๊งไปตามระเบียบ แต่ส่ิงที่ทำให้เค้าประสบความสำเร็จได้อย่างในทุกวันนี้คือ เค้าไม่เคยหยุดนิ่ง เพียงเพราะก้าวแรกที่ล้มลง จนเค้าสามารถคิดค้นออกแบบผลงานชิ้นอมตะของโลกที่มีชื่อว่า Microsoft ขึ้นมาสำเร็จ ซึ่งไม่ว่าใครมุมไหนบนโลกนี้ล้วนแล้วแต่ต้องเคยใช้งานผลงานของเค้ากันทั้งนั้น
6.Michael Jordan
หนึ่งในผู้เล่นบาสเกตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่โลกนี้เคยมีมา Micheal Jordan ไม่ได้มีส่วนสูง 6ฟุต 6นิ้ว ตั้งแต่เด็ก แต่สิ่งที่น่าประทับใจก็คือ ความสูงที่สู้คนอื่นไม่ได้ในสมัยที่เค้ายังเรียนอยู่ที่โรงเรียนมัธยม ทำให้เขาถูกปฏิเสธที่อยู่ได้อยู่ในทีมบาสเกตบอลของโรงเรียน มันทำให้เค้าต้องขังตัวเองในห้องนอน และร้องไห้อยู่คนเดียว แต่อย่างไรก็ตามเค้าก็ยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจ และหมดความหวังที่จะเป็นนักกีฬาบาสเก็ตบอล เมื่อร่างกายเติบโตขึ้นส่วนสูงก็พัฒนาจนเข้าเกณฑ์ที่ชมรมตั้งไว้ เค้าก็เริ่มต้นสร้างความประทับใจให้ทุกคนในทีมทันที ด้วยความมุ่งมันในฝึกซ้อม บวกกับความสามารถ และทักษะในการเล่นเป็นทีมทักษะของเค้า จากเด็กที่ถูกมองข้ามกลายเป็นเจ้าของเหรีญทองบาสเก็ตบอลในการแข่งขันโอลิมปิก 2 สมัย ได้รับเหรียญทอง Pan Am Games และ 6 ครั้งในรางวัลผู้เล่น MVP ของ NBA และ 6 ครั้งสำหรับการเป็นแชมป์ NBA จากเด็กที่ถูกมองข้ามได้กลายเป็นชายที่มีมูลค่าถึง 650 ล้านดอลลาร์ โดยมีรายได้ 80 ล้านดอลลาร์ต่อปี
7.Harland Sanders
มีใครบ้างที่ไม่ชอบไก่ทอดที่คลุกเคล้ากับเครื่องเทศ และสมุนไพร 11 ชนิด สูตรเฉพาะของ ผู้พัน Sanders บ้าง แต่ที่แน่ๆ มีร้านค้าจำนวน 1,009 ร้าน ที่เคยปฎิเสธสูตรการทำไก่ทอดนี้ที่ Harland Sanders พยายามขายมันให้กับร้านค้าเหล่านี้ ก่อนที่เค้าจะตัดสินใจทำมันด้วยตนเองจนประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้น KFC ขยายไปในหลายประเทศทั่วโลก และสามารถทำรายได้ถึง 150,000 ดอลลาร์ต่อปี ทำให้ Harland Sanders กลายเป็นคนขายไก่ที่รวยที่สุดในโลกในขณะนั้น
8.Milton Hershey
แบรนด์ช็อคโกแลต และขนม ที่ชื่อว่า Hershey คือสิ่งที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก แต่คนที่เริ่มต้น และลงมือทำมันทั้งหมดขึ้นมาในตอนแรกนั้น ต้องเจอกับรสชาติที่ขมขื่นตรงข้ามกับรสชาติของช็อคโกแลตที่เค้าทำอย่างสิ้นเชิง เค้าอาศัยอยู่ในฟาร์ม แถมยังเป็นลูกคนเดียวของครอบครัวอีกด้วย เค้าลาออกจากโรงเรียนด้วยวัยเพียง 14 ปี เพราะพ่อแม่ของเค้าต้องย้ายที่อยู่บ่อยครั้ง