วันที่ 14 กุมภาพันธ์ของทุกปี คือวันวาเลนไทน์ เป็นวันที่ทุกคนจะส่งความสุข และมอบความรักให้แก่กัน และแน่นอนว่าชาว UNLCOKMEN ทุกท่านคงจะทราบประวัติความเป็นมาของวันนี้มาพอสมควรแล้ว ว่าวันวาเลนไทน์ เป็นวัฒนธรรมที่มาจากชาวตะวันตก ซึ่งวันแห่งความรักนี้ไม่ได้ถูกจัดให้เป็นวันหยุดทางราชการในประเทศใดๆ ทั่วโลก เพียงแต่วันวาเลนไทน์ถูกกำหนดขึ้นเป็นธรรมเนียมเฉลิมฉลองยกย่องเกียรติให้แด่นักบุญท่านหนึ่งที่ได้เสียสละตัวเองให้กับความรักจนถึงแก่ความตาย เป็นเวลามากกว่า 1,738 ปี
ก่อนที่ในยุคกลางชาวอังกฤษ และฝรั่งเศสจะได้นำวันเรื่องราวของนักบุญท่านนี้มาเป็นธรรมเนียมปฎิบัติในการแสดงออกถึงความรักต่อ ชายหนุ่ม หญิงสาวที่ตัวเองปรารถนา จนมาวัฒนธรรมแผ่กระจายไปทั่วโลกถึงทุกวันนี้ แต่เนื่องจากโลกของเรานี้กว้างใหญ่ไพศาลอย่างมาก ต่อให้เป็นเรื่องเดียวกันแต่การสื่อสารที่ถูกส่งไปยังพื้นที่อื่นๆ บางครั้ง อาจทำให้ข้อมูลเรื่องราวมีการปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับวัฒนธรรมในแต่ละประเทศ ดังนั้นวันนี้ทีมงาน UNLOCKMEN ได้นำการฉลองเทศกาลวันวาเลนไทน์แปลกๆ จากทั่วโลกมาฝากกัน
SOUTH KOREA
ในประเทศเกาหลีใต้มีวัฒนธรรมที่เรียกว่า one of 12 Love Days หรือสิบสองวันแห่งความรัก ซึ่งมันจะตรงกับวันที่ 14 ของทุกเดือนทำให้วันวาเลนไทน์เป็นหนึ่งในนั่น และธรรมเนียมของที่นี่คือ ผู้หญิงจะต้องให้ของขวัญแก่ผู้ชาย และหากผู้ชายคนดังกล่าวมีใจ ก็ต้องส่งของกลับใน White Day นั่นคือหนึ่งเดือนให้หลังจากนั้น แต่ถ้าหากฝ่ายหญิงไม่ได้รับของกลับพวกเธอจะต้องฉลองวัน White Day ด้วยการกินบะหมี่ดำ เพื่อเหมือนเป็นการตอกย้ำประชดประชันในความโสดของตัวเอง
SCANDINAVIA
ในประเทศโซนสแกนดิเนเวีย อาทิ เดนมาร์ก และนอร์เวย์ ในวันแห่งความรักผู้ชายจะต้องส่งจดหมายบทกวีไปให้หญิงสาวที่ตนเองหลงรัก แต่มีข้อแม้ว่าเขาจะต้องห้ามใส่ชื่อตัวเองลงไป โดยใช้การใส่อักษรใบ้หนึ่งตัว และที่เหลือทิ้งเป็น dot ไว้ และหากฝ่ายหญิงทายได้ถูก ผู้ชายจะต้องนำไข่ไปให้พวกเธอในวัน Easter แต่หากทายผิดฝ่ายหญิงจะต้องเป็นหนี้ติดค้างไข่ไก่แก่ผู้ชายในวัน Easter เช่นกัน
ITALY
ถ้าคุณมีโอกาสได้ไปฉลองที่เมืองโรม ประเทศอิตาลี ซึ่งเป็นต้นกำเนิดตำนานเรื่องราวความรักในวันวาเลนไทน์ ทุกคู่รักจะต้องเดินทางเพื่อไปสักการะหัวกระโหลกของนักบุญ Saint Valentine เพื่อเป็นการขอบคุณท่านที่อุทิศตัวเองทำให้โลกนี้เกิดเป็นวัฒนธรรม และธรรมเนียมที่ยิ่งใหญ่ คือวันแห่งความรักนี้
Brazil
แบบนี้ก็ได้หรอ ! หากคุณเดินเข้าช่วงรถด่วนขบวนสุดท้ายแล้วอยากจะแต่งงานมีความรักแบบเร่งด่วน เราแนะนำว่าให้ไปที่ประเทศ Brazil เพราะที่นี่มีธรรมเนียมแแปลกๆ ในวันแห่งความรัก คือการสุ่มเลือกคู่ครอง โดยการที่จะให้หนุ่มโสด สาวโสด เขียนชื่อตัวเอง แล้วหย่อนลงไปในหมวก จากนั้นก็จะมีการจับฉลากขึ้นมา หากชื่อใครไปจับคู่กับของใคร ทั้งคู่จะต้องตกลงแต่งงานกันทันที ยิ่งการมัดมือชกวิธีการนี้
JAPAN
ที่ญี่ปุ่นก็มีประเพณีไม่ต่างจากชาวเกาหลีใต้เสียเท่าไหร่ โดยจะเป็นฝ่ายหญิงอีกเช่นกันที่ต้องมอบของขวัญ ( ช็อคโกแลต ) ให้แก่ผู้ชาย แต่ที่ญี่ปุ่นนี้จะเป็นการให้ด้วยนัยยะอื่นไม่ใช่ในเชิงความรัก ที่เรียกว่าประเพณี Giri Choco ซึ่งเป็นการมอบช็อคโกแลตให้ตามมารยาท กับหัวหน้า เพื่อนร่วมงาน เพื่อนที่โรงเรียน เพื่อแสดงความขอบคุณ ที่ช่วยสนับสนุนการทำงานตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา แต่การให้ช็อคโกแลตแบบนี้ก็จะมีฉลากอย่างชัดเจน เพราะไม่งั้นฝ่ายชายอาจมีการสับสนได้ว่าเป็นการให้แบบ Honmei Choco ที่เป็นการให้ในเชิงชู้สาว
FRANCE
อันนี้น่าจะเป็นประเพณีประชดประชันความรักที่ไม่สมหวังมากกว่า เพราะผู้หญิงในฝรั่งเศสจะจัดการเผารูปภาพของผู้ชายที่ปฎิเสธความรักของพวกเธอในวันแห่งความรัก ซึ่งต่อมารัฐบาลฝรั่งเศสได้มีการสั่งแบบห้ามกิจกรรมนี้เพราะเป็นการสร้างความไม่สงบ วุ่นวายให้แก่ผู้อื่น
CHINA
ในประเทศจีนที่ดูจะมีวัฒนธรรมไม่ค่อยเกี่ยวข้องกับเทศกาลวาเลนไทน์เสียเท่าไหร่ แต่ไม่น่าเชื่อว่า เรื่องของความรักก็เป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา เพราะนักแสวงหาความรักในจีนจะเดินทางไปยังวัดที่มีเทพเจ้า Yue Lao ประทับอยู่เพื่อขอพรเกี่ยวกับความรัก ให้ท่านช่วยชี้แนะแนวให้โชคให้ลาภในการเจอคู่ครองที่ดี และเหมาะสมกับตนเอง ซึ่งเทพเจ้า Yue LAo ก็น่าจะคล้ายๆ กามเทพ cupid ของทางฝั่งตะวันตก
SLOVENIA
เนื่องจากวัน Saint Valentine คือนักบุญที่เกี่ยวเนื่องกับฤดูกาล spring / summer สำหรับชาว Slovenians ทำให้พวกเขาจะต้องถอดรองเท้า แล้วเดินด้วยเท้าเปล่าเหยียบย้ำทุ่งดอกไม้ของตัวเอง เพื่อเหมือนเป็นการเครียร์ทางไว้เตรียมพร้อมสำหรับการปลูกพืชพันธ์ุในฤดูกาลใหม่ ดังนั้นวันที่ 14 กุมภาพันธ์จึงเปรียบดังวันแรกของงการทำงานสำหรับเกษตรกร Slovenia
ESTONIA
ที่ประเทศ Estonia จะไม่ออกไปเฉลิมฉลองวันวาเลนไทน์กับคู่รักเหมือนประเทศอื่นๆ เพราะคนในประเทศนี้ ได้อุทิศวันแห่งความรักไว้สำหรับเพื่อนเท่านั้น โดยที่พวกเขาจะเฉลิมฉลองวันที่ 14 กุมภาพันธ์อยู่กับก๊วนเพื่อน พร้อมมอบของขวัญให้แก่กัน เพื่อเป็นการให้เกียรติแด่มิตรภาพความสัมพันธ์
Wales
คนในประเทศ Wales จะมีธรรมเนียมในการมอบช้อนรูปหัวใจให้แก่คนที่ตัวเองชื่นชอบเพื่อสื่อความหมายที่ว่า ฉันรักและปรารถนาในตัวคุณในวัน St. Dwynwen’s Day ( Welsh Valentine Day ) ช้อนนี้เปรียบดังเครื่องหมายแสดงความรัก ซึ่งหากคนที่ได้รับมอบกลับให้กับผู้ให้เป็นอันว่าทั้งคู่ตกลงปลงใจ ศึกษาดูใจกัน และจากวัฒนธรรมนี้ก็ได้เกิดเป็นคำใหม่ว่า “Spooning” ที่แปลว่า เกี้ยวพา จีบ
THAILAND
เชื่อหรือไม่ว่าประเทศเราก็มีวัฒนธรรมเกี่ยวกับวันแห่งความรักที่แตกต่างไม่เหมือนใคร เพราะในสมัยก่อนมีการสำรวจว่าวัยรุ่นไทยมักจะชวนกันไปมีเพศสัมพันธ์ในวันวาเลนไทน์ แต่ในยุคสมัยที่เปลี่ยนไปกลับพบว่าวัยรุ่นในปัจจุบันเลือกที่จะชวนคู่เดทไปเข้าวัดเข้าวา ทำบุญ ขอพรกันมากขึ้นในวันวาเลนไทน์ ซึ่งถือว่าเป็นเทรนด์ค่านิยมที่เปลี่ยนไปในทางที่ดี สำหรับวัยรุ่นไทย ( ความเป็นจริงแล้วพวกเขาแค่เปลี่ยนวันไปมีเพศสัมพันธ์แทนในวันลอยกระทง )
แต่สำหรับชาวไทยที่ไม่มีคู่ครอง พวกเขาไม่ได้ต้องการแอฟ Tinder ในการจัดหาคู่แต่อย่างใด เพราะบรรดาคนโสดจะมุ่งหน้าไปยังพระตรีมูรติ เพื่อทำการสักการะถวายดอกกุหลาบแดง ซึ่งชาวไทยเชื่อกันว่า พระตรีมูรติเป็นพระผู้มีความศักดิ์สิทธิ์ในเรื่องการให้พรสมหวังในเรื่องของความรัก ก็นานาจิตตังในเรื่องนี้