ครั้งนึงเค้าเคยทำหน้าที่เป็นเด็กฝึกหัดของโรงพิมพ์ แต่การทำงานเป็นเวลานานๆ มันทั้งเหนื่อย ทั้งน่าเบื่อ ทำให้เค้าไม่มีความสุขกับชีวิตแม้แต่น้อย หลังจากนั้นเค้าก็เกิดไอเดียที่จะทำลูกอมขาย และก็ต้องพบว่าความพยายามครั้งแรกของเค้าในการทำธุรกิจกับขนมของตัวเองล้มเหลวเนื่องจากการขาดการวางแผนในการขายที่ดี แต่เค้าก็พยายามอีกครั้ง เมื่อเค้าได้ไปพบกับเครื่องจักรจากประเทศเยอรมัน ที่สามารถผลิตช็อคโกแลตได้ทีละจำนวนมาก ด้วยความอยากได้แม้จะไม่มีเงินมากพอจะซื้อทั้งหมด เค้าจึงทำการซื้อเครื่องมาเพียงแค่บางส่วน และนำมาต่อยอมด้วยความคิดของเค้าเอง จนประสบความสำเร็จในที่สุด
9.Harrison Ford
ไม่น่าเชื่อว่านักแสดงชื่อดังอย่าง Harrison Ford เอง ก็ยังเคยโดนผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์พูดจาดูถูกเหยีดหยามแบบสุดๆ ว่า “Harrison Ford ไม่มีทางกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ดังได้” แต่แล้วผลงานที่ปรากฏให้เห็นอยู่ทุกวันนี้ ไม่ว่าจะบทบาท ฮัน โซโล จากภาพยนตร์สตาร์ วอร์ส หรืออินเดียน่า โจนส์ ก็ส่งให้ Harrison Ford กลายเป็นที่รู้จัก และมีแฟนๆ ที่คอยติดตามชมฝีไม้ลายมือการแสดงของเค้าอยากล้นหลาม
10.Elvis Presley
ไม่มีใครไม่รู้จัก Elvis Presley ถึงแม้เค้าจากโลกไปนานแล้วก็ตาม แต่ก็ยังคงมีแฟนเพลง และคนที่ยังคงพูดถึงเค้าอยู่ตลอดมา ไม่ว่าจะเป็นยุคไหน Elvis Presley ยังได้ว่าชื่อเป็นหนึ่งในนักร้องที่มียอดขายดีที่สุดตลอดกาล แต่คุณรู้หรือไม่ว่า ถ้าหากย้อนกลับไปในปี 1954 Elvis Presley ยังเป็นชื่อที่ไม่มีใครบนโลกนี้รู้จัก และยังเคยโดน จิมมี่ เดนนี่ ผู้จัดการของรายการ Grand Ole Opry ไล่มาแล้ว หลังจากเค้าทำการแสดงไปได้แค่เพลงเดียว แถมยังพูดจากถากถางอีกว่า “คุณไปไหนไม่ได้ไกลหรอก ถ้ามีฝีมือแค่นี้ ผมว่าคุณกลับไปขับรถบรรทุกดีกว่าไป๊” แต่หารู้ไม่ว่าคนที่เค้าไล่ไปขับรถบรรทุกในวันนั้นคือ “ราชาร็อกแอนด์โรล” อันดับหนึ่งของโลกจนมาถึงทุกวันนี้
พวกเค้าทั้งหมดนี้เป็นแบบอย่างที่ดี ที่คุณสามารถเรียนรู้ได้จากเรื่องราวทั้งหมดที่พวกเค้าเคยผ่านมา เส้นทางอาจจะไม่ราบเรียบ แต่ก็ไม่มีสิ่งใดในโลกนี้ที่ได้มาง่ายๆ เช่นกัน คุณแค่ต้องทำต่อไป เชื่อในความคิดของตัวเอง กล้าที่จะหาความท้าทายใหม่ๆ และอย่ารอโอกาสวิ่งเข้าหาคุณ เพราะโอกาสมันมักลอยไปลอยมา อยากมากก็แค่ผ่านไปตรงหน้า แต่มันจะไม่วิ่งเข้าหาคุณแน่ๆ คุณเองต่างหากที่ต้องเอื้อมมือไปคว้าโอกาสไว้ให้ได้ ในเวลาที่มันผ่านมา